ประเทศไทยได้รับการยกย่อง เป็นหนึ่งในแหล่ง “มหัศจรรย์แห่งพรรณไม้” ให้ผู้สนใจได้เรียนรู้...!ประกอบด้วย ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผล รับประทานได้ หนึ่งในนั้น คือ “ต้นมะตาด” ตามตำราบอกไว้ เป็นต้นไม้ที่ชาวไทยเชื้อสายมอญลุ่มน้ำแม่กลอง พื้นที่ ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นิยมปลูกจัดแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์คือ สายพันธุ์ข้าวเหนียวและสายพันธุ์ข้าวเจ้า สำหรับสายพันธุ์หลังนี้ได้รับความนิยมมากกว่าเพราะรสชาติอร่อย หากนำมาทำอาหารใช้วิธีสับแบบมะละกอตำส้มตำสำหรับดอกมะตาดมีให้เห็นเพียงปีละครั้ง จากการแทงยอดออกตามง่ามกิ่ง เมื่อดอกเบ่งบานจะมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีขาวงาช้างสวยงามผลิบานเวลากลางคืน ถึงช่วงเช้าจะร่วงโรยเหลือแต่เกสรตอนสายๆจากนั้นกลีบเลี้ยงจะหุบกลับเป็นลูกมะตาด ลักษณะลูกกลมๆสีเขียว เท่าผลมะนาว หากจะรับประทานผลต้องรอให้สุกประมาณ 5-7 วัน ถ้ารับประทานทันทีจะมีรสฝาดไม่อร่อยด้านสรรพคุณ รสเปรี้ยวของมะตาดช่วยป้องกันโรคหวัด ส่วนวุ้นเมือกในตัวช่วยเคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้ ในขณะที่ลูกมะตาดยังนำมาทำเป็นยาสระผมกำจัดเหาได้อีกด้วยนายคมสรร จับจุ ปราชญ์ชาวมอญ ต.นครชุมน์ กล่าวว่า จากการที่ชาวไทยเชื้อสายมอญนิยมรับประทานผักผลไม้พื้นบ้านตามฤดูกาล โดยฤดูฝนเป็นช่วงที่ต้นมะตาดออกดอกและผลชาวบ้านจะเก็บจากต้นนำมาทำอาหารไม่ว่าแกงส้มหรือแกงคั่ว วิธีการทำเหมือนกับแกงคั่วทั่วไป ผิดกันที่วัตถุดิบ ใช้ผลมะตาดมาเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ได้รสชาติอร่อยแตกต่างจากแกงคั่วทั่วไปแต่เหนือสิ่งอื่นใดได้ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้าน จากการนำไปทำเมนูแกงมะตาดขายในหมู่บ้านหรือขายผลสด โดยจะมีพ่อค้าเข้าไปเก็บถึงบ้านพัก ราคาลูกละ 1-2 บาท เพื่อนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งนี่แหละสุดยอดของดีชุมชนคนไทยเชื้อสายมอญ และกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาในบ้านเรา.เดชา โพธิ์ตั้งธรรม