การเมืองมาเลเซียระอุ จู่ๆ “มหาเธร์” ลาออกทั้งจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเบอร์ซาตูท่ามกลางข่าวกระหึ่มเตรียมออกมาตั้งพรรคหาพันธมิตรทางการเมืองใหม่ตัดเส้นทางการขึ้นเป็นผู้นำเบอร์ 1 มาเลเซีย ของ “อันวาร์ อิบราฮิม” พันธมิตรที่ร่วมโค่นอำนาจ “นาจิบ ราซัค” ตามที่เคยตกลงกัน ส่งผล “อันวาร์” ถึงกับควันออกหู ลั่นถูกหักหลัง จับตาคนที่จะนั่งนายกฯแทนการเมืองมาเลเซียเผชิญความปั่นป่วนอีกระลอก โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ระบุนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ผู้นำมาเลเซีย วัย 94 ปี นายกรัฐมนตรีอายุมากที่สุดในโลก ถวายหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์ ชะฮ์ พระประมุของค์ที่ 15 ของมาเลเซีย เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลรายละเอียดใดๆ ของการลาออกจากตำแหน่งการลาออกอย่างกะทันหันของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า นายมหาเธร์จะตั้งกลุ่มพันธมิตรทางการเมืองชุดใหม่ โดยปราศจากนายอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งอยู่ระหว่างรอคอยเวลาขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ผลจากการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายมหาเธร์ ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนใหม่ หรือจะมีประกาศเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่นอกจากนั้น นายมหาเธร์ยังได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเบอร์ซาตู ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน “ปากาตัน ฮาราปัน” (พีเอช) ที่นายมหาเธร์ก่อตั้งร่วมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม เมื่อช่วงปี 2561 ก่อนที่จะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือน พ.ค.ปีเดียวกันนั้นและโค่นรัฐบาล ที่มีนายนาจิบ ราซัค เป็นนายกรัฐมนตรีและเผชิญกับข้อกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชันเงินกองทุนแห่งชาติรัฐบาลมาเลเซีย หรือ “1MDB” ถือเป็นการสิ้นสุดการผูกขาดครองอำนาจปกครองประเทศของพรรคองค์กรสหชาติมาเลเซีย หรืออัมโน ที่ยาวนานมากว่า 60 ปีทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้าที่นายมหาเธร์ จะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียหนึ่งวัน นายอันวาร์ อิบราฮิม ออกมากล่าวหานายกฯ มหาเธร์และสมาชิกพรรคพันธมิตรฝ่ายค้านปากาตัน ฮาราปัน หลายคน “หักหลัง” โดยมีแผนแยกตัวไปก่อตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ เพื่อสกัดกั้นเขาไม่ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนใหม่ตามที่เคยตกลงไว้กับนายกฯมหาเธร์ ขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองมาเลเซีย ระบุนายมหาเธร์ อาจไม่ก้าวลงจากอำนาจปกครองมาเลเซียจริง แม้ว่าเขาได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้วก็ตามทั้งนี้ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด เคยนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มายาวนานระหว่างปี 2524-2546 และได้กลับขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งตั้งแต่ปี 2561 ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างนายมหาเธร์กับนายอันวาร์ อิบราฮิม พลิกผันมาตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยนายอันวาร์เคยถูกตัดสินจำคุกข้อหาทุจริตคอร์รัปชันและประพฤติผิดทางเพศเมื่อช่วงปี 2542 ซึ่งนายอันวาร์อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองและระหว่างนั้นนายมหาเธร์ อุ้มชูอุปถัมภ์นายนาจิบ ราซัค กระทั่งนายราซัค ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อช่วงปี 2558 และนายอันวาร์ถูกจับตัดสินความผิดคดีประพฤติผิดทางเพศอีกครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็พ้นผิดในคดีนี้เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ขณะที่นายมหาเธร์ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคอัมโน เมื่อช่วงปี 2559 และเรียกร้องให้นายนาจิบ ราซัค ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากข้อกล่าวหาทุจริตเงินกองทุน “1MDB” ก่อนตั้งพรรคการเมืองเบอร์ซาตูและร่วมเป็นพันธมิตร “ปากาตัน ฮาราปัน” (พีเอช) กับนายอันวาร์ อิบราฮิม