ทำไม? พื้นที่ กทม.และปริมณฑล กลับมามีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อีก อยู่ระหว่าง 40–81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนใหญ่เกินเกณฑ์ค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศแย่ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 

สาเหตุหลักๆ ต้นตอของฝุ่นที่มาจากการก่อสร้าง และควันไอเสียรถยนต์แล้ว ในส่วนของสภาพอากาศเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เนื่องจากลมสงบ อากาศมีความชื้นสูง ยิ่งทำให้ฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้น โดยทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก “น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค” รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาระบุว่า ช่วงต้นสัปดาห์นี้ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลจะยังคงเผชิญฝุ่น และน่าจะคลี่คลายลงบ้าง เนื่องจากเริ่มมีฝนตกบ้าง และหลังจากนั้นประมาณวันที่ 4-6 ต.ค. จะมีฝนตกลงมามากขึ้นในพื้นที่ไทยตอนบน รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยฝนจะตกหนักบางจุด แต่ไม่หนักมากเหมือนช่วงมีพายุ

“อย่างเมื่อเช้า 1 ต.ค. มีบางพื้นที่ฝนตกระยะสั้นทางฝั่งตะวันออกของ กทม. เช่น เขตมีนบุรี และตอนล่างของ จ.สมุทรปราการ โดยฝนตกเป็นกระจุกๆ น่าจะทำให้สถานการณ์ฝุ่นคลี่คลายลงอีกสักระยะ และช่วงนี้กำลังเปลี่ยนจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเริ่มแปรปรวน จากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดลมจากฝั่งอันดามัน จะเปลี่ยนมาเป็นลมตะวันออก ซึ่งเป็นลมทะเล และลมเหนือพัดจากข้างบนลงมา ทำให้เกิดฝุ่นหมอกควันจากโรงงานใน กทม.และปริมณฑล หรือให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อหนาวกำลังมาก็เท่ากับมีฝุ่นเพิ่มขึ้น เหมือนเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วเจอสภาพฝุ่นหมอกควันคละคลุ้งไปทั่ว”

...

ส่วนสภาพอากาศขมุกขมัวในช่วงนี้ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน เนื่องจากการสะสมของฝุ่นละออง อีกทั้งลมอ่อนกำลังลงหรือลมนิ่ง ทำให้อากาศมีลักษณะกดทับ และเมื่อถึงช่วงบ่ายวันที่ 1 ต.ค.มีอากาศร้อน ซึ่งเกิดความร้อนสะสม ทำให้ลมพัดถ่ายเทมากขึ้น จึงเกิดการยกตัวของอากาศทำให้สถานการณ์ฝุ่นดีขึ้นตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป และจะมีฝนมากขึ้น จะช่วยบรรเทาฝุ่นและคลี่คลายในระยะหนึ่ง และเนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเย็นจะเข้ามาปกคลุมลงมา จะทำให้อากาศขมุกขมัวอีกเหมือนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับการคาดการณ์ฤดูหนาวในปีนี้ประมาณกลางเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งมีปัจจัยขึ้นอยู่กับมวลอากาศปกคลุม และลมตะวันออกเฉียงเหนือต้องพัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการประกาศฤดูหนาวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และจากข้อมูลปีนี้อากาศจะไม่หนาวมาก แต่หากเทียบกับปีที่แล้วจะหนาวกว่าเล็กน้อย เนื่องจากปีที่แล้วไม่หนาว สภาพอากาศสูงกว่าปกติจากค่าเฉลี่ย 30 ปี อยู่ที่ 2-3 องศาฯ ส่วนปีนี้อยู่ที่ 1 องศาฯ จากค่าเฉลี่ย 30 ปี

“ปีนี้ไม่หนาวเย็นมาก และเย็นไม่นาน แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องลม และมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนว่ามีมวลอากาศเย็นก้อนใหญ่หรือไม่อีกด้วย หากมาก้อนใหญ่จะหนาวบ้าง และหากมาก้อนเล็กจะหนาวเล็กน้อยเท่านั้น และสถานการณ์ฝุ่นน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ปัญหา ควบคุมควันท่อไอเสียของรถให้มากที่สุด เพื่อลดฝุ่นลง คิดว่าน่าจะดีขึ้น”.

...