ยลโฉม V-Avenue แหล่งรวมศูนย์การค้าเสมือนจริง เปิดประสบการณ์เดินห้างทั้งเอ็มโพเรียม กูร์เมต์มาร์เก็ต เดอะมอลล์งามวงศ์วาน แบบไม่ต้องเดินทางแค่นั่งอยู่หน้าจอ ผ่านเทคโนโลยี 5G Virtual Reality

นับตั้งแต่เอไอเอสได้รับใบอนุญาตให้บริการ 5G เมื่อเดือน ก.พ. 2563 โปรเจกต์ปลุกปั้น V-Avenue เพื่อให้เป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าชั้นนำเสมือนจริงแห่งแรกของโลก ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นภายใต้ความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยี 5G และ Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกลไกสำคัญที่เข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจและการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของผู้คนในหลายแง่มุม

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส เล่าว่า ใช้เวลาพัฒนาเว็บไซต์ V-Avenue.co นานกว่า 12 เดือน ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในเฟสแรก ได้แก่ เดอะมอลล์กรุ๊ป เอ็มโพเรียม ทีวีไดเร็ค และแบรนด์จากเอเชียชั้นนำ ได้แก่ ALAND ร้านแฟชั่นมัลติแบรนด์จากเกาหลี, Jung Saem Mool (จอง แซม มุล) แบรนด์เมกอัปสัญชาติเกาหลี และ Loft สเปเชียลตี้สโตร์จากญี่ปุ่น รวมทั้งเอสเอ็มอีกว่า 200 ร้านค้า

“เอไอเอสเชื่อในศักยภาพของเทคโนโลยี 5G และ VR ว่าจะสามารถนำไปต่อยอดสร้างประสบการณ์และประโยชน์ในอุตสาหกรรมค้าปลีก สร้างการเข้าถึงสินค้าและบริการ เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน โปรเจกต์นี้จึงเกิดขึ้นและเปิดให้บริการได้ในที่สุด โดยพร้อมที่จะเปิดรับพันธมิตรเพิ่มเติม โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าเปิดร้านหรือส่วนแบ่งรายได้แต่อย่างใด”

...

เขาเล่าอีกว่า ประสบการณ์ที่จะได้รับจาก V-Avenue.co จะแตกต่างจากการช็อปปิ้งออนไลน์ผ่าน e-Marketplace ทั่วไป เพราะ V-Avenue คือถนนสายช็อปปิ้งเสมือนจริง เป็นการจำลองบรรยากาศการเดินห้าง แวะชมสินค้าและช็อปปิ้งสินค้าแต่ไม่ต้องเดินทาง ยิ่งถ้าสวมแว่น VR ก็จะยิ่งได้อรรถรส เพราะสามารถรับชมได้แบบ 360 องศา ทั้งในรูปแบบ 2D, 3D โดยในช่วงปฐมฤกษ์เปิดห้างใหม่ ได้มีการอัดแคมเปญจัดโปรโมชัน มอบส่วนลดมากมายเหมือนห้างทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่โดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแรกที่ชอบลองของใหม่ (กลุ่ม Early Adopter) ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 10-15% ของผู้ใช้มือถือในประเทศ

สำหรับ V-Avenue.co เฟสแรก ประกอบด้วย 1. AIS Virtual Store แหล่งรวบรวมสมาร์ทโฟน 5G, แก็ดเจ็ต IoT จากหลายแบรนด์ อาทิ Samsung, Apple, Huawei, Oppo, Vivo, Xiaomi, Realme, Oneplus จำหน่ายในราคาเอกซ์คลูซีฟ 2. ดิ เอ็มโพเรียม และ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งวางจำหน่ายทุกกลุ่มสินค้าหลักไม่ว่าจะเป็น BEAUTY HALL, WOMEN & MEN FASHION, POWER MALL, SPORTS MALL, WATCH GALLERIA, BETREND และ GOURMET MARKET

3. Asian Lifestyle รวม 3 แบรนด์ดัง ได้แก่ ALAND, Jung Saem Mool (จอง แซม มุล) และ Loft ซึ่งจะวางจำหน่ายสินค้าคัดพิเศษ ลิมิเต็ดอิดิชันให้ได้เลือกช็อป 4. ทีวีไดเร็ค ขนสินค้าอาหารเสริม เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้าน สินค้านวัตกรรม สินค้าความงาม ตลอดจนเมนูอร่อยขึ้นชื่อ ของดีประจำจังหวัด ที่คัดแล้วว่าเด็ด มารวมไว้ให้ช็อปในที่เดียว 5. Community Hub พื้นที่สำหรับเอสเอ็มอี ผู้ค้ารายย่อย ซึ่งพร้อมเปิดพื้นที่ให้แบบไม่จำกัดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ในอนาคต เอไอเอสยังวางแผนสร้างและพัฒนาฟีเจอร์ให้ก้าวล้ำไปอีก เช่น พนักงานขาย LIVE สด พูดคุยแนะนำลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าได้ หรือการเปิดพื้นที่ลานหน้าห้าง V-Avenue ให้ผู้ประกอบการทุกขนาด เข้ามาใช้แพลตฟอร์มสร้างอีเวนต์ในรูปแบบ Virtual Expo จัดแสดงสินค้า จัดแสดงคอนเสิร์ต หรือจัดแสดงแฟชั่นโชว์ เพื่อต่อยอดเป็น Business Model ใหม่.

...