ตอนที่ 13
“รู้ไหม นี่เรายังโชคดีมากเลยนะ เพราะถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเดียว อาจไม่ทันแล้วก็ได้”
ทุกคนโล่งอก...จวบจนเช้า วดีเห็นดอนยังเครียดจึงเข้ามาถามว่าคิดอะไรอยู่
“กำลังทบทวนคำพูดของหลวงตาครับ หลวงตาบอกให้ทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ในฐานะคนที่เป็นลูกและผู้รักษากฎหมาย”
“แล้วคุณคิดได้แล้วหรือยังคะว่าจะทำยังไง”
ดอนคิดว่าจะหาทางพบบัญชา แล้วพยายามพูดให้เขามอบตัว ไม่ใช่ในฐานะลูกแต่ในฐานะผู้รักษากฎหมาย
ooooooo
ระหว่างนั้น บัญชา อลัน สรเดชและลิลลี่กำลังคุยกันเรื่องหาตัวฤทธิ์ณรงค์ไม่เจอ เพราะได้หาทั้งที่บ้าน ที่บริษัท รวมถึงโกดังท่าเรือแล้ว ทุกที่ไม่มีร่องรอยของเขาเลย อลันคิดว่าคงจะกลัวหัวหด หนีตายหัวซุกหัวซุน แต่บัญชาไม่อยากให้ประมาท
“บางทีมันอาจกำลังซุ่มตัวเพื่อหาทางโต้กลับเราอยู่ก็ได้ ผมห่วงก็แต่ตอนนี้อ่อนศรีอยู่ในมือมัน มันอาจใช้อ่อนศรีเป็นเครื่องต่อรองกับเรา”
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องวัดใจกันหน่อย เมียทั้งคนจริงไหมล่ะคุณ”
บัญชานั่งนิ่งด้วยอาการครุ่นคิด ทันใดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น บัญชารับสาย พอรู้ว่าเป็นดอนโทร.มานัดให้ออกไปคุยกันแบบไม่มีคนอื่น เขาอยากคุยด้วยอยู่พอดี แต่หยั่งเชิง
“ฉันจะแน่ใจได้ยังไง ว่าจะไม่โดนหลอก”
“ผมจะส่งสถานที่กับเวลาที่แน่นอนให้คุณอีกที ส่วนคุณจะไปหรือเปล่า ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน” ดอนพูดจบกดวางสาย
พอสรเดชรู้ว่าดอนโทร.นัดให้พ่อออกไปพบก็เกรงจะเป็นแผนล่อไปถูกจับ อลันเสนอให้ซ้อนแผน เอาคนของเราไปถล่ม บัญชาปฏิเสธเพราะต้องการพบดอนตามลำพัง จึงยื่นคำขาด
“ฉันจะไป ใครก็ห้ามฉันไม่ได้ทั้งนั้น ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดกับเขา”
“เรื่องอะไรกันเหรอครับพ่อ”
“รอให้ฉันแน่ใจก่อน ถึงเวลานั้นฉันจะบอกแกเอง”
ทุกคนอึดอัดใจในการตัดสินใจของบัญชา...
ขณะเดียวกัน ดอนก็ครุ่นคิดเรื่องที่จะไปพบบัญชา
มิเชลฟื้นขึ้นมา วดีกับปื๊ดเล่าเรื่องที่เธอโดนแทงแล้วถ่วงน้ำ ดีที่ดอนไปช่วยไว้ทัน มิเชลซาบซึ้งใจ และดอนยังบอกอีกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน
บ่ายวันนั้นบัญชาไปพบดอน โดยมีลูกน้องไปด้วยสองคน แต่สรเดชไม่ไว้ใจ สั่งลิลลี่แอบตามไป...
บัญชาให้ลูกน้องรอที่รถ ตัวเขาเดินไปยังจุดนัดพบ










