สัญญาณ “สงคราม” รอบใหม่ในมุมของนักวิเคราะห์การเมืองรู้สึกได้ทันทีที่ได้เห็นฉากแห่มากันทั้งครอบครัวโดยเฉพาะกับปรากฏการณ์ที่ “หญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่นำทีมลูกๆมาด้วยตัวเอง ทั้ง “เอม” พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว รวมไปถึงลูกเขย “เสี่ยพงศ์” นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ขนกันมาหมดทั้งบ้าน เกือบหมดครอบครัวเพื่อส่งกำลังใจช่วย “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของคุณหญิงพจมานกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ารับฟังคำสั่งคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มกฤษดามหานคร ที่สำนักงานอัยการสูงสุดไม่นับทีมพรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดง นปช.ที่แห่มาชุดใหญ่ไล่ตั้งแต่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรค “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง นปช. ฯลฯ ตั้งแถวรอให้กำลังใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “ทักษิณ” ข่าววงในยืนยันรหัสสัญญาณตรงกัน “บ้านใหญ่สั่งมา”นั่นสะท้อนเลยว่า มันคือ “วาระสำคัญ” โดยแท้จริงและยิ่งเมื่อผลออกมา สรุปอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ได้มีคำสั่งฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ในฐานะผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงินที่มีการรับเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2542 มาตรา 5, 9 และ 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฉบับที่ 5 ปี 2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 รวมถึง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่ 6 ปี 2526 มาตรา 4ส่วนกรณีเช็ค 26 ล้านบาท อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายพานทองแท้ โดยจะส่งสำนวนพร้อมความเห็นดังกล่าวกลับไปให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพานทองแท้ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยทีมทนายความของลูกชายอดีตนายกฯทักษิณ ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราว และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวนายพานทองแท้ โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยศาลนัดสอบคำให้การนายพานทองแท้ในวันที่ 5 พฤศจิกายนคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล ผิดถูกว่ากันตามกระบวนการยุติธรรมแต่แน่นอน โดยพฤติกรรมที่สะท้อนออกมาตั้งแต่ก่อนรู้ผลอัยการสั่งคดี นายพานทองแท้ได้โพสต์โซเชียลมีเดีย เป็นเชิงดักคอ ดักทาง อ้างถึงเสียงคำรามครั้งสุดท้ายของ “ลุงฉุน”เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้งฝันไปเถอะครับลุง นอกจากเราจะไม่เผ่นกันแล้วผมยังจะชวนทุกคนในบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วยกัน เมื่อก่อนมีพ่อเป็นคนเดียว คราวนี้ผมจะชวนมากันให้หมดอารมณ์เดียวกันเลยกับ “อุ๊งอิ๊ง” ที่โพสต์โซเชียลฯหลังรู้ผลคำสั่งอัยการสั่งฟ้องพี่ชายถากถางกันเป็นนัย “ลูกทักษิณ” ไม่เคยได้รับอะไรเหมือนคนอื่นเค้าหรอก “ลูกทักษิณ” ได้รับอะไรแรงกว่าคนอื่นเสมอ แต่รู้มั้ย เลือดเนื้อของ “ทักษิณ” ก็วิ่งอยู่ในตัวเราทั้ง 3 คนนั่นแหละ จะเข้มแข็งให้สมกับเป็น “ลูกทักษิณ” ขอบคุณทุกคนสำหรับกำลังใจที่ส่งให้พี่โอ๊ค และครอบครัวเรานะคะ ส่งใจให้เราเยอะๆนะ ขอเลยวันนี้เข้มแข็งให้ได้เหมือนพ่อกับแม่ 10 ล้านเยอะฝุดๆๆ“โอ๊ค-อุ๊งอิ๊ง” ลูกๆแสดงอารมณ์ต่อต้านกระบวนการทางคดีทุจริตกู้กรุงไทยนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงอาการผู้เป็นพ่อ “นายใหญ่” คงดุเดือดพล่านมากกว่าหลายเท่านักตั้งแต่พ่อไปยันลูก บ้าน “ทักษิณ” เชื่อโดยสนิทใจ ฝังอยู่ในดีเอ็นเอ ครอบครัวถูกรังแกทางการเมืองไม่ใช่เรื่องกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใดและมันก็เป็นอะไรที่ผูกโยงกันตามเงื่อนไขสถานการณ์ เมื่อลูกชายหัวโปรดโดนต้อนเข้ามุมในทางคดีการต่อสู้ทางการเมืองของ “นายใหญ่” ก็ยกระดับความเข้มข้นขึ้นทันทีทันใดตามจังหวะที่อดีตนายกฯทักษิณและอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว บินโฉบมาปักหลักที่ฮ่องกงและต่อเนื่องประเทศญี่ปุ่น และต่อที่เมืองจีน ป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เปิดคิวให้ลูกแถวจากเมืองไทยบินตรงไปรับแผนวางยุทธศาสตร์การเมืองภายใต้รูปแบบสงครามรอบใหม่ “นายใหญ่” กดปุ่มยุทธศาสตร์แยกกันเดินรวมกันตี การแตกทัพ “นอมินี” พรรคเพื่อไทย ทั้งพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ ฯลฯไฟเขียวผุดค่ายเล็กค่ายน้อย สารพัดเครือข่ายพะยี่ห้อ “ทักษิณ”ทั้งตีกินกระแส ทั้งแก้ปัญหาภายใน เคลียร์ปมขบเกลียวของบรรดาแกนนำระดับเจ๊ระดับเฮียที่ไม่ลงรอยกัน ไหนจะฐานการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่ทับซ้อนกับฐานมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.อีกมุมก็เป็นการตั้งค่ายสำรองเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน การยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่แกนนำพรรคเคลื่อนไหวผิดกฎหมายความมั่นคง พร้อมๆไปกับการรองรับผู้สมัครที่ล้นที่นั่งพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงการเก็บตกคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ในระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่พรรคเพื่อไทยเสียโควตาอย่าว่าแต่คู่ต่อสู้เลย ลูกหาบกับกองเชียร์เองยังงงๆทักษิณเดินหมากแก้เกมอุตลุด ไม่รู้ค่ายไหนทัพหลวง ค่ายไหนทัพหลอกไหนจะผนึกกับแนวร่วมพันธมิตรข้ามค่าย ทั้งพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้การนำของ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคประชาชาติ โดยการนำของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา พรรคเสรีรวมไทย ที่นำโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. แนวรบ “ทวงอำนาจ” เรียงหน้ากระดานบุกทุกทิศ รุกทุกทาง รบทุกรูปแบบตามเหลี่ยมเกมถนัดของยี่ห้อ “ทักษิณ” อยู่ที่การเลือกตั้งไฟต์บังคับ “นายใหญ่” ต้องพลิกขั้วกลับมาเป็นฝ่ายถืออำนาจทางการเมืองให้ได้ ในสถานการณ์ที่ชะตากรรมของนายพานทองแท้ ลูกชายคนโต แขวนอยู่บนเส้นด้าย“กล่องดวงใจ–ไข่งูจงอาง” ถูกทุบเหนืออื่นใด ตามสภาพพลังถดถอย ถ้ารอบนี้พลิกเกมอำนาจไม่ได้ “ทักษิณ” ฟุบยาวแน่แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมของฝ่ายคุมความมั่นคง “ความเสี่ยงสูงสุด” จุดล่อแหลมมันได้ผ่านไปแล้วตั้งแต่นาทีที่ “น้องปู” ใช้วิชา “ล่องหน” หนีฟังคำตัดสินศาลในคดีทุจริตรับจำนำข้าว ปล่อยให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ต้องเผชิญชะตากรรม ติดคุกยาวคนละ 30-40 ปี จุดที่อารมณ์สงสาร คะแนนเห็นใจคนตระกูลชินถูกรังแก ลดน้อยถอยลงไปมีแต่อาการค้างคาใจของพวก “สู้ตาย” เพื่อนายใหญ่ เข้ามาแทนที่ยิ่งเทียบเครดิต “อาปู” กับ “หลานโอ๊ค” มันคนละเงื่อนไขกันเลยประกอบกับมวลชนเสื้อแดงที่เป็นกำแพงแน่นๆให้ “ทักษิณ” พิง ถึงตรงนี้ก็ไม่แข็งแรงอีกต่อไป ประเมินได้จาก “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ หัวขบวน นปช.ต้องเคลื่อนไหวตั้งพรรคเพื่อชาติต้องเปลี่ยนแผน ดิ้นหาที่ยืนทางการเมืองกันเหนื่อยนั่นก็เพราะตลอดเวลา 4–5 ปี ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. คุมเกมบริหารอำนาจ ได้ทำการตัดกำลังระบอบ “ทักษิณ” อุดจุดอ่อน เสริมจุดแข็งทีมปฏิรูปประเทศจนมั่นใจว่า ไม่เสียของซ้ำซากจากการปฏิวัติ 2-3 รอบแต่ทั้งหมดทั้งปวง คำตอบสุดท้ายมันอยู่ที่ประชาชนคนไทยเจ้าของสิทธิ์ คิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้น ที่ยังหนีไม่พ้นศึกเก่า สงครามใหม่ เงื่อนไขความขัดแย้งเดิมๆเดิมพันฝั่ง “ทักษิณ” คือ ความเป็นอยู่เป็นไปของตระกูลชินกับเงื่อนไขฝั่ง “ประยุทธ์” ที่ต้องคุมเกมอำนาจเปลี่ยนผ่าน ไม่ให้เสียของเหนืออื่นใดนั่นคือเดิมพันประเทศไทย หลังเลือกตั้งจะเดินหน้าไปสู่แสงสว่างปลายอุโมงค์ หรือถอยหลังถูกลากกลับไปลงเหวเผชิญวิกฤติฝันร้ายซ้ำภาพม็อบเผาบ้านเผาเมือง ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ปิดถนน ยึดสถานที่ราชการ ระเบิดตูมตาม ยิงกันรายวัน ถ้าถึงจุดนั้น อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้กับฉากคนไทยแบ่งข้างฆ่ากัน รัฐล่มสลาย เศรษฐกิจดิ่งเหว สถานการณ์เลวร้าย รุนแรงกว่าเก่าอีกหลายเท่า อย่างประเมินไม่ได้หมายเหตุ รอบนี้คงไม่มีคน “เอาอยู่” อีกแล้ว.“ทีมการเมือง”