ทางการเนปาลอยู่ระหว่างเร่งตรวจพิสูจน์ศพนักปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ 4 ราย ซึ่งถูกพบร่างเหลือเพียงโครงกระดูกบนระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 7,906 เมตรเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้วระหว่างภารกิจเก็บกวาดขยะบนเทือกเขาสูงที่สุดของโลกโดยรวบรวมขยะได้มากเกือบ 11 ตัน จากภารกิจการเก็บขยะที่ใช้เวลาทั้งหมด 45 วัน เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วพบร่างผู้เสียชีวิต 11 ราย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดในรอบ 4 ปี

ร่างนักปีนเขาทั้ง 4 ราย ยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เพราะเหลือเพียงโครงกระดูกและสวมชุดอุปกรณ์ปีนเขา ทางการเนปาลกำลังตรวจสอบดีเอ็นเอและแจ้งติดต่อสถานทูตประเทศของนักปีนเขาเหล่านั้น แต่ยอมรับเป็นเรื่องยาก ทั้งยังไม่รู้ว่านักปีนเขาเหล่านั้นเสียชีวิตเมื่อไหร่ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มการปีนพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ความสูง 8,848 เมตร มา ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดในโลก ตั้งแต่ช่วงปี 1920 มีผู้เสียชีวิตจากการปีนพิชิตยอดเอเวอเรสต์แล้วกว่า 300 ราย ผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังหาร่างไม่พบ หรือยังไม่สามารถ นำกลับลงมาได้ เพราะอาจอยู่ในจุดอันตราย แต่ด้วยสภาพอากาศโลกร้อนขึ้น น้ำแข็งละลายทำให้พบศพใต้น้ำแข็งง่ายขึ้น.