โรคเรื้อนเป็นโรคที่ทำให้มือ เท้า และใบหน้าเสียโฉมอย่างมาก เป็นโรคติดต่อเรื้อรัง ซึ่งโรคเรื้อนได้รับการบันทึกถึงในดินแดนแถบทะเลแคริบเบียนผ่านหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร เริ่มตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 17 ทว่ารายงานเหล่านั้นยังไม่สมบูรณ์จน กระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ทีมวิจัยนำโดยนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยโอเรกอนในสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบหลักฐานเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับโรคกระดูก แต่ก็สามารถช่วยติดตามรูปแบบการแพร่กระจายของโรคเรื้อนได้ ทีมวิจัยได้เผยผลการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะมนุษย์ที่ขุดพบบนเกาะ Petite Mustique ในทะเลแคริบเบียนที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ยาก หลังจากใช้วิธีหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี ก็ระบุได้ว่ากะโหลกศีรษะเหล่านี้เป็นของบุคคลที่มีชีวิตในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 หรือต้นศตวรรษที่ 19 และกะโหลกศีรษะดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างเพียงไม่กี่ชิ้นที่แสดงถึงร่องรอยของโรคเรื้อนที่พบในทางตะวันตก การที่พบบนเกาะ Petite Mustique นั้นเป็นไปได้ว่าเกาะแห่งนี้อาจเคยเป็นถิ่นของผู้ป่วยโรคเรื้อนในช่วงต้นทศวรรษที่ 1800 โดยเป็นสถานที่คัดแยกผู้ป่วยโรคเรื้อนมาไว้ที่นี่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคทั้งนี้ หลายกรณีเป็นที่รู้กันว่าในแถบแคริบเบียนและแปซิฟิก มีการใช้เกาะเล็กๆเป็นสถานที่แยกผู้ป่วยโรคเรื้อน เนื่องจากโรคนี้แพร่กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิดเป็นเวลานานกับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการรักษา.Petite Musique 1. A, norma Frontalls. B, right norma laterals (All photo by GCN). Credit : DOI: 10.1016/j.ijpp.2021.10.004