เป็นไปตามโผไม่มีพลิก “เดอะโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. ได้รับการเสนอชื่อมาเป็น ผบช.สตม. แทน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น อดีต ผบช.สตม. ที่ถูกโยกมานั่งเป็น ผบช.น.ด้วยการทำงานถึงลูกถึงคน เกาะติดงาน และสนใจงานความมั่นคงประเทศ เป็นความโดดเด่นที่ถูกวางตัวมาเป็น ผบช.สตม. สานต่อนโยบายรัฐบาล สกัดกั้นต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย อาชญากรข้ามชาติที่หลบหนีคดี และต่างด้าวที่อยู่เกิน กำหนดด้วยวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ทำงานตามแนวทาง One World One Team หรือตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก ทำให้ได้รับความร่วมมือในการปราบปรามเครือข่ายคดีคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นภัยในหลายประเทศความที่เป็นผู้นำ ชอบทำงานเคียงข้างลูกน้อง และลงลึกในต้นตอของปัญหา เป็นที่คาดหวังของชาวบ้านให้มาดูแลความสงบสุขบ้านเมือง และความมั่นใจของลูกน้องตำรวจที่อยากร่วมในทีมทำงานตั้งแต่สมัยที่เป็น ผบก.ทท. ผบก.สปพ. และรอง ผบช.ทท. นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย กวาดล้างผู้ต้องหารายสำคัญที่มีหมายจับ ประสานงานความร่วมมือหน่วยเอฟบีไอตำรวจสากล และเอกอัครราชทูตในหลายประเทศ ร่วมกันกวาดล้างแก๊งอาชญากรและมาเฟียข้ามชาติรายสำคัญการรับตำแหน่ง ผบช.สตม. ประการด่านแรกของเมืองไทย น่าจะพลิกภาพเดิมๆ ทั้งงานด้านความมั่นคง และการบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของไทย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยึดนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ว่า “ต้องสร้างความสมดุลระหว่างสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงของชาติ” และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า “ต้องรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ” ภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งความมั่นคงที่ “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำชัดเจนในการมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.สตม. ที่ว่า บทบาทของ สตม. ภารกิจหลัก คือ การควบคุมคนต่างด้าวการควบคุมคนต่างด้าว ต้องทำ 2 ด้านคืองานมั่นคง และการบริการยึดหลัก “4S1C” Security การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย Standard มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศและเป็นสากล Service การให้บริการที่ดี Satisfactions การสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติ และ Coordinations การสร้างความร่วมมือทั้งในและระหว่างประเทศพันธกิจ 4 ด้าน 1.ตรวจสอบคัดกรองชาวต่างชาติหรือคนต่างด้าว ที่จะเข้ามา และอยู่ต่อในประเทศอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ มุ่งสู่การขจัดปัญหาทางสังคม และอาชญากรรมข้ามชาติ 2.ดำเนินการเพื่อรองรับสังคมโลกาภิวัตน์ เชื่อมโยงผู้คนและสังคมโลกแบบไร้รอยต่อ 3.มุ่งสู่ Immigration 4.0 โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบ คัดกรองเพื่อการเข้าและขออยู่ต่อในประเทศอย่างถูกต้องและแม่นยำ รวมถึง 4.การให้บริการที่ทันสมัย ซึ่ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ให้ความสำคัญงานความมั่นคงเป็นหลัก ตามมาด้วยงานบริการมิติ “ด้านความมั่นคง” 1.การสกัดกั้น การป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวที่มีพฤติกรรมจะก่ออาชญากรรมเข้าประเทศ การลง Watchlist และ Blacklist รวมทั้งความร่วมมือจากหน่วยงานในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งอินเตอร์โพล 2.การคัดกรอง คัดกรองคนต่างด้าวที่เสี่ยงจะมาก่ออาชญากรรมไม่ให้เข้าประเทศ ทำให้โอกาสในการก่ออาชญากรรมลดลง และแยกคนไม่ดี ออกจากคนดี การเข้มงวดในการให้วีซ่า เข้มงวดในการตรวจกลุ่มเป้าหมาย ตรวจเอกสารและหลักฐานมากขึ้น ขอข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ทั้งโทรศัพท์ ที่พัก บุคคลอ้างอิง กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในตรวจคัดกรองและอนุญาตให้เข้าประเทศ 3.การควบคุม เป็นการติดตามคนต่างด้าวให้ทราบถึงการเข้า การอยู่ การทำงาน เพราะเราไม่มีฐานข้อมูลมากนักสำหรับคนต่างด้าว ต่างจากคนไทยซึ่งมีฐานข้อมูลหลายด้านทำให้การติดตามทำได้ง่ายกว่าการแจ้งที่พักอาศัย สามารถควบคุมคนต่างด้าวได้ดีที่สุด สามารถแก้ปัญหา overstay ได้อย่างยั่งยืน สามารถติดตามจับกุมคนต่างด้าวที่ก่อเหตุหรือหนีคดีจากต่างประเทศ การอนุญาตให้อยู่ต่อประเภทต่างๆ4.การปราบปราม การตรวจ การสืบ การจับกุม คนต่างด้าวที่กระทำผิด รวมทั้งคนไทยด้วย งานสืบสวนของแต่ละ บก.ร่วมกันสืบสวนจับกุม ประสานงานร่วมกับหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานกักตัวคนต่างด้าวและการส่งตัวกลับ 5. การยับยั้ง การยับยั้งการออกนอกประเทศของคนต่างด้าวที่กระทำความผิด หรือคนไทยที่มีคดีหรือกระทำความผิดออกนอกประเทศ เช่น กลุ่มคนจีนที่ลักอัญมณีจากงานโชว์ต่างๆ แล้วจะรีบเดินทางหนีออกนอกประเทศทันที ประสานข้อมูลหน่วยงานในประเทศ โดยให้มีช่องทางเร่งด่วนในการประสานงานเพื่อยับยั้งการเดินทางออกนอกประเทศ 6.งานด้านข้อมูล สนับสนุนข้อมูลเพื่อการป้องกันปราบปรามและการวิเคราะห์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมิติ “ด้านการบริการ” 1.การอำนวยความสะดวกคนเดินทางเข้าออกประเทศ คนเข้าออกประเทศได้สะดวกรวดเร็ว แต่อยู่บนพื้นฐานของความมั่นคง สนามบินสุวรรณภูมิ กับสนามบินดอนเมือง คือ พื้นที่เป้าหมายหลัก 2. การอำนวยความสะดวกในการขออยู่ต่อของคนต่างด้าว 3. การช่วยเหลือคนต่างด้าวที่ประสบเหตุต่างๆ ในด้านการอยู่และการเข้าออกประเทศ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “1.สนามบินเป็นจุดใหญ่ที่ประชาชนและผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ ต้องเน้นก่อนความมั่นคงในการคัดกรอง ความรวดเร็ว สร้างความมั่นใจให้ประชาชนนักท่องเที่ยว สร้างความประทับใจ 2. ภารกิจการสกัดกั้นและการคัดกรองมีความสำคัญมาก เพราะถ้าสามารถทำได้ดีโอกาสที่อาชญากรต่างชาติจะเข้ามาก่อเหตุจะน้อยลง ตามมาด้วยการปรับปรุงพัฒนา การแจ้งที่พักอาศัยให้ดีขึ้น จะควบคุมคนต่างด้าวตามภารกิจของ สตม.ได้อย่างสมบูรณ์ 3.ระบบคอมพิวเตอร์ยังไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่มีอยู่ PIBICS เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับการเก็บข้อมูล ทำให้ระบบทำการวิเคราะห์ได้ไม่มีประสิทธิภาพ และยังไม่ครอบคลุมทุกข้อมูล 4.ระบบ Bio matrix น่าจะไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรืออาจเป็นปัญหาในอนาคต”“5.ฐานข้อมูลหมายแดง ตำรวจสากล ยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการจัดการคนต่างด้าวตามหมายแดงได้เป็นอย่างดี แต่ต้องมีการอัปเดตข้อมูลหมายแดงเป็นประจำ เพราะบางครั้งหมายแดงถูกยกเลิกจากระบบตำรวจสากลแล้ว แต่จะค้างอยู่ในระบบ สตม.ได้ 6.การเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ มีความสำคัญมาก ทั้งภาพลักษณ์ที่ออกไปทั่วโลก และการประสานข้อมูลอาชญากรรมต่างๆ รวมไปถึงการร้องขอสิทธิประโยชน์บางอย่าง 7.การแก้ไขระเบียบการเก็บเงินค่าล่วงเวลาจากคนผ่านเข้าออกด่าน ของด่านชายแดน ซึ่งระเบียบปี 2523 ให้เก็บคนละ 5 บาท ฝอ.7 พยายามยกร่างแก้ระเบียบใหม่ให้เพิ่มจำนวนเงินมากขึ้นให้เหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน 8. ส่วนแบ่งรายได้จากการท่าในการเก็บเงินจากผู้โดยสารเพิ่มเพื่อเป็นค่าการดำเนินการระบบ APPS คนละ 10 บาท ซึ่งต้องให้ สตม.ตรวจสอบบัญชีบุคคลชาวต่างชาติที่ถูกจับตา” เป็นนโยบายที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ว่าที่ ผบช.สตม.ใช้ในภารกิจควบคุมคนต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายต่างด้าวอยู่เกินกำหนด ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย และความมั่นคงภายในประเทศไทย.ทีมข่าวอาชญากรรม