ในสามจอมเทพผู้ยิ่งใหญ่ของพราหมณ์ พระพรหม ได้ชื่อว่า ผู้สร้างโลกและจักรวาล พระศิวะ ได้ชื่อว่าพระผู้สร้าง และ พระผู้ทำลาย พระวิษณุ ได้ชื่อว่าพระผู้รักษาพระวิษณุใช้เวลาว่าง...ประทับนิทราบนหลังอนันตนาคราช ลอยอยู่เหนือเกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม) จึงได้ชื่ออีกชื่อว่า นารายณะ แปลว่า ผู้เคลื่อนไปในน้ำเวลาพวกผู้ร้ายคือพวกยักษ์ก่อเรื่องร้ายๆ พระนารายณ์ก็งานเข้า อวตารเป็นอะไรต่อมิอะไรไปปราบนารายณ์อวตาร ปางที่คนไทยคุ้น...คือปางที่ปราบนนทก ยักษ์ผู้มีหน้าที่ล้างเท้าให้เทวดาก่อนขึ้นเฝ้าพระอิศวรที่เขาไกรลาสเทวดานิสัยไม่ดีชอบเขกหัวทึ้งผม จนนนทกกลายเป็นยักษ์หัวล้าน นนทกเจ็บใจไปฟ้องพระอิศวร ก็ตามเคย พระอิศวรใจดี ประทานนิ้วเพชรให้ ชี้ใครเป็นต้องตายยักษ์เก็บกดไว้นาน พอมีฤทธิ์เดชก็อาละวาด เอาคืนด้วยการเอานิ้วเพชรไปชี้ฆ่าเทวดาตายไปมากมาย ป่วนไปทั้งสวรรค์ชั้นฟ้าพระนารายณ์รับงานแล้ว ก็ยังไม่กล้าเอาตัวไปปะทะ ต้องอวตารเป็นนางอัปสรแสนสวย เร่ไปทำทีเมียงมองชม้อยชม้ายตา นนทกติดกับเผลอเกี้ยวนางแปลงแสร้งว่า กำลังอยากได้คู่ที่ชอบเต้นระบำรำฟ้อนด้วย ถ้าอยากเป็นแฟนกัน นางรำท่าไหน ขอให้นนทกรำตามท่ารำเริ่มแต่ “เทพพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน กินรินเลียบถ้ำอำไพ”...จนถึงท่ารำสุดท้าย “นาคาม้วนหาง”นางอัปสรตวัดนิ้วชี้ลงปลายเท้า ยักษ์รำตามนิ้วเพชรก็ชี้เข้าที่แข้ง ล้มกลิ้งลงกับพื้นนนทกหมดฤทธิ์ นางอัปสรก็ได้ทีแปลงกลับเป็น “องค์นารายณ์” สี่กรเหยียบเข้าที่อกนนทกยังไม่สิ้นใจก็เย้ยว่า มีถึงสี่มือแต่คงกลัวนิ้วเพชร จึงต้องเป็นผู้หญิงมาหลอกพระนารายณ์หมั่นไส้สาปประชดให้นนทกไปเกิดเป็นยักษ์ มีสิบเศียรยี่สิบกร องค์นารายณ์จะเป็นแค่มนุษย์สองมือตามไปสู้กันใหม่จึงเป็นที่มาของเรื่องพระรามทำสงครามรบยืดเยื้อกับทศกัณฐ์ในเรื่องรามเกียรติ์นารายณ์อวตารปางพิสดารที่สุดคือ ปางนรสิงหาวตาร เหตุของเรื่องก็เหมือนทุกๆเรื่องก็มาจากพระศิวะ ท่านพระทัยดีเห็นยักษ์ ชื่อ “หิรัญยกศิปุ” บำเพ็ญตบะแก่กล้าก็ให้พรไม่ตายด้วยคมศาสตราวุธ ไม่ตายในเวลากลางวัน ไม่ตายในเวลากลางคืน ไม่ตายทั้งในเรือนและนอกเรือน...เมื่อใครฆ่าไม่ได้ ยักษ์ก็กำเริบป่วนชั้นฟ้า ป่วนโลกมนุษย์ ม้วนแผ่นดินหนีบรักแร้งานนี้องค์นารายณ์ต้องทีมครีเอทีฟ ระดมสติปัญญาอวตารเป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ เลือกเวลาโพล้เพล้ไปลากตัวหิรัญยกศิปุมาที่ธรณีประตูเวลาโพล้เพล้ไม่ใช่กลางวันไม่ใช่กลางคืน ธรณีประตูไม่ใช่ในเรือนหรือนอกเรือนพ้นรังสีคุ้มกันพรพระศิวะ ถึงเวลานั้นนรสิงห์ก็กางเล็บ ถามยักษ์ว่า “นี่อาวุธหรือเปล่า”ยักษ์บอกว่า “เปล่า” นรสิงห์ก็กางกรงเล็บตะปบร่างยักษ์ ฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆจุดจบของหิรัญยักษ์ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องสึกพระธัมมชโย ฝ่ายอาณาจักรอ้างรอให้ศาสนจักรตัดสินก่อน ฝ่ายศาสนจักรก็อ้างขั้นตอน เถรสมาคมต้องรอให้ทางการตัดสินว่าผิดจริงมาก่อนถ้ายังเกี่ยงกันอย่างนี้ โอกาสจะจบเรื่องธรรมกายก็คงไม่ใช่อีก 5 วัน 7 วัน คงต้องว่ากันอีกเป็นปี...คงต้องเหนื่อยกันไปอีกนาน น่าสงสารทั้งตำรวจทหาร น่าสงสารทั้งพระ ทั้งญาติโยม.กิเลน ประลองเชิง