กอดิซียะห์ซัดดามคือสงครามอิรัก-อิหร่านที่เกิดขึ้นระหว่างค.ศ.1980-1988 ส่วนอิหร่านเรียกสงครามนี้ว่าสงครามป้องกันตนเองอันศักดิ์สิทธิ์ สงครามครั้งนั้นมีชาวอิหร่านเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 1 ล้าน ส่วนอิรักมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 5 แสน มีความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากมายมหาศาล ประมาณกันว่าทั้ง 2 ประเทศเสียหายรวม 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 70 ล้านล้านบาท การพัฒนาเศรษฐกิจหยุดชะงัก การส่งออกน้ำมันโดนกระทบ
สหรัฐฯใช้อิรักก่อสงคราม หวังจะใช้อิรักไปล้มอิหร่าน สหรัฐฯจึงบังคับให้ประเทศที่เป็นพันธมิตรของตนให้เงินกู้แก่อิรัก หลังจากสงครามเสร็จสิ้นลง อิรักติดหนี้ 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกู้มาจากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และจอร์แดน การรับใช้สหรัฐฯในครั้งนั้น ทำให้อิรักในยุคต้นของซัดดัม ฮุสเซน เป็นหนี้หัวโต โดยที่สหรัฐฯไม่ไยดี นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซัดดัมตีตัวออกห่างจากสหรัฐฯ และโดนสหรัฐฯโค่นล้มอำนาจ จนต้องถูกประหารชีวิตในที่สุด
ล้มซัดดัมใน ค.ศ.2003 ได้แล้ว สหรัฐฯก็เข้าไปดูดน้ำมัน และมีอิทธิพลต่อรัฐบาลอิรัก ทำให้อิรักและอิหร่านหมางเมินต่อกัน หลังจากซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศหันไปเป็นมิตรกับจีนและรัสเซีย ประเทศอื่นๆในตะวันออกกลางก็ทำตาม ซาอุฯ กับอิหร่านหันมาจับมือกัน ซีเรียเริ่มไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้คนในมากมายหลายประเทศเริ่มพูดถึงความชั่วร้ายของสหรัฐฯที่ทำกับภูมิภาคตะวันออกกลางที่เข้ามาทำให้คนทะเลาะกันและบานปลายขยายจนกลายเป็นสงคราม แต่ตอนนี้ประเทศในตะวันออกกลางหันมาจับมือกัน และเขี่ยสหรัฐฯให้ออกไปจากภูมิภาค
30 เมษายน 2023 ฯพณฯ อับดุล ลาทีฟ ราชิด ประธานาธิบดีอิรักไปเยือนอิหร่าน ฯพณฯ อิบรอฮีม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่านให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ท่านไรซีกล่าวกับท่านราชิดว่า การประจำการของทหารอเมริกันในตะวันออกกลางรบกวนความมั่นคงในภูมิภาค ท่านแสดงความหวังว่า การมาเยือนอิหร่านของท่านราชิดจะนำไปสู่จุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
...
อิหร่านมีผู้นำสูงสุดคืออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ท่านคาเมเนอีพูดกับท่านราชิดอย่างตรงไปตรงมาว่า สหรัฐฯไม่ใช่เพื่อนของอิรัก โดยแท้ที่จริงสหรัฐฯไม่ใช่เพื่อนของใครทั้งนั้น แม้แต่กับยุโรปที่สหรัฐฯพูดอยู่เสมอว่าเป็นเพื่อนของสหรัฐฯ ก็ไม่ใช่ “การที่มีทหารสหรัฐฯมาประจำการในอิรักเพียง 1 นาย ก็ถือว่ามากเกินไป” (ทหารอเมริกันอยู่ในอิรัก 2,500 นาย)
สหรัฐฯบีบอิหร่านทุกทาง ความมุ่งหวังตั้งใจก็คือจะต้องให้อิหร่านพังให้ได้ สหรัฐฯสร้างมาตรการคว่ำบาตร ไม่ให้ประเทศต่างๆ ค้าขายกับอิหร่าน ต้องการจะล้อมให้อิหร่านอดอยากยากแค้น และต้องกลับมาสวามิภักดิ์กับสหรัฐฯในที่สุด สหรัฐฯสร้างมาตรการบานเบอะเยอะแยะเพื่อกดดันไม่ให้มีการทำธุรกรรมระหว่างอิรักกับอิหร่าน ทว่าอิหร่านก็อดทนและประคองสถานการณ์เพื่อให้ตนเองอยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางพันธมิตรของสหรัฐฯ
แต่ก่อนง่อนชะไร ประเทศในตะวันออกกลางที่เป็นลูกน้องของสหรัฐฯต้องฟังเสียงเจ้านายคือสหรัฐฯมาโดยตลอด สหรัฐฯชี้นกแล้วบอกว่านั่นไม้ ทุกประเทศก็ต้องร้องว่าไม้ สหรัฐฯชี้ไม้แล้วบอกว่านก ทุกประเทศก็ลิ้นกระดก “นก นก จ้ะนก” ทว่าปัจจุบันไม่ใช่แล้วครับ อิทธิพลของสหรัฐฯเริ่มเบาบางเจือจางลงมาก สหรัฐฯสูญเสียความนิยมหลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน ทุกประเทศเริ่มรู้เช่นเห็นชาติสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้หลอกใช้เซเลนสกีให้ก่อสงครามกับรัสเซีย แต่ก็ช่วยเซเลนสกีไม่สุด แถมยังหาประโยชน์ด้วยการขายพลังงานราคาแพงให้ประเทศในยุโรปหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง
เทสหรัฐฯแล้ว ประเทศต่างๆทางตะวันออกกลางก็หันไปคบสมาคมกับจีนและรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ ใครจะนึกว่าศัตรูคู่ต่างๆ ในตะวันกลางจะหันมาจับมือกัน โอบกอดกัน
ประเทศที่ตกใจจนตาถลนออกมานอกเบ้าก็คือสหรัฐฯ อังกฤษ และอิสราเอล ประเทศพวกนี้รู้ตัวว่าเวลาอันรุ่งเรืองของตนกำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com