ตอนที่ผมเด็กๆ พ่อมักจะต้อนรับบุคลากรมหาวิทยาลัยจากหลายประเทศ ท่านเหล่านี้ขอเข้ามาแนะแนวหลักสูตรของมหาวิทยาลัยตน สถาบันหลายแห่งในสหรัฐฯและทวีปยุโรปที่นักศึกษาไม่นิยมไปเรียน ต้องถึงกับเสนอทุนและลดมาตรฐานการสอบภาษาอังกฤษและวัดความถนัด

เคยได้ยินพ่อถามคณบดีจากออสเตรเลียว่า ยูให้ทุนมากอย่างนี้ มหาวิทยาลัยของยูจะได้อะไร ได้รับคำตอบว่า เมื่อนักศึกษาเดินทางไปเรียนก็ต้องใช้จ่ายโน่นนี่นั่นในชุมชนของมหาวิทยาลัย ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนั้น งานวิจัยของนักศึกษาเอเชียเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวกับประเทศของตนเอง เมื่อมหาวิทยาลัยออสเตรเลียได้รับงานวิจัยชิ้นนั้นแล้ว ก็นำไปต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาไปในเชิงพาณิชย์

เล่าย้อนหลังไปสมัย พ.ศ.2521 สมัยที่พ่อไปเรียนมัธยมปลายที่ออสเตรเลีย สมัยนั้น รัฐบาลออสเตรเลียให้ทุนนักศึกษาไทยที่จบสาขาเกษตร ตั้งแต่ ปวช. ปวส. และปริญญาตรีไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียจำนวนมาก แต่ถึงคราวทำวิจัยและวิทยานิพนธ์ก็ให้ทำเกี่ยวกับพืชผักผลไม้ของไทย ปัจจุบันพื้นที่ทางตอนเหนือของออสเตรเลียจึงสามารถปลูกทุเรียน มังคุด ลางสาด เงาะ ลำไย ฯลฯ โดยมีรสชาติอร่อยคล้ายกับปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตอนนี้ทรัมป์ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯบังคับนักศึกษาต่างชาติที่ถือวีซ่า F-1 และ M-1 เดินทางออกนอกประเทศ หากสถาบันการศึกษาที่ไปเรียนจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ทั้งหมด นักศึกษาต่างชาติจึงเริ่มไม่มั่นใจในการสมัครเข้าไปเรียนในสหรัฐฯกันแล้ว เพราะนโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามอารมณ์ของผู้นำ

รายได้จำนวนมากที่เข้าสู่เศรษฐกิจอเมริกามาจากนักศึกษาต่างชาติที่มีอยู่เกินล้านคน คิดเป็นร้อยละ 5-6 ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งหมดของสหรัฐฯ ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเคยสำรวจพบว่า นักศึกษาต่างชาติแต่ละคนใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 4.47 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี กระทรวงฯยอมรับว่านักศึกษาต่างชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ

...

ชาวต่างชาติบางคนจบแล้วก็ทำงานในสหรัฐฯ เป็นการเติมเต็มตลาดแรงงาน บัณฑิตต่างชาติบางคนทำธุรกิจในสหรัฐฯ นี่ก็เป็นการสร้างงานให้คนในท้องถิ่น พวกที่เรียนไปทำงานไปก็เยอะครับ มีตัวเลขนักศึกษาในตลาดแรงงานสหรัฐฯอยู่ที่ 4-4.5 แสนคน

ตั้งแต่มีวิกฤติโควิด-19 มหาวิทยาลัยก็ต้องปรับการเรียนการสอนเป็นระบบที่ผ่านออนไลน์เต็มรูปแบบ เฉพาะฮาร์วาร์ดมหาวิทยาลัยเดียวมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 5 พันคน ตอนนี้ได้รับผลกระทบมาก เอ็มไอทีและคอร์แนลก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

แม้ว่าจะโดนมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างฮาร์วาร์ดฟ้องเพื่อให้ศาลหยุดคำสั่งของทรัมป์ แต่ทรัมป์ก็ไม่ยี่หระ แถมยังตำหนิมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกลับซะเละ ทรัมป์ขู่ว่า มหาวิทยาลัยไหนยังจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ไม่เปิดเรียนปกติ ก็จะไม่ให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง

วิกฤติโควิด-19 ทำให้นักศึกษาต่างชาติที่เข้าดินแดนออสเตรเลียต้องโดนกักตัว และเป็นผลให้ไปเข้าเรียนไม่ทัน มหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลียอย่างแคนเบอร์ราและมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียเห็นความสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยนักศึกษาต่างชาติถึงขนาดเตรียมแผนที่จะเช่าเครื่องบินไปรับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อที่จะให้เข้าประเทศและผ่านการกักตัวทันสำหรับการเข้าเรียนในภาคเรียนปกติ

ทรัมป์ต้องการให้มหาวิทยาลัยอเมริกันเปิดการเรียนการสอนแบบปกติ เพื่อที่จะอวดคนอเมริกัน (ก่อนการเลือกตั้ง) และอวดชาวโลกว่าสถานการณ์ในสหรัฐฯปกติแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงคนอเมริกันตอนนี้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 3.35 ล้านคน ตายกลายเป็นผีไปแล้ว 1.37 แสนคน แต่ละวันก็มีคนติดเชื้อเพิ่มหลายหมื่น สถาบันการศึกษาที่ไหนจะกล้าเปิดตามปกติครับ

การสอนออนไลน์ทำให้มหาวิทยาลัยยังมีรายได้ ครูบาอาจารย์พนักงานภารโรงยังได้รับเงินเดือน แม้นักศึกษาต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เรียนออนไลน์ แต่ตัวก็ยังอยู่ในสหรัฐฯ ยังซื้อมีดพกกระจกเงากระเป๋าหิ้วแว่นตานาฬิกาฟันปลอม ยังใช้จ่ายและเสียค่าหน่วยกิต

ทรัมป์ไล่นักศึกษาต่างชาติออกไปอย่างนี้ เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจอเมริกาครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com