ยกเครื่องใหม่ได้เต็มที่ Google ปฏิวัติ ‘เบราว์เซอร์อันดับหนึ่งโลก’ ฝัง Gemini ครบจบในที่เดียว

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ยกเครื่องใหม่ได้เต็มที่ Google ปฏิวัติ ‘เบราว์เซอร์อันดับหนึ่งโลก’ ฝัง Gemini ครบจบในที่เดียว

Date Time: 19 ก.ย. 2568 12:58 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

Google ประกาศผสานโมเดล AI 'Gemini' เข้ากับเบราว์เซอร์ Chrome ให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ สามารถเรียกใช้งานบน Mac, Windows และมือถือได้แล้ว โดยเพิ่มปุ่มเรียกที่มุมบนของ Chrome รวมถึงเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ 'AI Mode' ในช่องที่อยู่ (Omnibox) ภายในเดือนกันยายนและเปิดให้ผู้ใช้งาน Google Workspace ใช้ภายในไม่กี่สัปดาห์ถัดไป การอัพเกรดนี้รวมการสังเคราะห์ข้อมูลข้ามแท็บ การเชื่อมต่อกับบริการอย่าง Calendar, YouTube และ Maps และการพัฒนา Agentic AI เพื่อให้เอเจนต์ทำงานแทนผู้ใช้ หนึ่งในฉากหลังสำคัญคือคำตัดสินคดีผูกขาดล่าสุดที่ยกคำขอบังคับขาย Chrome ทำให้ Google เดินหน้ารวม AI เข้ากับเบราว์เซอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 70% ได้เต็มที่

Latest


Google เดินหน้าปรับโฉม Chrome ‘เบราว์เซอร์อันดับหนึ่งโลก’ เต็มสูบ ภายหลังศาลตัดสินคดีผูกขาด ซึ่งมีผลให้บริษัทสามารถเก็บ Chrome ไว้ได้จากที่เคยถูกบังคับให้ขายทิ้งโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ

ล่าสุดประกาศข่าวดีถึงผู้ใช้งานในสหรัฐฯ สามารถใช้งาน “Gemini” โมเดล AI ที่พัฒนาโดย Google บนเบราว์เซอร์ Chrome ได้แล้วผ่าน Mac และ Windows รวมถึงมือถือ เป็นไปตามแผนที่ต้องการผนวก AI เข้ากับเบราว์เซอร์ Chrome เต็มรูปแบบเพื่อปลดล็อกการทำงานหน้าเว็บและการทำงานข้ามแท็บที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“เรากำลังพัฒนาเบราว์เซอร์เพื่อช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากโลกออนไลน์ ในแบบที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา” Rick Osterloh รองประธานอาวุโสฝ่ายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ของ Google กล่าว “และเราทำทั้งหมดนี้โดยยังคงไว้ซึ่งความเร็ว ความเรียบง่าย และความปลอดภัยของ Chrome ที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ”

อ่านเพิ่มเติม 


Meet Gemini in Chrome !

Chrome รุ่นใหม่ Google ได้ผสาน “Gemini” เข้ากับบริการอื่น ๆ อย่าง Calendar, YouTube และ Maps ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าเว็บ โดยผู้ใช้สามารถกดปุ่มเรียกที่มุมบนของ Chrome สำหรับเรียกใช้งานแชตบอต Gemini พร้อมด้วยเครื่องมือค้นหา ค้นคว้า และสรุปข้อมูลด้วย AI อีกหลายฟังก์ชัน หรือให้ Gemini ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาบนหน้าเว็บ พร้อมกับสังเคราะห์ข้อมูลจากหลายแท็บที่เปิดพร้อมกัน

นอกจากนี้ Google ยังมีแผนเพิ่มความสามารถของเครื่องมือ Agentic AI ลงใน Chrome เพื่อให้ผู้ใช้สร้างบริการเฉพาะที่ทำงานแทนได้อย่างหลากหลาย เช่น จองคิวตัดผม สั่งซื้อของใช้รายสัปดาห์เพิ่มสินค้าใส่ตะกร้า โดยมีเอเจนต์ทำงานเบื้องหลัง เลือกของแทนผู้ใช้ จากนั้นแสดงผลลัพธ์ก่อนให้ผู้ใช้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย โดยฟีเจอร์นี้ได้รับการพัฒนาต่อจาก “Project Mariner” ที่เปิดตัวปีที่แล้วซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่พนักงาน

Google ระบุอีกว่าภายในเดือนกันยายน Google ได้เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI Mode ลงในช่องที่อยู่ของ Chrome หรือ Omnibox เพื่อให้ผู้ใช้เรียกใช้งาน Gemini โดยตรงผ่านปุ่มหรือลัดคีย์บอร์ด และได้รับคำแนะนำคำสั่งตามเนื้อหาที่ปรากฏบนหน้าเว็บ นอกจากนี้ภายในไม่กี่สัปดาห์หน้ายังเตรียมเปิดให้ผู้ใช้งาน Google Workspace ใช้งาน ซึ่งจะพร้อมระบบปกป้องข้อมูลระดับองค์กรอีกด้วย

ปีแห่ง “AI Browser” และการมาของ Agentic Feature

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา “เว็บเบราว์เซอร์” ได้กลายเป็นศูนย์กลางของศึกชิงความเป็นใหญ่ด้าน AI นอกเหนือจากการสร้างแอปพลิเคชันแชตบอต เพราะ เว็บเบราว์เซอร์ถือเป็นประตูหลักในการเข้าถึงข้อมูลและคอนเทนต์ออนไลน์ของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง

ซอฟต์แวร์ใหญ่ๆ เช่น Arc ของ The Browser Company ที่เพิ่งรีแบรนด์เป็น Dia พร้อม AI ครบเครื่อง ส่วน Perplexity เปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet ที่เชื่อมกับเสิร์ชเอนจิน AI ของตัวเอง ขณะเดียวกันคู่แข่ง AI อย่าง OpenAI ก็ได้เปิดตัว Operator เอเจนต์ที่ใช้เบราว์เซอร์ทำงานแทนผู้ใช้ เช่น ช้อปปิ้งผ่าน Instacart และมีรายงานว่าบริษัทกำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ของตนเองบนฐานโค้ด Chromium แบบโอเพนซอร์ส

นอกจากนี้ยังมี Anthropic เปิดตัวเอเจนต์บนเบราว์เซอร์ที่ใช้โมเดล Claude ส่วน Perplexity หนึ่งในผู้ที่ยื่นข้อเสนอซื้อ Chrome จาก Google ก็เปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet สำหรับงาน AI เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

เดิมทีการเข้าถึง Gemini ใน Chrome ต้องสมัครใช้บริการแบบเสียเงิน แต่ตอนนี้ Google เปิดให้ใช้งานได้ฟรี พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญหลังชัยชนะ เพราะ Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์ที่ครองตลาด (ด้วยส่วนแบ่งราว 70% ตามข้อมูล Statcounter) แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ Search ของ Google ที่อาจสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่หากบริษัทแพ้คดีผูกขาด

และมากไปกว่านั้นยังเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นทิศทางชัดเจนในการทำให้ AI จะอยู่ในทุกจุดของประสบการณ์ใช้งาน และเป็นช่วงเวลาที่ Google จะได้พิสูจน์ตัวเองอย่างจริงจังหลังจากนี้  โดยไม่กี่วันที่ผ่านมา Gemini ขึ้นแท่นแอปฯ ฟรีที่มีคนดาวน์โหลดสูงที่สุดแซงหน้า ChatGPT หลังจากเปิดตัวโมเดล Nano Banana ตัวช่วยรังสรรค์รูปภาพด้วย AI ที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก 


บทความที่เกี่ยวข้อง 

ที่มาข้อมูล Gemini , CNBC , Business Insider

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   

 

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ