เกิดภัยแล้งขึ้นมาที เป็นได้ยินโครงการขายฝัน จะเอาน้ำจากแม่น้ำนานาชาติมาแก้แล้งทุกที...แต่ผลลัพธ์ที่ได้ เขาพูดหวังแค่บรรเทาจิตใจ ซื้อเวลาให้วิกฤติผ่านพ้นไปเท่านั้น

เพราะโครงการแบบนี้มีมานานร่วม 3 ทศวรรษ แต่แล้วทุกอย่างต้องฝันสลาย ยากที่จะเป็นจริงในทางปฏิบัติได้...การเจรจาให้เพื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำโขง และสาละวินยินยอมให้เราทำได้ไม่ใช่ง่าย...ไม่เคยสำเร็จ

ตกมาถึงยุคประเทศไทย มี สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นองค์กรกลางดูแลการบริหารจัดการน้ำประเทศให้เป็นระบบเดียวกัน...เลยได้บทสรุป เลิกคิดฝันเอาน้ำจากแม่น้ำระหว่างประเทศมาใช้

แต่จะเปลี่ยนมาหาวิธีกักน้ำในประเทศไม่ให้ไหลทิ้งลงแม่น้ำนานาชาติไปอย่างสูญเปล่า เก็บกักไว้เพื่อจะส่งต่อไปให้พื้นที่แห้งแล้งได้มีน้ำใช้กัน

ทุกอย่างจะทำในเขตพื้นที่ในประเทศ ไทย ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ระหว่างประเทศ... แบบเดียวกับที่จีน ลาว สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในเขตประเทศของตัวเองนั่นแหละ

ถ้าจะถามว่า โครงการทำนองนี้ได้เริ่มมีการทำกันที่ไหนบ้างแล้ว ว่ากันเฉพาะเขตรอบนอกประเทศ...ลำนํ้าสาขา 24 ลำน้ำที่ไหลลงโขง ตั้งแต่ จ.เลย ลงไปถึง จ.อุบลราชธานี มีการสร้างประตูระบายและกักเก็บน้ำไปเกือบหมดแล้ว เหลืออีกเพียง 8 แห่ง จะเสร็จในปี 2565

โครงการห้วยหลวง...สร้างประตูระบายน้ำและกั้นแม่น้ำห้วยหลวงก่อนไหลลงโขง ที่ จ.หนองคาย พร้อมกับสร้างประตูน้ำในลำนํ้าอีก 4 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำไว้ในลำน้ำแล้วสูบทอนย้อนน้ำกลับคืนส่งไปให้พื้นที่แห้งแล้ง ไปยังเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อยู่ระหว่างก่อสร้าง

โครงการโขง-เลย-ชี-มูล กั้นแม่น้ำเลยก่อนไหลลงแม่น้ำโขง ที่ จ.เลย ส่งน้ำไปตามอุโมงค์ และลำน้ำธรรมชาติด้วยแรงโน้มถ่วง ผ่านพื้นที่ 27 อำเภอ 7 จังหวัด เลย, หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, อุดรธานี, หนองคาย, ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์...อีกโครงการ ผันน้ำจากแม่น้ำยวม อ.บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ไปลงเขื่อนภูมิพล ทั้งสองโครงการนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม

...

ยังไม่อาจจะแน่ใจได้ว่า จะเป็นจริงได้แค่ไหน...ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความจริงใจของฝ่ายการเมือง รวมทั้งเสียงคัดค้านจากเอ็นจีโอเจ้าประจำ.


สะ–เล–เต