ฆ่าหมู่-ฝูงชนที่กำลังชมคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรี “รูท 91 ฮาร์เวสต์ คันทรี” ใกล้โรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ กาสิโน” ในนครลาสเวกัส วิ่งหนีตาย ขณะที่นายสตีเฟน แพ็ดดอค (รูปเล็ก) กราดยิงลงมาจากโรงแรมชั้นที่ 32 เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. มีผู้เสียชีวิต 59 คน บาดเจ็บกว่า 500 คน (เอเอฟพี/รอยเตอร์)ชาวอเมริกันและชาวโลกต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุกราดยิงสังหารหมู่ผู้คนเสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมานายสตีเฟน แพ็ดดอค วัย 64 ปี ใช้ปืนกราดยิงหลายร้อยนัดลงมาจากห้องพักชั้น 32 ของโรงแรม “มัณฑะเลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ กาสิโน” ในนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา ใส่ฝูงชนกว่า 22,000 คนที่กำลังชมการแสดงคอนเสิร์ตคันทรีกลางแจ้ง “รูท 91 ฮาร์เวสต์ คันทรี” ที่ลานตรงข้ามโรงแรม มีผู้เสียชีวิต 59 คน บาดเจ็บ 527 คนเมื่อตำรวจบุกเข้าไปในห้องพักก็พบว่าแพ็ดดอคยิงตัวตายแล้ว ตำรวจยังพบปืนถึง 23 กระบอกในห้องพัก รวมทั้งปืนไรเฟิลจู่โจม ส่วนที่บ้านพักของเขาในชุมชนผู้สูงอายุในเมืองเมสไควต์ ห่างลาสเวกัส 130 กม. ก็พบปืนอีก 19 กระบอก กระสุนหลายพันนัด วัตถุระเบิด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งยังพบวัตถุระเบิดในรถของเขาด้วยเชื่อว่าแพ็ดดอควางแผนก่อเหตุร้ายมานาน แต่ “มูลเหตุจูงใจ” ยังเป็นปริศนามืดมิด เพราะเขาไม่มีประวัติอาชญากรรมหรือเจ็บป่วยทางจิตใดๆ ไม่พบว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั้งในและนอกประเทศ เป็นแค่อดีตนักบัญชี นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ อยู่อย่างสงบกับนางแมรีลู แดนลีย์ คู่รักชาวออสเตรเลียเชื้อสายฟิลิปปินส์วัย 62 ปีที่บ้านในเมสไควต์ ซึ่งขณะเกิดเหตุนางแดนลีย์ไปเยี่ยมบ้านที่ฟิลิปปินส์ และยืนยันว่าไม่รู้เห็นด้วยส่วนนายเอริกน้องชายก็ยืนยันว่า พี่ชายไม่ฝักใฝ่ด้านศาสนาหรือการเมือง ไม่มีปัญหาการเงินเพราะร่ำรวยระดับเศรษฐี ชอบเล่นการพนันในวงเงินสูงๆ แต่ไม่ได้ติดหนี้การพนัน แม้ปูมหลังของบิดาของพวกตนไม่ดี เป็นอดีตจอมโจรปล้นธนาคารผู้อื้อฉาว ติดคุกถึง 20 ปี ก่อนเสียชีวิตในปี 2541เชื่อว่าแพ็ดดอคมี “ความลับ” ดำมืดบางอย่างที่ต้องรอไขปริศนา!ทุกครั้งที่มีเหตุยิงสังหารหมู่ในสหรัฐฯ ก็จะมีกระแสเรียกร้องให้ปฏิรูปกฎหมายควบคุมอาวุธปืน แต่ทุกครั้งก็เป็น “ไฟไหม้ฟาง” ครั้งนี้ก็คงเช่นกัน เพราะ “สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ” (NRA) ที่สนับสนุนสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนมีอิทธิพลสูงมาก เป็นทั้งล็อบบี้ยิสต์และ “สปอนเซอร์” รายใหญ่ มีส่วนช่วยให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันชนะเลือกตั้งครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอยู่ในขณะนี้ตำรวจยังระบุว่า ปืนไรเฟิลของแพ็ดดอคถึง 12 กระบอก รวมทั้งปืน “เออาร์-15” 2 กระบอกที่เขาใช้กราดยิง ถูก “โมดิฟาย” ดัดแปลงจากปืน “กึ่งอัตโนมัติ” ให้ยิงได้คล้าย “ปืนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ” โดยติดอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า “บัมป์–สต๊อก” ข้าไป ทำให้เมื่อเหนี่ยวไกและกดค้างไว้ก็จะรัวยิงกระสุนเป็นชุดได้ถึง 400-800 นัดต่อนาที ทูตมรณะ–โฉมหน้าปืนไรเฟิลติดตั้งอุปกรณ์เสริม “บัมป์–สต๊อก” ซึ่งทำให้ปืนกึ่งอัตโนมัติกลายเป็นปืนอัตโนมัติ รัวยิงได้หลายร้อยนัดต่อนาที คล้ายปืนที่นายสตีเฟน แพ็ดดอค วัย 64 ปี ใช้กราดยิงฝูงชนขณะชมคอนเสิร์ตที่นครลาสเวกัส (เอพี)เรื่องนี้เลยเป็นประเด็นร้อน นอกเหนือจากกรณีที่แพ็ดดอคมีปืนมากมายถึง 47 กระบอก ทำให้มีข้อกังขาว่าปืนซื้อหาได้ง่ายจัง และขนเข้าไปในโรงแรมได้ยังไงตั้งกว่า 20 กระบอกอุปกรณ์เสริม “บัมป์-สต๊อก” (Bump-Stock) หรือ “บัมป์-ไฟเออร์ สต๊อก” (Bump-Fire Stock) หรือ “สไลด์ ไฟเออร์” (Slide Fire) ซึ่งทำให้ปืนกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic Firearms) กลายเป็นปืนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Fully Automatic Firearms) นี้ เป็นที่นิยมในสหรัฐฯมานานแล้ว เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูกไม่ถึง 200 ดอลลาร์ฯแม้สำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ และอาวุธปืน (BATF) ในยุครัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา รับรองให้เจ้าบัมป์-สต๊อก เป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่มันก็ถูกเพ่งเล็งมาตลอด นางไดแอน ไฟน์สไตน์ ส.ว.รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็เป็นหนึ่งในหัวหอกต่อต้านเพราะเห็นว่าอันตรายสุดๆการซื้อขายปืนอัตโนมัติในสหรัฐฯ ถูกควบคุมเข้มงวดตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1930 และ ค.ศ.1986 ก็มีการปรับแก้ “กฎหมายอาวุธปืนแห่งชาติ” ห้ามพลเรือนซื้อขายครอบครองปืนกลอัตโนมัติ ยกเว้นปืนที่ผลิตหรือจดทะเบียนก่อนมีกฎหมายนี้ แต่ผู้ซื้อต้องถูกตรวจเช็กประวัติละเอียดและต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษก่อนมีกฎหมายนี้ มีปืนกลอัตโนมัติที่ถูกจดทะเบียนกับรัฐบาลราว 176,000 กระบอกซึ่งซื้อขายกันได้ถูกกฎหมาย แต่เพราะมีน้อยราคาจึงแพงมากกระบอกละหลายหมื่นดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้พยายามประดิษฐ์อุปกรณ์เสริมเพื่อทำให้ปืนกึ่งอัตโนมัติยิงได้แบบปืนอัตโนมัติมาตลอด จนไม่กี่ปีที่ผ่านมา “บัมป์-สต๊อก” ก็ออกวางตลาดและเป็นที่นิยมมาก โดยปืนที่นิยมติดตั้งรวมทั้งไรเฟิลจู่โจม “เออาร์-15”เชื่อว่าแพ็ดดอคติดตั้ง “บัมป์-สต๊อก” กับปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเพราะต้องการฆ่าหมู่คนมากที่สุดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัว และอาจเรียนรู้วิธีติดตั้งได้ทางอินเตอร์เน็ต“บัมป์-สต๊อก” เป็นพานท้ายปืนที่มีส่วนครอบไกปืนซึ่งทำงานด้วยระบบแรงสะท้อน ทำให้ลั่นไกครั้งเดียวรัวยิงได้ต่อเนื่อง ใครสนใจว่ามีหน้าตาและทำงานยังไงเข้าไปดูใน “YouTube” หรือเว็บไซต์อาวุธปืนต่างๆได้ส่วน “เนวาดา” เป็นหนึ่งในรัฐที่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนหละหลวมที่สุดในสหรัฐฯ ประชาชนได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนได้ ผู้ซื้อปืนก็ไม่ต้องมีใบอนุญาตหรือจดทะเบียนเป็นเจ้าของปืน รวมทั้งปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ และแม้มีการตรวจเช็กประวัติผู้ซื้อปืน เจ้าของปืนก็สามารถขายปืนต่อแบบส่วนตัวได้ นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถครอบครอง “ปืนกล” ถ้าได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายรัฐบาลกลางจึงไม่แปลกที่แพ็ดดอคมีปืนในครอบครองถึง 47 กระบอกและเคลื่อนย้ายได้เสรี คาดว่าเขาทยอยขนปืนเข้าโรงแรม เห็นได้จากพบกระเป๋าเดินทางในห้องถึง 10 ใบคดีลาสเวกัสจุดกระแสกดดันให้มีการ “แบน” บัมป์-สต๊อก” และจำกัดจำนวนกระสุนปืนในแมกกาซีน ซึ่ง NRA และทรัมป์ก็ทนแรงกดดันไม่ไหวต้องออกโรงเห็นด้วย แต่จะเป็น “ไฟไหม้ฟาง” อีกหรือไม่ยังน่าสงสัย!บวร โทศรีแก้ว