สองทุ่มของวันที่ 4 ก.ค.2562 น้ำทะเลหนุนสูงล้นท่วมทำนบดินชั่วคราวเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ไหลเข้าท่วมบ้านพักเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร เช้าวันถัดมา นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน ตรวจสภาพความเสียหายพบว่า ทำนบดินไม่ได้พัง แค่น้ำล้นเท่านั้น สั่งการให้เร่งซ่อมแซมให้มีระดับความสูงเพียงพอที่จะป้องกันน้ำทะเลขึ้นสูงสุดได้ พร้อมทั้งเสริมความมั่นคงแข็งแรงด้วย Bigbag อีกชั้นหนึ่ง 8 ก.ค.2562 พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ อัญเชิญสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมอบให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใย ติดตามทุกปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดกับพสกนิกรของพระองค์ในทุกพื้นที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสรับสั่งทรงห่วงใยความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานีสูบน้ำสำคัญ ทำหน้าที่ระบายน้ำออกสู่ทะเล เพื่อป้องกันบรรเทาภัยน้ำเหนือที่จะหลากลงมาท่วมขังในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ไม่ให้ได้รับความเสียหาย“โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำในบริเวณพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ให้อยู่ในสภาวะที่เป็นปกติ เพราะถือเป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะรองรับปริมาณน้ำจากทางตอนเหนือออกสู่ทะเล มีประตูระบายน้ำ 1 แห่ง และสถานีสูบน้ำ 2 แห่ง ประตูระบายน้ำจะเปิดเมื่อเวลาน้ำทะเลลดต่ำเพื่อให้น้ำในคลองด่านสามารถระบายลงสู่ทะเลได้รวดเร็ว และจะปิดเมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นสูง ในช่วงเวลาที่ปิดประตู จะใช้สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตรที่ได้ก่อสร้างไว้แล้ว 2 แห่ง คือ สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1 และสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 2 ในการสูบระบายน้ำออกสู่ทะเลได้แห่งละ 60 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมแล้วระบายน้ำได้ 120 ลบ.ม.ต่อวินาที”รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวอีกว่า แต่จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงสภาวะน้ำทางตอนเหนือมีมากขึ้นเรื่อยๆ กรมชลประทานจึงได้พิจารณาก่อสร้างโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำชลหารพิจิตร โดยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตรแห่งที่ 3 วงเงิน 613 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อ 16 ม.ค.2559 เมื่อแล้วเสร็จช่วยระบายน้ำได้อีก 60 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อรวมกับสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1–2 จะช่วยระบายน้ำได้ถึงวันละ 15.5 ล้าน ลบ.ม. ช่วยทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กรม ชลประทานสามารถ บริหารจัดการน้ำบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกได้ปัจจุบันสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 60 และกรมชลประทานจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงาน 10 ต.ค.ที่จะถึงนี้. ชาติชาย ศิริพัฒน์