ตั้งเจตนารมณ์วางกรอบนโยบายไว้เมื่อครั้งก้าวขึ้นรับตำแหน่งผู้นำทัพ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.เล็งเห็นปัญหาความขาดแคลนของกำลังพล “ชั้นผู้น้อย” ในปัจจุบัน บางโรงพักอัตรากำลัง 80 นาย บรรจุแต่งตั้งได้แค่ 30 นาย แถมไปช่วยราชการ 3 นาย เหลือแค่ 27 นาย
เจ้าตัวปรึกษากับฝ่ายทหารขอพวกที่เกณฑ์มาแล้วมาเป็น “นายสิบตำรวจ” ได้หรือไม่
กลุ่มพวกนี้จะถูกฝึกให้มีบุคลิกลักษณะทหารมาหมด ฝึกระเบียบวินัยอย่างเข้มข้นมาแล้ว เพียงแต่ใส่องค์ความรู้ของตำรวจลงไปให้เพิ่มเติม
สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลที่เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบ “สมัครใจ” และให้หน่วยต่างๆ พิจารณาสนับสนุนให้ทหารกองประจำการสามารถประกอบอาชีพอื่นต่อได้
กระทั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “เปิดไฟเขียว” อนุมัติให้รับสมัครและคัดเลือกทหารกองหนุนที่เคยรับราชการในกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) จำนวน 500 อัตรา บรรจุและแต่งตั้งเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม
เมื่อสำเร็จแล้วจะแต่งตั้งลงในสังกัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยงานที่มีหน้าที่สอดคล้องกับภารกิจของทหาร และมีความคุ้นเคยกับระบบการฝึกการใช้อาวุธต่างๆอยู่แล้ว
แค่มีคุณสมบัติจะต้องจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า มีอายุระหว่าง 18-27 ปีบริบูรณ์ และหน่วยต้นสังกัดจะต้องรับรองความประพฤติ
ผบ.ตร.มั่นใจว่า จะช่วยทดแทนการขาดแคลนตำรวจได้ อีกทั้งช่วยประหยัดงบประมาณในการฝึกอบรม
ที่สำคัญจะสร้าง “แรงบันดาลใจ” ในการอยากเกณฑ์ทหารแล้วได้รับโอกาสลงสนามเป็น “นายสิบตำรวจ” ไม่ยาก.
สหบาท
...
คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม