“ปูติน” เปิดฉากถล่มยูเครนเต็มรูปแบบ ออกแถลงการณ์ ยกเหตุผลปกป้องผู้คนที่ถูกกลั่นแกล้งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มา 8 ปี ปลดพันธนาการจากรัฐบาลเผด็จการขวาจัด สั่งโจมตีหักหน้ายูเอ็นขณะถกคลี่คลายสถานการณ์สู่สันติ ระดมยิงปืนใหญ่ จรวดขีปนาวุธปูพรมยึดน่านฟ้าเคลื่อนพลยานเกราะบีบล้อมทุกทิศทางทั้งเหนือ-ใต้-ตะวันออก ทหารยูเครนไม่ฝืนเลี่ยงปะทะ นักบินหนีเข้าโรมาเนีย “โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี” ประกาศกฎอัยการศึก ตัดสัมพันธ์สั่งกองทัพสู้ยิบตา เรียกร้องชาติตะวันตกยื่นมือเข้าช่วย ขณะที่ราคาทอง-น้ำมันโลกรับผลกระทบพุ่งกระฉูด หุ้นร่วงแดงทั้งกระดาน “บิ๊กตู่” ห่วงคนไทยให้เกาะติดข่าวอย่างใกล้ชิด เตรียมอพยพตามแผนหลังจากโลกจับตาสถานการณ์ในยูเครนอย่างตระหนกในช่วงหลายวันที่ผ่านมา จากกรณีรัสเซียรองรับเอกราชจังหวัดโดเนตสก์-ลูฮานสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน พร้อมส่งหน่วยรบเฉพาะกิจข้ามพรมแดนเข้าไปบางส่วน อ้างให้เป็นการรักษาความสงบใน 2 จังหวัดดังกล่าวนั้น ล่าสุดผู้นำรัสเซียสั่งเปิดฉากใช้ปฏิบัติการทางการทหารโจมตียูเครนทุกทิศทาง “ปูติน” สั่งใช้ทหารสยบยูเครนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. โดยระบุว่าในช่วงเช้าตรู่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์สะเทือนโลก ประกาศไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากการเริ่มปฏิบัติการทางทหารครั้งพิเศษต่อยูเครนอย่างเป็นทางการ เพื่อปกป้องผู้คนที่ถูกกลั่นแกล้งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากเหตุความรุนแรงในยูเครนตะวันออกที่ดำเนินมากว่า 8 ปี และเพื่อลดการขยายอิทธิพลทางการทหารของยูเครน ไปจนถึงการทำให้การเมืองยูเครนหลุดพ้นจากรัฐบาลเผด็จการขวาจัดของยูเครนจี้วางอาวุธ–คนอื่นอย่าแหย็มนายปูตินยังกล่าวต่อไปว่าด้วยเหตุนี้จึงขอเรียกร้องให้กองทัพยูเครนวางอาวุธและเดินทางกลับบ้าน ทหารยูเครนทุกนายที่ทำตามข้อเรียกร้องนี้ จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากพื้นที่การรบได้อย่างอิสระ แต่การสูญเสียเลือดเนื้อใดๆที่เกิดขึ้น ขอให้รับรู้ว่ายูเครนคือฝ่ายสมควรถูกกล่าวโทษ และดูจากสถานการณ์ตึงเครียดที่ผ่านมา เชื่อว่าการปะทะกันระหว่างกองทัพยูเครนกับกองทัพรัสเซียเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น กระนั้น รัสเซียยังขอยืนยันว่า ไม่มีแผนการที่จะเข้ายึดครองยูเครน พร้อมชี้แจงด้วยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ความยุติธรรมและความจริงอยู่ข้างรัสเซีย และใครก็ตามที่จะมาเผชิญหน้ากับรัสเซีย จะได้รับการตอบสนองในทันทีเริ่มโจมตีพร้อมกับแถลงการณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศในยูเครน รายงานว่า ในช่วงที่นายปูตินออกแถลงการณ์นั้น ได้มีรายงานเสียงระเบิดมาจากฝั่งพรมแดนรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยรายงานเสียงระเบิดในพื้นที่เมืองต่างๆของยูเครน นับ 10 เมืองในภาคตะวันออก ไปจนถึงพื้นที่เมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟ ซึ่งไม่นานก็ได้เปิดสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังระงมไปทั่วกรุง โดยต่อมากระทรวงมหาดไทยยูเครน รายงานยืนยันว่า กองทัพรัสเซียได้ทำการรุกรานยูเครนอย่างเป็นทางการ มีการส่งทหารข้ามพรมแดนเข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ ไปจนถึงการยกพลขึ้นบกที่เมืองโอเดสซา ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งอยู่ติดกับคาบสมุทรไครเมีย ทางภาคใต้ของยูเครน ที่ถูกรัสเซียยึดครองไปเมื่อปี 2557 ตามด้วยรายงานว่าฐานทัพอากาศวาซิลคาฟสกี ชานกรุงเคียฟ ถูกขีปนาวุธยิงโจมตีอย่างหนักหน่วง โดยมีเป้าหมายทำลายฝูงเครื่องบินรบ และเครื่องบินสนับสนุนการรบภาคพื้นดินของยูเครนไฟเขียวบุกถล่มหักหน้ายูเอ็นปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน ยังเกิดขึ้นในขณะที่มีการประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อหาทางคลี่คลายสถาน การณ์ความขัดแย้งในยูเครนและเป็นช่วงเดียวกับที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่กล่าวทันทีหลังทราบข่าวการรุกรานว่าขอให้ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ยุติการโจมตียูเครน ให้โอกาสแก่สันติภาพ สงครามไม่มีประโยชน์อันใด ขณะที่นายเซอร์เก คีส์ลิตเซีย ทูตพิเศษยูเครนประจำสหประชาชาติเรียกร้องให้นานาชาติทำอะไรสักอย่าง สาปแช่งว่าใครก่อสงครามลงนรกสถานเดียว พร้อมท้านายวาสิลี เนเบนเซีย ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติให้ชี้แจงเหมือนที่ผ่านมาว่าจะไม่รุกรานยูเครน โดยนายเนเบนเซียตอบว่ารัสเซียไม่ได้ทำการรุกรานต่อประชาชนยูเครน แต่เป็นการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการที่กุมอำนาจในยูเครน “ไบเดน” ส่งแรงใจ–ห้วงเวลามืดมนนอกจากนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังออกแถลงการณ์เร่งด่วนว่า ชาวโลกต่างส่งแรงอธิษฐานให้ประชาชนชาวยูเครน หลังต้องระทมทุกข์จากการรุกรานอย่างก้าวร้าวและไร้ความชอบธรรมของกองทัพรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินเป็นผู้เลือกทำสงครามตามที่วางแผนไว้ อันจะนำมาซึ่งความสูญเสียและความทุกข์ยากของมนุษย์ รัสเซียผู้เดียวเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบต่อความตายและความเสียหายที่ตามมา สหรัฐฯและชาติพันธมิตรจะตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างเป็นเอกภาพและชัดเจนโลกถือว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบ ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่านี่คือหายนะสำหรับยุโรป และรัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างที่ไม่เคยพบเห็น ส่วนสหภาพยุโรประบุว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2ทัพรัสเซียบีบล้อมทุกทิศทางต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน สถานการณ์ในยูเครนเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดยสำนักข่าวต่างประเทศได้รับข้อมูลยืนยันว่ากองทัพรัสเซียได้เปิดฉากการบุกข้ามพรมแดนเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. โดยเข้ามาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเมืองคาร์คีฟ เคลื่อนทหารเข้าพื้นที่เมืองมาริอูโปล เมืองท่าเรือติดทะเลดำ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เคลื่อนขบวนยานเกราะเข้ามาจากทางคาบสมุทรไครเมีย ทางภาคใต้ของยูเครน ไปจนถึงข้ามด่านพรมแดนเข้ามาจากประเทศเบลารุส ทางภาคเหนือของยูเครน ซึ่งรัฐบาลยูเครนตรวจพบว่ามีทหารจากกองทัพเบลารุสผสมโรงบุกมาพร้อมกับกองทัพรัสเซียเช่นกัน ทหารยูเครนกำลังทำการสู้รบอย่างหนักหน่วง พร้อมเคลื่อนหน่วยรบรถถัง-ยานเกราะมุ่งหน้าสู่กรุงเคียฟเพื่อปกป้องเมืองหลวง ที่อยู่ห่างจากพรมแดนเบลารุสไปเพียง 88 กิโลเมตร ซึ่งบรรยากาศในเมืองหลวงเต็มไปด้วยความโกลาหล ทางหลวงออกจากกรุงรถติดเป็นแนวยาว ประชาชนจำนวนมากต่างเข้าไปหลบภัยในสถานีรถไฟใต้ดินทหารยูเครนไม่สู้–นักบินหนี?อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศยังระบุด้วยว่า แม้รัฐบาลยูเครนจะสั่งให้ทหารปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ ทหารยูเครนบางส่วนตามแนวพรมแดนยังคงหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับกองทัพรัสเซีย และปล่อยให้หน่วยยานเกราะของรัสเซียข้ามพรมแดนเข้ามาในยูเครนอย่างไร้การต่อต้าน ทั้งต่อมามีรายงานว่าฝูงบินรบเอฟ-16 ของกองทัพอากาศโรมาเนีย ประเทศทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน ได้ขึ้นบินสกัดกั้นเครื่องบินรบซูคอย-27 ของกองทัพอากาศยูเครนจำนวนหนึ่งที่บินรุกล้ำน่านฟ้าเข้าไปในโรมาเนีย ก่อนบังคับให้ลงจอดที่สนามบินพร้อมเข้าควบคุมตัวนักบินยูเครน ซึ่งแม้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่นักบินยูเครนพยายามหนีการสู้รบยันยูเครนพินาศน่านฟ้าถูกปิดแม้กองทัพรัสเซียยังปฏิเสธที่จะชี้แจงราย ละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน แต่ยืนยันว่าการเปิดฉากระดมยิงด้วยจรวดมิสไซล์ และขีปนาวุธในช่วงเช้าตรู่นั้น ได้ทำให้ฐานทัพอากาศทั้งหมดของยูเครนหมดสภาพเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานด้วยว่า การโจมตีต่อฐานทัพอากาศของยูเครนได้เกิดขึ้นทั่วประเทศยูเครนในจำนวนนี้รวมถึงฐานทัพอากาศในเมืองอิวาโน-แฟรงคีฟสก์ สุดขอบภาคตะวันตกของยูเครนไม่ไกลจากพรมแดนโปแลนด์ นอกจากนี้ รัฐบาลรัสเซียยังประกาศ ปิดน่านฟ้าทางภาคตะวันออกของยูเครน และจากการตรวจสอบเว็บไซต์ติดตามสายการบินทั่วโลกไฟลท์อแวร์ พบว่าเครื่องบินพาณิชย์ได้หายไปจากน่านฟ้ายูเครนทั้งหมดแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ทั้งมีรายงานฝูงเฮลิคอปเตอร์จู่โจมของรัสเซีย เริ่มปฏิบัติการอย่างอิสระใน 2 จังหวัดทางภาคตะวันออกของยูเครน ปธน.ยูเครนประกาศตัดสัมพันธ์ด้านนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลยูเครนจำเป็นต้องประกาศกฎอัยการศึก พร้อมประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ขณะที่ประชาชนที่ต้องการจับอาวุธขึ้นสู้ กองทัพพร้อมที่จะแจกจ่ายอาวุธแก่ประชาชนทุกคน ก่อนหน้านี้ได้พยายามติดต่อขอเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซีย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าเราพร้อมจะเผชิญหน้าไม่หันหลังหนี นอกจากนี้สื่อท้องถิ่นยูเครนระบุว่านายเซเลนสกีได้ประชุมฉุกเฉินกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และสั่งการให้กองทัพสร้างความสูญเสียแก่ผู้รุกรานให้มากที่สุด ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนระบุว่า ในการประชุมดังกล่าว กองทัพได้ชี้แจงแก่นายเซเลนสกีว่าสามารถต้านทานการโจมตีของรัสเซียได้ในบางแนวรบ ทั้งยังยิงเครื่องบินรบรัสเซียตก 6 ลำ ทำลายรถถังรัสเซียได้ 4 คัน สังหารทหารรัสเซียได้อย่างน้อย 50 นายรัสเซียโวยูเครนยอมจำนนอื้อต่อมากองทัพรัสเซียออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า ยังไม่เกิดความสูญเสียจากปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ และข้อมูลข่าวกรองยืนยันว่า หน่วยรบต่างๆของยูเครนอยู่ในสภาพถอยร่น สละฐานที่มั่น พร้อมวางอาวุธยอมจำนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งหน่วยรบของรัสเซียได้รับคำสั่งที่ชัดเจนว่าห้ามทำอะไรกับทหารยูเครนที่วางอาวุธ ทั้งขอยืนยันว่ากองทัพรัสเซียมิได้ทำการโจมตีเมืองต่างๆของยูเครน ขอให้พลเรือนวางใจ ส่วนกองกำลังกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออก ชี้แจงด้วยว่า จากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียนั้น ทางหน่วยรบของกลุ่มได้มีคำสั่งให้เริ่มโจมตีอย่างหนักหน่วงตลอดแนวรบในจังหวัดโดเนตสก์และลูฮานสก์ นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากนักข่าวการ์เดียนอังกฤษ ระบุว่า การพยายามติดต่อนายทหารยูเครนยศพันโทในแนวรบที่รู้จักกัน ได้รับข้อความตอบกลับมาว่า ถูกระดมยิงอย่างหนัก คงถึงจุดจบ ทหาร–พลเมืองดับอย่างน้อย 68 รายช่วงเย็นวันเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนว่า กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธ และมิสไซล์เป็นระลอกที่สอง ขณะที่สภาพแนวรบได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยกองทัพยูเครนตรวจพบหน่วยรบรัสเซียได้บุกทะลวงมาถึงพื้นที่รอบๆเมืองหลวงของยูเครนแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวในพื้นที่ระบุว่าพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ของยูเครนหลายลำ ยังคงออกปฏิบัติการแม้ก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่า ฐานทัพอากาศถูกทำลาย ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่า จากการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆของยูเครน เชื่อว่ามีทหารยูเครน และพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีอย่างน้อย 68 คน และอาจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุเครื่องบินลำเลียงพลของกองทัพยูเครน ประสบเหตุตกทางตอนใต้ของกรุงเคียฟ บรรทุกเจ้าหน้าที่ 14 นาย เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าเสียชีวิตยกลำหรือไม่ ทั้งยังไม่ยืนยันว่าเป็นกรณีถูกยิงตกหรือไม่ยึดจุดรวมพลจ่อลุยเคียฟวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมยูเครน ชี้แจงว่า ตลอดวันที่ 24 ก.พ. กองทัพรัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีกว่า 203 จุดทั่วประเทศยูเครน ทั้งยังมีรายงานการพบเห็นฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงพลรุ่นเอ็มไอ-8 และเฮลิคอปเตอร์จู่โจมรุ่นคา-52 ของฝ่ายรัสเซีย มากกว่า 20 ลำ ออกปฏิบัติการในพื้นที่ชานกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นความพยายามบุกยึดฐานทัพอากาศ และใช้เป็นจุดรวมพล เพื่อเตรียมปฏิบัติการบุกกรุงเคียฟในไม่ช้า ขณะที่ต่อมานักวิเคราะห์ ความมั่นคงประเมิน หากหน่วยอากาศโยธินของรัสเซีย ยึดจุดรวมพลได้ จะสามารถส่งกำลังเสริมทางอากาศเข้าไปในพื้นที่ได้อีก และทำให้เมืองหลวงของยูเครนตกอยู่ในภัยคุกคามโดยตรง โดยหลังจากรายงานดังกล่าวถูกเผยแพร่ไม่นาน ทางกองทัพยูเครน ยืนยันต่อมาว่า กำลังปะทะอย่างหนักแย่งชิงฐานทัพอากาศชานกรุงเคียฟ ส่วนนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศเปิดสถานีรถไฟหลัก เป็นที่หลบภัยสงครามไทยอยากให้ใช้แนวทางเจรจาด้านรัฐบาลไทย พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ท่าทีของประเทศไทย เราอยากให้แก้ไขปัญหาใช้แนวทางการพูดจาเจรจากัน รัฐบาลได้เตรียมแผน อพยพคนไทย 250 คน ที่อยู่ในยูเครนไว้แล้ว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ ได้ติดต่อประสานคนไทยทั้งหมดไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเริ่มอพยพ เมื่อถามว่าจะต้องรอการร้องขอจากคนในพื้นที่ หรือดูสถานการณ์หากไม่ปลอดภัยจึงอพยพหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ตอบว่าทำได้ทั้งสองอย่างโดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นหลัก นายกฯเกาะติดห่วงคนไทยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมช่วยเหลือดูแลคนไทยในยูเครน ขอให้คนไทยติดตามสถานการณ์ข่าวสารอย่างใกล้ชิด กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนคนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่เมืองโดเนตสก์และเมืองลูฮานสก์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ได้ให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในยูเครนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ล่าสุดข้อมูลในเดือน ม.ค.มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในยูเครน 139 คนกต.พร้อมอพยพตามแผนน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ กำหนดแผนอพยพคนไทยไว้พร้อมแล้ว ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุจำเป็น ขณะนี้ได้กำหนดแผนการว่าจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำอพยพคนไทยจากยูเครนโดยตรง หากปิดน่านฟ้าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์จะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนเข้าไปโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย ทั้งนี้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต กรุงวอร์ซอ หมายเลข +48-696 -642-348 (24 ชม.) หรือ E-mail : thaiconsular warsaw@thaiemb.plทอ.สแตนด์บายเครื่องขนกลับพล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ (ทอ.) เปิดเผยว่า ในส่วนของ ทอ.ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน แม้ว่าหนทางปฏิบัติในขั้นต้นจะกำหนดให้ใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำก่อนตามนโยบาย ของรัฐบาล เนื่องจากการอพยพในครั้งนี้ไม่ใช่การอพยพประชาชนจากพื้นที่ภัยพิบัติเหมือนที่เคยปฏิบัติ แต่เป็นการอพยพประชาชนจากพื้นที่ขัดแย้งทางทหาร ซึ่งมีความละเอียดอ่อน จึงต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในการใช้อากาศ ยานทหารเข้าไปในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.สั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องเตรียมเครื่องบินลำเลียงให้มีความพร้อมสูงสุดให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ทันทีหากรัฐบาลสั่งการยกระดับอารักขาสถานทูตคู่กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยสถานทูตรัสเซียและยูเครนประจำประเทศไทยว่า สั่งการให้ยกระดับการดูแลความปลอดภัยทั้งสถานทูตรัสเซียและยูเครน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบว่าทางสถานทูตมีการร้องขออะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ตำรวจสันติบาลเพิ่มความเข้มงวดอยู่แล้ว ส่วนตำรวจท้องที่ก็มีการดูแลความปลอดภัยสถานทูตทั้ง 2 แห่ง รวมถึงกลุ่มบุคคลภาคีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 ประเทศ ส่วนการข่าวยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หุ้นร่วงแดงเถือกต่ำสุดเกือบ 40 จุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรัสเซียเปิดฉากยิงมิสไซล์ถล่มหลายเมืองในยูเครน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงรุนแรง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป และตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งตลาดหุ้นไทยวันที่ 24 ก.พ. ปิดที่ 1,662.72 จุด ลดลง 33.73 จุด ระหว่างวันลงไปต่ำสุด 1,656.62 จุด ลดลง 39.83 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 126,557.778 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธินำตลาด 2,983.70 ล้านบาท ตามด้วยสถาบันในประเทศ และพอร์ตโบรกเกอร์ ขณะที่รายย่อยเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ 4,875.86 ล้านบาททอง-น้ำมันราคาพุ่งขึ้นกระฉูดขณะที่สถานการณ์ทองคำในประเทศราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 24 ก.พ. มีการเปลี่ยนแปลงราคาถึง 17 รอบ โดยครั้งที่ 17 เมื่อเวลา 17.22 น. ทองคำแท่งขายออกบาทละ 30,000 บาท รับซื้อ 29,900 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 30,500 บาท เทียบกับวันที่ 23 ก.พ. ขึ้นไปถึงบาทละ 1,100 บาท ด้านราคาทองคำต่างประเทศขึ้นไปสูงสุดที่ 1,948 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40 ดอลลาร์ โดยราคาทองแท่งของไทยขายออกเปิดตลาดที่ 29,250 บาท และเย็นมาปิดตลาดที่ 29,750 บาท ได้ปัจจัยหนุนจากวิกฤติยูเครน ทำให้ราคาทองคำ Spot ในตลาดโลก ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องในวันนี้ ส่วนราคาน้ำมัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบโลกเช้าวันที่ 24 ก.พ. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 ปี หลังราคาน้ำมันดิบสัญญาเบรนท์ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 101.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาเวสต์เท็กซัส (WTI) ขึ้นไปอยู่ที่ 96.46 ดอลลาร์/บาร์เรลวอน ปชช.ช่วยประหยัดน้ำมันนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จะหามาตรการบรรเทาให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดโดยยังคงมาตรการต่างๆที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้และเตรียมมาตรการที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติม โดยกระทรวงจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อรับมืออย่างทันท่วงที ขอให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์วิกฤตินี้ และร่วมกันใช้พลังงานโดยเฉพาะน้ำมันอย่างประหยัด ส่วนการนำเข้าพลังงานทุกชนิดของไทยยังไม่มีผลกระทบ เพราะน้ำมันนำเข้าจากกลุ่มตะวันออกกลางถึง 55% และก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้าประมาณ 18% กระจายจากหลายแหล่งทั่วโลก นอกจากนี้ปริมาณสำรองน้ำมันดิบ ณ วันที่ 21 ก.พ. มีประมาณ 3,200 ล้านลิตร อยู่ระหว่างขนส่งอีก 1,460 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูป 1,670 ล้านลิตร สำรองใช้ได้นาน 2 เดือน แบ่งเป็นน้ำมันดิบ 27 วัน อยู่ระหว่างขนส่งอีก 13 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 12 วัน ส่วน LPG ภาคครัวเรือนใช้ได้ 16 วันเกษตรกรเลี้ยงไก่ร้องจ๊ากนางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ถึงสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนมีผลอย่างยิ่งต่อราคาธัญพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารสัตว์ เนื่องจากรัสเซีย-ยูเครนเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพด โดยราคาข้าวสาลีนำเข้าที่ใช้เลี้ยงไก่ ราคาปรับสูงขึ้นจาก 8-9 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อปี 64 เพิ่มเป็น 12 บาทในปัจจุบัน ขณะที่ข้าวโพดในประเทศราคาปรับไปถึง 11.10 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อวัตถุดิบชนิดอื่นที่มีแนวโน้มราคาสูงตามไปด้วย ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ราคาขึ้นมาสูงกว่า 50-60% แล้ว ยังไม่นับราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเนื้อไก่สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาเนื้อไก่ และไข่ไก่กลับถูกตรึงอยู่ ไม่สะท้อนต้นทุน หากวัตถุดิบทุกชนิดราคาสูงต่อไปเรื่อยๆ เกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ไม่มีทางอยู่รอดได้ ทางที่ดีถ้ารัฐไม่สามารถควบคุมราคาวัตถุดิบจากผลกระทบของสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ก็ควรปล่อยให้ราคาไก่ และไก่ไข่เป็นไปตามกลไกที่ควรจะเป็น