อะไรก็เกิดขึ้นได้ Google รอด ไม่ต้องขาย Chrome ศาลชี้แม้ผูกขาดเสิร์ช แต่ไม่ได้กีดกันคู่แข่ง

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อะไรก็เกิดขึ้นได้ Google รอด ไม่ต้องขาย Chrome ศาลชี้แม้ผูกขาดเสิร์ช แต่ไม่ได้กีดกันคู่แข่ง

Date Time: 3 ก.ย. 2568 14:44 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

Google รอด ไม่ต้องขาย Chrome ทิ้ง หลังศาลสหรัฐฯ ตัดสินเด็ดขาดเมื่อปีที่ผ่านมาว่า Google ผูกขาดในตลาด Search Engine และยังเปิดทางให้ Google สามารถจ่ายเงินให้คู่ค้าเพื่อติดตั้งผลิตภัณฑ์ของตัวเองล่วงหน้า (Preload) ได้ แต่ห้ามทำสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว

Latest


Alphabet บริษัทแม่ เจ้าของ Google รอด ไม่ต้องขาย Chrome เครื่องมือเสิร์ชของตัวเองทิ้ง หลังศาลสหรัฐฯ ตัดสินเด็ดขาดเมื่อปีที่ผ่านมาว่า Google เป็นผู้กระทำผิด “ผูกขาดในตลาด Search Engine” จนศาลมีการเสนอให้ Google ต้องขาย Chrome ออก

แต่แล้วเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ผู้พิพากษา Amit Mehta ก็ได้มีคำสั่งออกมาอย่างเป็นทางการว่า Google ไม่จำเป็นต้องขาย Chrome ออก ส่งผลให้หุ้นของ Alphabet พุ่งขึ้นมา 8% ในช่วงนอกเวลาทำการ

ศาลมีคำอธิบายว่า “Google ไม่จำเป็นต้องขายเบราว์เซอร์ Chrome และจะไม่ถูกบังคับขายกิจการระบบปฏิบัติการ Android ออกไปด้วยตามคำตัดสินสุดท้ายของศาล ฝ่ายโจทก์เรียกร้องเกินกว่าเหตุที่ต้องการให้มีการบังคับขายธุรกิจเหล่านี้ออกไป ซึ่ง Google ไม่ได้นำธุรกิจดังกล่าวไปใช้กีดกันคู่แข่งทางการค้าอย่างผิดกฎหมายแต่อย่างใด”


ย้อนรอยคดี “ผูกขาดตลาดเสิร์ช” ของ Google

ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม ปี 2024 ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ตัดสินว่า Google ทำผิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด (Sherman Act) โดยชี้ว่า Google เป็นผู้ผูกขาดในธุรกิจการค้นหาและธุรกิจโฆษณา

จนต่อมาในเดือนตุลาคมปี 2024 อัยการสูงสุดและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นขอให้ผู้พิพากษา Amit Mehta บังคับให้ Google ต้องแยกส่วนธุรกิจ โดยแยก Google Search หรือ ธุรกิจเสิร์ชเอนจินของตัวเองออกจากระบบปฏิบัติการ Android และเบราว์เซอร์ Chrome

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ Google ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่เชื่อมโยงกันภายใต้การดำเนินการของตัวเอง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ป้องกันไม่ให้ Google ผูกขาดตลาดนั่นเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ซึ่งก่อนหน้านั้น ยังมีการรายงานออกมาอีกว่า Google มีการจ่ายเงินกว่า 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 ให้กับผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์อย่าง AT&T, Verizon และ T-Mobile ตลอดจนผู้พัฒนาเบราว์เซอร์อย่าง Mozilla และผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้ง Apple, Samsung, Motorola และ Sony เพื่อให้ใช้เครื่องมือเสิร์ชเป็นตัวเลือกเริ่มต้น จนทำให้ Google สามารถครองส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชเกือบ 90%

ถึงขั้นที่ DOJ ได้เคยเรียกร้องให้ Google หยุดพฤติกรรมที่เรียกว่า “Compelled Syndication” นี้ ซึ่งหมายถึงการทำข้อตกลงกับบริษัทคู่ค้าต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเสิร์ชเอนจินของ Google จะได้เป็นตัวเลือกเริ่มต้น ในเบราว์เซอร์และสมาร์ทโฟน

จนล่าสุด มีคำสั่งใหม่ออกมาชัดเจนแล้วว่า Google ไม่จำเป็นที่จะต้องขายเบราว์เซอร์ Chrome ออกและไม่ต้องปรับเปลี่ยนในระบบ Android


แล้วจะเกิดอะไรกับ Google ต่อจากนี้?

ศาลได้มีการอธิบายตามคำตัดสินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า Google สามารถจ่ายเงินเพื่อให้มีการติดตั้งผลิตภัณฑ์ของตัวเองล่วงหน้า (Preload) ได้ แต่ห้ามทำสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Contracts) แบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายเงินหรือการให้สิทธิใช้งาน

Google ได้ออกมาอธิบายในบล็อกโพสต์ของตัวเองว่า “ตอนนี้ศาลได้ออกมาตรการที่จะจำกัดวิธีการที่เราจะให้บริการต่าง ๆ ของ Google มาแล้ว และยังสั่งให้เราต้องเปิดเผยข้อมูลการค้นหาให้กับคู่แข่งด้วย”

“เรากังวลว่าคำสั่งเหล่านี้จะกระทบต่อผู้ใช้และความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ซึ่งเรากำลังศึกษาคำตัดสินนี้อย่างละเอียด แต่ศาลก็ยังเห็นด้วยว่าการบังคับให้ขาย Chrome และ Android นั้นเป็นเรื่องที่เกินกว่าประเด็นหลักของคดีในเรื่องการผูกขาดตลาดค้นหา และจะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์ของเรา” Google อธิบายต่อในบล็อกโพสต์

ทั้งนี้ Google จะไม่ถูกห้ามให้จ่ายเงินหรือเสนอผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ๆ แก่พันธมิตรคู่ค้า เพื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันอย่าง Google Search, Chrome หรือผลิตภัณฑ์ GenAI มาในเครื่องได้ เนื่องจากศาลเล็งเห็นว่า การสั่งห้ามไม่ให้ Google จ่ายเงินให้คู่ค้า จะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ทั้งกับคู่ค้า ตลาดโดยรวม และผู้บริโภค ดังนั้น การสั่งแบนการจ่ายเงินทั้งหมดจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

แต่ศาลยังได้มีคำสั่งให้ Google ต้องเปิดเผยข้อมูลดัชนีการค้นหา (Search Index Data) และข้อมูลการโต้ตอบของผู้ใช้งาน (User Interaction Data) บางส่วนด้วย แต่ทั้งนี้ Google ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลโฆษณา และไม่ต้องให้ข้อมูลเชิงลึกกับกลุ่มผู้ลงโฆษณา

โดยศาลได้จำกัดประเภทข้อมูลที่ต้องเปิดเผย และกำหนดว่าการแบ่งปันข้อมูลต้องทำภายใต้เงื่อนไขทางการค้าปกติเหมือนที่ Google ทำกับคู่ค้าในปัจจุบัน


ที่มา: CNBC [1][2]


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ