
Alphabet บริษัทแม่ Google สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ก้าวสู่การเป็น “บริษัทอันดับที่ 4 ของโลก” ที่มูลค่าตลาดแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากแรงหนุนความเชื่อมั่นรอบใหม่ของ AI และผลจากคำตัดสินคดีผูกขาดที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าตลาดแตะ 3.05 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องจากท็อปสาม Nvidia, Microsoft และ Apple
หุ้นคลาส A ของบริษัทพุ่งขึ้น 3.8% สู่ระดับ 250 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หุ้นคลาส C ขยับขึ้น 3.7% สู่ 250.4 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้งสองซีรีส์ทำสถิติสูงสุดใหม่ในการซื้อขาย ทำให้ปีนี้หุ้นบริษัทปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 30% กลายเป็นหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดในกลุ่ม “7 Magnificent” และทิ้งห่างดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 12.5% ในช่วงเดียวกัน
การแตะหลัก 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐครั้งแรกนี้เกิดขึ้นราว 20 ปีหลังการเข้าตลาดหุ้นครั้งแรกของ Google และกว่า 10 ปีหลังการปรับโครงสร้างสู่บริษัทโฮลดิ้งภายใต้ชื่อ Alphabet โดยที่ยังมี Google เป็นบริษัทหลัก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของบริษัท
ความเชื่อมั่นนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากคำตัดสินในคดีผูกขาด เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังศาลสหรัฐฯ อนุญาตให้ Alphabet ยังคงถือครองเบราว์เซอร์ Chrome และระบบปฏิบัติการ Android ต่อไป แต่กำลังพิจารณคำสั่งให้บริษัทขายธุรกิจ AdX ออกไปเพื่อเปิดให้เทคโนโลยีของบริษัทสามารถทำงานร่วมกับคู่แข่งได้ ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ถูกจับตาในประเด็นการครองความเป็นเจ้าตลาดด้านเสิร์ชและระบบนิเวศบนมือถือ
แม้ว่าการต้องแชร์ข้อมูลตามคำตัดสินอาจช่วยให้คู่แข่งด้านโฆษณามีโอกาสมากขึ้น แต่การไม่ต้องขายกิจการ Chrome หรือ Android ถือเป็นการลบความกังวลใหญ่ของนักลงทุน เนื่องจากทั้งสองบริการถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโดยรวมของ Google
นอกจากนี้กระแสหุ้นเทคโนโลยีและ AI ยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติสูงสุดใหม่ ท่ามกลางความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยก่อนหน้านี้การคาดการณ์ผลประกอบการของ Oracle ที่ออกมาเหนือความคาดหมายก็ช่วยกระตุ้นกระแสลงทุนในหุ้น AI เพิ่มขึ้นอีกหลังจากนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -