ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยยังผลุบโผล่ สมุทรสาครผู้ติดเชื้อลดลงเหลือแค่ 53 คน เตรียมเปิดตลาดสดใน 3 ตำบล พร้อมปูพรมตรวจหาภูมิคุ้มกันในกลุ่มผลตรวจเป็นลบแทน ขณะที่ ภาพรวมไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 126 คน เชื่อมโยง 2 ตลาดสดใน จ.ปทุมธานี ขณะที่ผลตรวจคัดกรองเชิงรุก 4 วัน พบผู้ติดเชื้อรวม 148 คน ด้านเทศบาลเมืองแม่สอด จ.ตาก ผู้ติดเชื้อรักษาตัวใน รพ.กว่า 100 คน ส่งผลปิดโรงเรียนต่อไปจนถึงวันที่ 22 ก.พ.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทย นับตั้งแต่เกิดการระบาดรอบใหม่เมื่อเดือน ธ.ค.2563 จากที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันร่วมพันคน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่อเนื่อง แต่กลับพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในบางจังหวัดแทน ไทยป่วยโควิดใหม่ 126 คนเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในเทศกาลตรุษจีน จึงไม่มีการแถลงข่าวสถานการณ์โควิดประจำวันเหมือนช่วงที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เผยแพร่สถานการณ์ประจำวันผ่านทางเพจศูนย์ข้อมูล COVID-19 ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 126 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 116 คน แยกเป็นมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 37 คน (กทม.7 คน สมุทรสาคร 29 คน และเพชรบุรี 1 คน) มาจากการค้นหาเชิงรุก 79 คน (สมุทรสาคร 24 คน ปทุมธานี 1 คน เพชรบุรี 1 คน ตาก 52 คน และสมุทรสงคราม 1 คน) เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 คน ได้แก่มาจากสหรัฐอเมริกา 3 คน ตรุกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 2 คน เยอรมนี มาเลเซียและอินเดีย ประเทศละ 1 คน ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 24,405 คน หายป่วยสะสม 21,180 คน อยู่ระหว่างรักษา 3,145 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมยอดสะสมคงที่ 80 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 108,727,001 คน เสียชีวิตสะสม 2,394,015 คน“บิ๊กตู่” มั่นใจคุมโควิดได้ต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งการแพทย์ สาธารณสุข การดูแลคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ การยับยั้งการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งเตรียมพร้อมวัคซีนเพื่อคนไทย รายงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดสถานที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ทั้งหมด 579 แห่ง แบ่งเป็น State Quarantine (SQ) 152 แห่ง ยังคงมีห้องรับได้ 14,119 ห้อง และ Local Quarantine (LQ) จำนวน 427 แห่ง พร้อมใช้งาน 195 แห่ง เตรียมพร้อม 232 แห่ง สามารถรองรับ 10,257 คน โรงพยาบาลสนามจัดตั้งแล้วใน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.อ่างทอง จ.สมุทรสาคร จ.จันทบุรี จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ปัจจุบันเปิดให้บริการ 3,092 เตียง Factory Quarantine (FQ) ใน จ.สมุทรสาคร 2,389 เตียง และช่วยคนไทยในต่างประเทศกลับประเทศไทยแล้ว ในช่วง 4 เมษายน 2563-8 ก.พ. 2564 จำนวน 167,617 คน ทั้งจากเที่ยวบินและจากด่านชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำย้ำเริ่มใช้วัคซีนเดือนนี้นายอนุชากล่าวว่า ส่วนการยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ จัดตั้งจุดตรวจโดยเหล่าทัพและตำรวจทั่วประเทศ 1,522 จุด รวมทั้งจัดชุดสายตรวจคัดกรองบุคคลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การป้องกันและสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกระทรวงมหาดไทยตั้งจุดตรวจและจุดสกัด 127 จุด ตรวจคัดกรองบุคคล จำนวน 9,882 คน สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีแผนกระจายวัคซีน 63 ล้านโดส โดย 2 ล้านโดสให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และอีก 61 ล้านโดสจะกระจายไปยังจังหวัดที่พบผู้ป่วย วางแผนฉีดวัคซีน 10 ล้านโดสต่อเดือน มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชนให้บริการกว่า 1,000 แห่ง และอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายไปให้บริการ ณ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล (สต.) ด้วย คาดว่าจะเริ่มใช้วัคซีนได้ภายในเดือน ก.พ.2564 ทั้งนี้นายกฯให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกหน่วยงาน พร้อมย้ำว่าเมื่อทราบปัญหาแล้วต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว พร้อมเข้าร่วมแก้ปัญหาของทุกหน่วยงาน ด้วยความมั่นใจว่าโควิด-19 สามารถควบคุมได้ เพราะคนไทยร่วมมือกันด้วยดีตามแนวทาง “รวมไทย สร้างชาติ ฝ่าวิกฤติโควิด-19”ปทุมฯตรวจ 2 ตลาดติดเชื้ออื้อวันเดียวกัน ที่จุดคัดกรองตลาดพรพัฒน์ ซอยรังสิต-ปทุมธานี 19-21 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอธัญบุรี ร่วมกันเร่งตรวจคัดกรองแรงงานในตลาด และเจ้าของร้าน หลังจากมีการตรวจคัดกรองโรคต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา 169 คน พบผู้ติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 32 คน วันที่ 11 ก.พ. ตรวจคัดกรอง 288 คน พบผู้ติดเชื้อ 52 คน และในวันที่ 12 ก.พ. ตรวจคัดกรอง 360 คน พบเพิ่มอีก 40 คน รวม 3 วัน ตรวจคัดกรองไปแล้ว 817 คน พบผู้ติดเชื้อโดยรวมทั้งคนไทยและต่างด้าว 124 คน ส่วนในวันที่ 13 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 24 คน เป็นคนไทย 16 คน ชาว ต่างด้าว 8 คน รวม 4 วัน พบผู้ติดเชื้อ 148 คน ทั้งนี้ นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอธัญบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดปทุมธานีจะเร่งตรวจคัดกรองให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปที่อื่น ต้องขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านค้าในตลาด ให้ช่วยกันนำแรงงาน และบุคคลที่อยู่ในตลาดหรือครอบครัว ให้ช่วยกันออกมาตรวจคัดกรองให้ได้ครบทุกคน ถ้าพบจะได้รักษาให้หายขาดตลาดรังสิตยันไร้คนติดเชื้อผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน น.ส.สุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ผู้บริหารตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ชี้แจงว่า ตามที่มีสื่อลงข่าวปิดตลาดสดรังสิต เนื่องจากการตรวจคัดกรองโควิด -19 ในเชิงรุก และพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม ขอชี้แจงว่าเป็น “ตลาดในย่านรังสิต” สำหรับศูนย์การค้าตลาดรังสิต ประกอบไปด้วย ตลาดสดรังสิต ตลาดผ้ารังสิต, ครัวรังสิต เรือนรังสิต, ตลาดนัดรังสิตวันพุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตลาดนัดพระเครื่องรังสิตวันจันทร์ ศูนย์เกษตรและสัตว์เลี้ยงรังสิต และโค้งรังสิต ยังคงเปิดเป็นปกติ ก่อนที่เข้าสู่ตลาดรังสิตมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด อาทิ ให้สวมแมสก์ตลอดเวลาระหว่างเดินซื้อของ หรือร้านค้าต้องสวมแมสก์ตลอดเวลาที่ขายของ หมั่นตรวจเช็กร่างกายวัดอุณหภูมิอยู่อย่างสม่ำเสมอ ขอยืนยันว่าตอนนี้ตลาดรังสิตไม่ได้มีคนติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่คนเดียว แต่เป็นตลาดข้างเคียงทั้ง 2 ตลาด คือ ตลาดพรพัฒน์ และตลาดสุชาติ อยู่ห่างจากตลาดของเราไปพอสมควรร.10 ราชินี พระราชทานอาหารส่วนที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ก.พ. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร เป็นผู้แทนผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาคร รับมอบอาหารพระ ราชทานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้องประชุมพระนรราชจำนง โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับอาหารพระราชทานที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมาคมภัตตาคารไทย ร่วมกับชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร จัดปรุงนี้เป็นเมนูอาหารที่คำนึงถึงความสด สะอาด มีคุณประโยชน์ตามหลักโภชนาการ และถูกหลักอนามัย รวมถึงการนำอาหารพระราชทานให้ที่โรงพยาบาล ศูนย์ห่วงใยคนสาคร และศูนย์เฝ้าระวังผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะไม่มีการจัดตั้งหน่วยแจกอาหารพระราชทาน ณ ที่หนึ่งที่ใด พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ในการนี้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อนำไปจัดปรุงอาหารพระราชทานแก่บุคคลดังกล่าว ข้างต้น โดยจัดทำมื้อละ 2,500 กล่อง วันละ 3 มื้อ รวมทั้งสิ้น 7,500 กล่องต่อวัน ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.นี้ ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมปูพรมตรวจหาภูมิคุ้มกันส่วนการตรวจ “แอนติบอดี หรือภูมิคุ้มกันส่วนตัว” ในบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม Bubble & Seal ที่เคยตรวจหาเชื้อแล้วผลเป็นลบหรือไม่พบเชื้อ ให้ได้วันละ 8 พันคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ราวๆ 4 หมื่นคน แต่ละคนจะต้องตรวจซ้ำ 2 ครั้งนั้น วันเดียวกัน นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.รพ.สมุทรสาคร ชี้แจงว่าสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครจะใช้วิธีตรวจทั้งหมด 3 วิธี คือ 1.แรพบิทเทส เป็นการตรวจที่หน้างาน ประมาณ 3 หมื่นคน ทราบผลภายใน 3 ชั่วโมง 2.ตรวจแบบอีไลซา (ELISA) โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 3 หมื่นคน เป็นการทดสอบที่ใช้แอนติบอดีและการเปลี่ยนแปลงของสีในการวิเคราะห์ หรือหาตัวตนของสาร ทราบผลภายใน 3-4 วัน และ 3.ตรวจแบบ neutralizing antibody โดยแล็บโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 2 พันคน ทราบผลภายในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับการตรวจแบบอีไลซา ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงและไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ไม่มีความจำเป็นจะต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันนี้ ทั้งนี้ จ.สมุทรสาคร ณ วันที่ 12 ก.พ. พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 53 คน รวมสะสม 15,624 คนลุยล้างตลาดใน 3 ตำบลขณะที่ตลอดวันที่ 13 ก.พ. เจ้าหน้าที่เทศบาลนครสมุทรสาคร นำรถน้ำดับเพลิงที่บรรทุกน้ำคลอรีนเข้มข้นฉีดพ่นตลาดในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าฉลอม ตำบลโกรกกราก และตำบลมหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร อาทิ ตลาดวงเวียนท่าฉลอม ตลาดสดเทศบาล ต.ท่าฉลอม ตลาดนัดเสรี ตลาดวัดเจษซอย 8 ตลาดโค้งตาเจียง 1-4 ตลาดท่าปรง ตลาดนัดวัดช่องลม ตลาดทรีเดินเล่น และตลาดนัดวัดโกรกกราก เป็นต้น ตามแผนปฏิบัติการล้างตลาด 22 แห่ง ครบจบ 3 วัน (12-14 ก.พ.64) คืนความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ ผู้บริโภค และผู้ขาย ส่วนการเปิดตลาดจะมีขึ้นพร้อมกันทั้ง 22 แห่ง ในวันที่ 15 ก.พ.ภายใต้มาตรการที่เข้มข้น ทั้งผู้ค้า คนงานในตลาด อาทิ ต้องลงทะเบียนกับทางเทศบาล มีป้ายชื่อกำกับ ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลยืนยันไม่พบเชื้อ ตลอดจนต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันโควิดยังป่วนแม่สอด-ปิดเรียนต่อสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อำเภอแม่สอด เมื่อวันที่ 13 ก.พ. แม้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลังจากมีการล็อกดาวน์ใน 2 พื้นที่ คือท่าเรือที่ 13 บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด หลังจากพบผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานชาวเมียนมา 38 คน และชุมชนมัสยิดอันซอร์ เขตเทศบาลนครแม่สอด ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 27 คน และนำผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยกว่า 40 คน ไปกักกันที่สถานกักตัวท้องถิ่น 14 วัน สรุปผู้ป่วยสะสม จ.ตาก รวม 229 คน รักษาหาย 106คน เสียชีวิต 2 คน รักษาในโรงพยาบาล รวม 121 คนขณะที่โรงเรียนในเขตเทศบาลนครแม่สอด ที่จะเปิดเรียนในวันที่ 15 ก.พ. แต่สถานการณ์โควิดยังไม่เบาบาง ทำให้เทศบาลนครแม่สอด สั่งปิดโรงเรียนในสังกัด 11 แห่ง ไปเปิดเรียนในวันที่ 22 ก.พ. ไฟเขียวสร้าง รพ.สนามนอกจากนี้ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ทีมสาธารณสุขจังหวัดตาก ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำประชาคมรับฟังความเห็นชอบจากชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยใกล้กับสนามกีฬา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก ที่จะจัดทำเป็น รพ.สนาม มีชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเขตติดต่อของเทศบาลนครแม่สอด อาทิ ชาวบ้านร่วมใจพัฒนา หมู่ 10 ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด เข้าร่วมรับฟังและเสนอความคิดเห็น ผู้ในที่ประชุมต่างยกมือเห็นด้วยที่จะให้ใช้สนามกีฬา 5 อำเภอชายแดน ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม สำหรับรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอนาคตต่อไปติดเชื้อโยงตลาดในปทุมธานีนอกจากนี้ ตลอดวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมอีกในหลายจังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบุรี พบเพิ่ม 6 คน จำนวนนี้ 5 คน เป็นหญิง 4 คน ชาย 1 คน เป็นผู้ค้าขายเชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี และเป็นผู้ค้าขายเชื่อมโยงตลาดรถไฟ จ.สมุทรสาคร 1 คน ส่วน จ.สระบุรี พบเพิ่ม 2 คน เป็นผู้ค้าขายเชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ จ.ปทุมธานี ขณะที่ จ.นครปฐม พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 คน เป็นชายวัย 68 ปีได้สิทธิเราชนะทะลุ 29.7 ล้านคนวันเดียวกัน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 11.03 ล้านคน หลังจากนี้จะเร่งตรวจสอบข้อมูลและทยอยแจ้งผลคัดกรองให้ทราบอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้ผ่านการคัดกรองตรวจสอบสิทธิแล้ว 7.53 ล้านคน เมื่อรวมกับผู้ได้รับสิทธิในกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน และผู้ใช้สิทธิแอปพลิเคชันเป๋าตังอยู่แล้วอีก 8.4 ล้านคน รวมผู้ได้รับสิทธิเราชนะแล้ว 29.73 ล้านคน สำหรับผู้ผ่านการคัดกรองทั้งในกลุ่มผู้มีแอปพลิเคชันเป๋าตังอยู่แล้ว และกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์จะต้องเข้าไปกดยืนยันสิทธิในแอปเป๋าตัง เพื่อรับวงเงินงวดแรกวันที่ 18 ก.พ.นี้ 2,000 บาท จากนั้นจะทยอยโอนให้ทุกวันศุกร์สัปดาห์ละ 1,000 บาท จนครบวงเงินที่กำหนด ส่วนการลงทะเบียนในรอบถัดไป จะเป็นกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง จะเริ่มเปิดให้ตั้งแต่วันที่ 15-25 ก.พ.นี้ ที่ธนาคารกรุงไทย นำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ไปติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย แต่หากยังไม่มีบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ขอให้ติดต่อทำใหม่โดยด่วนไม่ผ่านคัดกรองทบทวนสิทธิได้น.ส.กุลยากล่าวอีกว่า กลุ่มคนที่ไม่ผ่านคัดกรอง หากเห็นว่าข้อมูลไม่ถูกต้องสามารถยื่นขอทบทวนสิทธิได้ผ่านเว็บไซต์เราชนะจนถึง 8 มี.ค.นี้ รวมถึงกลุ่มคนที่เพิ่งตกงานปี 2563 แต่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินภาษีปี 2562 เกิน ก็ยื่นทบทวนสิทธิได้ภายใน 8 มี.ค.เช่นกัน แต่จะต้องรีบยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2563 เข้ามาที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกรมสรรพากรให้เสร็จภายใน 7 วัน นับแต่ยื่นขอทบทวนสิทธิด้วย เพื่อให้ระบบนำข้อมูลภาษี เป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตรวจสอบใหม่ จะช่วยแก้ปัญหากรณีที่ถูกตัดสิทธิจากการคิดฐานภาษีเงินได้ปีเก่าไปได้ยุโรปเตือนมีวัคซีนก็ห้ามการ์ดตกด้านสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ มีรายงานการติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 107 ล้านคน เสียชีวิต 2,474,000 คน โดยสหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก ด้วยจำนวนมากกว่า 27 ล้านคน และเสียชีวิต 475,814 คน นับแต่เริ่มการระบาดโดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 102,529 คน ในช่วง 24 ชั่วโมง ส่วนที่ยุโรปนางแอนเดรีย แอมมอน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) เตือนว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะยังคงมีอยู่ แม้ว่าการติดเชื้อทั่วโลกจะชะลอตัวลงเกือบครึ่งหนึ่งในเดือนที่แล้ว และเริ่มการฉีดวัคซีนในส่วนต่างๆของโลก แต่ขอให้อย่าประมาท การ์ดอย่าตก เพราะไวรัสสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี โลกจึงควรเตรียมพร้อม แม้ว่าวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยที่เกิดจากโควิด-19 ได้อย่างมาก แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ระบุอย่างแน่ชัดว่าวัคซีนช่วยลดการแพร่เชื้อไวรัสได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อไวรัสกลายพันธุ์บางสายพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแอฟริกาใต้และบราซิล ต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่เสมอ เหมือนอย่างที่มีการปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นประจำทุกปี ในยุโรปที่มีการฉีดวัคซีนไปบ้างแล้วมีทั้งอังกฤษ เซอร์เบีย เดนมาร์ก และเบลเยียม
