แค่ Search ลดลงไม่ได้แปลว่าวิกฤติ Google ปล่อยหมัดฮุก “Google AI Ultra” ฟีเจอร์ระดับโปรสุดโหด
Date Time: 21 พ.ค. 2568 11:09 น.
“Summary“
สรุปอัปเดตสำคัญจากงาน Google I/O 2025 ที่แสดงจุดยืนชัดในการมุ่งพัฒนาบริการ AI เชิงรุก ทั้งการ เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่พร้อมแพ็กเกจรายเดือนสุดโหด พร้อมเผยภาพอนาคตของ “Google Search” ที่ยืนยันจุดยืนว่ายังเป็นผู้นำในสมรภูมิ AI และการค้นหาข้อมูลระดับโลกอย่างแท้จริง
Latest
Sundar Pichai ซีอีโอ Google นำทีมเผยแผนผลักดัน AI สู่ผู้ใช้งานเต็มสูบในงาน “Google I/O” งานประชุมนักพัฒนาประจำปีที่จัดขึ้น ณ Shoreline Amphitheatre ในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในครั้งนี้ Google แสดงจุดยืนชัดในการมุ่งพัฒนาบริการ AI เชิงรุก เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่แบบไม่กั๊ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกันยังได้เผยภาพอนาคตของ “Google Search” หลังเกิดกระแสวิพากษ์ในช่วงที่ผ่านมาถึงการชิงตลาดจาก OpenAI และ Perplexity ที่กำลังมุ่งพัฒนาบริการค้นหาของตนเอง โดยบริษัทเปิดเผยว่าปัจจุบัน Gemini AI มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 400 ล้านครั้ง และ AI Overviews ในส่วนที่เป็นคำตอบด้านบนของคำค้นหามีผู้ใช้มากกว่า 1,500 ล้านคน พร้อมแสดงความมั่นใจว่าการนำ AI มาผสานใน Google Search จะทำให้ AI ใกล้ชิดกับผู้คนมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นใดในโลก
ความคืบหน้า Search AI
- เปิดตัว “AI Mode" อินเทอร์เฟซใหม่แบบแชตบอตที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับโมเดล AI ได้โดยตรงใน Google Search โดย Google ได้กำหนดกรอบผลิตภัณฑ์ให้เป็นพื้นที่ให้ผู้ใช้ถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นและเจาะลึกยิ่งขึ้นด้วยการติดตามผลต่อเนื่องด้วยการแสดงผลที่ AI Overviews ซึ่งจะตอบคำถามบางข้อในหน้าค้นหาหลักด้วย AI ไม่ใช่แค่คัดสรรข้อมูลให้เหมือนที่เคยมีมา
- นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Project Mariner ที่นำ Gemini มาทำงานบนหน้าเว็บเบราว์เซอร์ Chrome เสมือนเป็นผู้ช่วยบนเว็บที่สามารถสรุปข้อมูลหรือนำเสนอตัวเลือกต่างๆ จากทั่วอินเทอร์เน็ต เพียงแค่เราสั่งงานเหมือนการค้นหา
- ขณะเดียวกันยังเตรียมต่อยอด Gemini ให้สามารถทำงานข้ามแท็บได้และแม้แต่นำทางไปยังเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับผู้ใช้ ไม่จำกัดแค่ใน Google Workspace เท่านั้น
แพ็กเกจรายเดือนสุดโหด
- ครั้งนี้ Google ได้อัปเกรดโมเดลใหม่ล่าสุด "Gemini Flash 2.5" ฉลาดและเร็วกว่ารุ่นเดิม นอกจากนี้ยังรีแบรนด์บริการสมัครสมาชิก AI ใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่
Google AI Pro จากชื่อเก่า Gemini Advanced ราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน (750 บาทต่อเดือน) สิ่งที่จะได้รับ เช่น
- แอป Gemini ที่มาพร้อมกับโมเดล Gemini 2.5 Pro และ Veo 2
- ฟีเจอร์ Flow และ Whisk ที่ใช้ Veo 2
- NotebookLM ที่มีขีดจำกัดการใช้งานสูงกว่าผู้ใช้ฟรี
- การเข้าถึง Gemini ในแอปของ Google เช่น Gmail, Docs และ Chrome
- พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 2TB
Google AI Ultra ราคา 249.99 ดอลลาร์ต่อเดือน (9,400 บาทต่อเดือน) สำหรับผู้ใช้งานระดับสูงที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดแบบไม่อั้น สามารถใช้งานแทบไม่จำกัด โดยปัจจุบันเริ่มใช้งานได้แล้วในสหรัฐอเมริกา ฟีเจอร์ใหม่ที่จะได้รับ เช่น
- แอป Gemini 2.5 Pro พร้อมกับฟีเจอร์ Deep Think
- การเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมใน Google Workspace เช่น Gmail, Docs และ Chrome เช่นเดียวกับแผน Pro
- สิทธิ์เข้าร่วมทดสอบฟีเจอร์ AI ผู้ช่วยอัจฉริยะภายใต้โครงการ Project Mariner
- Flow และ Whisk ที่ทำงานร่วมกับ Veo 3 เข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงใน Flow รวมถึงการสร้างวิดีโอความละเอียด 1080p และการควบคุมกล้องระดับมืออาชีพ
- พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB หรือประมาณ 30,000 GB
- แถมบริการ YouTube Premium
โมเดลเจนภาพและวิดิโอไปจนถึงสร้างหนัง
นอกจากนี้ Google ยังได้เปิดตัว Imagen 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของเครื่องสร้างข้อความให้เป็นรูปภาพด้วย AI รวมถึง Veo 3 รุ่นอัปเกรดและ Flow ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI ที่ล้ำสมัยที่สุดของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับเครื่องมืออย่าง Sora ของ OpenAI และยกระดับการสร้างสรรค์เนื้อหาสำหรับผู้ใช้มืออาชีพและครีเอเตอร์
- Veo 3 เครื่องมือสร้างวิดีโอพร้อมเสียงประกอบ เช่น เสียงเอฟเฟกต์ เสียงบรรยากาศ และบทสนทนาได้โดยตรงจากคำสั่งข้อความหรือภาพ รองรับการสร้างวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K พร้อมความสมจริงในด้านฟิสิกส์และการเคลื่อนไหวของวัตถุ โดยโมเดลรุ่นนี้ถูกปรับปรุงความสามารถในการตีความคำสั่งที่ซับซ้อน ทำให้สามารถสร้างฉากที่ตรงกับจินตนาการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
- Flow เครื่องมือสร้างภาพยนตร์จากคำสั่งข้อความหรือภาพได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ไอเดียอย่างรวดเร็ว เป็นโมเดลที่ผสานการทำงานของโมเดล Veo, Imagen และ Gemini ซึ่งออกแบบสำหรับครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ และประกอบเป็นฉากต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถกำหนดการเคลื่อนไหวของกล้อง มุมมอง และองค์ประกอบต่าง ๆ ในฉากได้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง “Google Beam” ที่พัฒนาจาก Project Starline แพลตฟอร์มวิดีโอคอลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะแปลงวิดีโอ 2 มิติจากกล้อง 6 ตัวให้กลายเป็นภาพจำลอง 3 มิติแบบสมจริง ร่วมพัฒนาโดย HP คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายให้ลูกค้ารุ่นแรกในปีนี้ รวมถึง การโชว์ต้นแบบ "Project Aura" แว่นตาอัจฉริยะคู่ใหม่ที่ร่วมพัฒนาโดย Xreal และ Google โดยใช้แพลตฟอร์ม Android XR และเตรียมผสาน Gemini อีกด้วย
งาน Google I/O ในครั้งนี้สะท้อนชัดเจนว่า Google กำลังเร่งเดินหน้าเพื่อยืนยันจุดยืนว่าตนยังเป็นผู้นำในสมรภูมิ AI และการค้นหาข้อมูลระดับโลกอย่างแท้จริง
การปล่อยของแบบไม่มีกั๊กทั้งเทคโนโลยีใหม่ ฟีเจอร์ล้ำ และโมเดล AI ขั้นสูง โดยเฉพาะการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Search ในโหมด AI ที่แม้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพลิกเกมสู้คู่แข่ง หลังความเชื่อมั่นต่อ Search Engine ของ Google ถูกสั่นคลอนในช่วงที่ผ่านมา
อ้างอิงข้อมูล Google , Google Blog
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
Author
