แค่ยืนเฉยๆ ออร่าความหล๊อ หล่อ พุ่งทะลุจอ!! โก้–วศิน อัศวนฤนาท พระเอกปากแดง กลับมาพร้อมทวงคืน คู่จิ้น คู่ขวัญ พิ้งค์พลอย ปภาวดี ในละคร “ปางเสน่หา” ค่ายดีด้าฯ ทางช่อง 7HD ทำให้แฟนๆ ได้ฟินตลอดๆ ยิ่งถอดเสื้อโชว์ความขาวโบ๊ะ ละลายไปตามๆกัน ยิ่งกับเรื่องราวเดินทางมาถึงครึ่งเรื่องให้ได้ลุ้นหนัก งานนี้ก็เลยชวนหนุ่มโก้ มาเปิดใจเบื้องหลังการทำงานก็รุ่ง แถมความรักก็เริ่ด คบแฟงกี้ แฟนสาวนอกวงการแฮปปี้สุดๆใน “คนดังนั่งคุย”
ฟีดแบ็กละครปางเสน่หา สำหรับโก้เป็นอย่างไรบ้าง
“ฟีดแบ็กละครคือดีมากนะครับ ทุกคนทั้งคนที่รู้จัก คนรอบตัว เพื่อนคุณแม่คือทุกคนพูดถึงกันเยอะมากกว่าเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา เรื่องนี้คือรู้สึกได้เลยว่ามีคนตามดูเพิ่มขึ้น ทั้งจากแฟนๆ และคนอื่นๆด้วย ต้องบอกว่ามีฟีดแบ็กที่ดี ส่วนใหญ่จะได้รับคำชมว่า สนุก ตัวเราก็เล่นค่อนข้างใส่เต็มในทุกอารมณ์ของตัวละคร เตชิต ที่เรารับบท คือผมเองพยายามผสมความเป็นตัวเองลงไปในตัวละครด้วย เพื่อที่จะสร้างความเป็นธรรมชาติให้กับตัวละคร”

...
ส่วนหนึ่งคือได้กลับมาร่วมงานกับพิ้งค์พลอย–ปภาวดี ชาญสมอน อีกครั้ง
“ใช่ครับ คือเราต่างคนต่างรู้จังหวะกันอยู่แล้ว พอกลับมาร่วมงานกันก็เลยจะง่าย เราเจอกันบ่อย ร่วมงานกันเยอะ ในเรื่องนี้จะมีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นได้ อย่างเวลาที่เราเข้าฉากกัน บางทีก็มีเพิ่มบท เสริมบทเข้าไปด้วย มันก็จะสนุก”
ในเรื่องมีฉากกุ๊กกิ๊ก เยอะทีเดียว เข้ากับพิ้งค์พลอยเขินมั้ยล่ะ
“เขินครับ เขินแหละ คือมันเป็นความรู้สึกจริงๆ ผมว่ามันดีนะ มันตรงกับตัวละครตอนเล่นก็เขินแล้ว การที่มีความรู้สึกนี้เป็นเรื่องที่ดี คือถ้าเรารู้สึกเราก็เชื่อว่าคนดูน่าจะสัมผัสได้เหมือนกับเรา”
ในเรื่องมีฉากถอดเสื้อพอสมควรด้วยเหมือนกันกับฉากกุ๊กกิ๊ก อะไรทำให้โก้เขินกว่ากัน
“ผมว่าตอนถอดเสื้อผมเขิน คือผมก็ไม่ค่อยได้ถอดบ่อยๆเนอะ แต่พอเรามาดูมันก็ใช้ได้อยู่นะ (หัวเราะ)”
ตอนนี้ละครเลยครึ่งทางมาแล้ว กำลังเข้มข้นเลย
“ใช่ครับคือมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น ปมหลายปมเริ่มค่อยๆคลายออก ผมคิดว่าช่วงแรกๆของละคร คนดูจะดูแล้วจะมีคำถามเยอะ แบบว่า สรุปแล้วใครเป็นคนทำ ใครทำให้เกิดขึ้น แต่ละครในช่วงนี้คือค่อยๆเฉลยไปเรื่อยๆ แล้วว่าอะไรยังไง คลี่คลายให้เข้าใจ ผมว่าเนี่ยล่ะ เป็นช่วงที่ละครสนุกที่สุดในการดูก็เลยอยากให้ทุกคนติดตามไม่อยากให้พลาดครับ”
นอกจากละครปางเสน่หา มีอะไรอีกบ้าง
“ก็กำลังเตรียมตัวกับละครเรื่องใหม่ครับ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ผมได้พักนิดหนึ่ง แต่ก็เริ่มกลับมาเล่นคอนเสิร์ตบ้าง รวมถึงทำเพลงด้วย นี่เดี๋ยวประมาณปลายเดือนหน้า ก็จะมีเพลงใหม่ปล่อยออกมาอีกหนึ่งเพลงครับ ผมทยอยทำทยอยปล่อยเรื่อยๆ อยากให้ใน 1 ปีมีเพลงใหม่ๆ สัก 3-4 เพลง”
คิดถึงบรรยากาศงานคอนเสิร์ตไหม
“ คิดถึงครับ แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีกลับมาบ้างแล้ว แต่บรรยากาศของงานก็ยังไม่เต็มที่หรอก เพราะทั้งตัวเราและคนดูเองก็ยังคงต้องระมัดระวังตัว คือเป็นคอนเสิร์ตแบบนิวนอร์มอลไปก่อน เวทีต้องมีที่กั้น แต่เท่านี้ผมก็รู้สึกดีมากๆแล้วครับ เหมือนเราได้กลับมาใช้ชีวิต”
ตัวโก้เองช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลอย่างไรบ้าง
“มันก็เหงาๆนะครับ คือไม่ได้เหงาเพราะไม่มีงานนะครับ แต่ว่าเหงาเพราะว่าเราไม่ชินกับการใช้ชีวิตนี่ล่ะ คือปกติเราอยากไปไหนมาไหน ไปหาเพื่อน กลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณแม่ คือขนาดครอบครัวตัวเองเวลาเจอกันเรายังขอตรวจ ATK ก่อนเพื่อความแน่นอน หรือบางทีเราไปโน่นนี่นั่นมา เจอคนเยอะ เราก็ต้องบอกว่าอย่าเพิ่งเจอกันดีกว่า มันคือการที่เราทุกคนต้องปรับตัวครับเพื่อให้อยู่ให้ได้”
เห็นว่าเพราะสถานการณ์โควิด-19 เลยทำให้โก้เริ่มหันมาทำธุรกิจด้วย
“ใช่ครับ เริ่มทำมาได้ประมาณปีกว่าๆ เป็นโพรไบโอติก ชื่อแบรนด์ว่า KOVA SYNSHOT ก็มาจากชื่อผมครับ คือ โก้ วศิน ปรากฏว่าฟีดแบ็กดีมากๆ คือเขาเริ่มจากมาสั่งซื้อกันไปทานแล้วพอมันดีเขาก็กลับมา ไม่ใช่แค่สั่งซื้อแล้วแต่มาขอเป็นตัวแทนจำหน่าย คือโพรไบโอติกเนี่ยจริงๆ ระยะหลังนี้คนเริ่มรู้จักเขามากขึ้น แต่จริงๆตัวผมเองทานมานานแล้ว เพราะคุณพ่อผมเป็นหมอแนะนำ ซึ่งเมื่อก่อนในไทยจะหาซื้อยาก ผมก็คิดว่าลองทำดูน่าจะดี ก็ทดลองอยู่นานเหมือนกันนะครับ กว่าจะได้ตัวนี้ออกมา เพราะผมเอาพวกวิตามินที่เราจำเป็นต้องได้รับผสมไปด้วยคือตัวเดียวให้ครบไปเลย ไม่ต้องมาแยกกินอย่างอื่นอีก เพราะเมื่อก่อนผมก็กินเยอะมาก”
การตัดสินใจทำธุรกิจในช่วงโควิด-19 กังวล ไหม
“กังวลครับ คือกังวลเรื่องที่เศรษฐกิจในเวลานั้นยังไม่ค่อยดี คนจะระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น ผมก็กังวลแหละ แต่มานั่งคิดว่า ถึงทุกคนจะยังกังวลตรงนั้นอยู่ แต่ถ้าเรากล้าที่จะฉีกกฎตรงนั้นแล้วทำออกมา เหมือนพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ในช่วงที่ละครก็พักกองไม่ได้ถ่ายทำด้วย เรามีเวลาดูแลเต็มที่ ก็เลยทำเลย จนวันนี้ผ่านมาปีกว่าๆ ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ ผมยังไม่ถือว่าตรงนี้คือการประสบความสำเร็จนะครับ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เพราะเราจะไม่หยุดอยู่กับที่ เราต้องไปต่อตลอด”

คิดจะแตกแขนงไปไลน์อื่นๆต่อมั้ย
“มีนะครับ คิดอยู่เรื่อยๆ เรื่องธุรกิจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องของเวลาด้วยครับ จังหวะ โอกาส ทุกอย่างต้องพอเหมาะด้วย”
ทำงานทุกด้านขนาดนี้ มีเวลาให้กับตัวเองบ้างไหม
“ในมุมของผม มองว่าทุกคนต่างใช้เวลา 24 ชั่วโมงอย่างคุ้มค่า และได้ใช้เวลาในแบบที่ตัวเองต้องการ บางคนที่บอกไม่ได้ทำอะไรอยู่เฉยๆ แต่นั่นก็อาจจะเป็นการชาร์จพลังให้ตนเองเพื่อใช้พลังต่อไปในอนาคตก็ได้ ตัวผมเองเวลาอยากชาร์จพลัง ผมก็เลือกที่จะนอน (หัวเราะ) คือง่ายที่สุด ดีที่สุด เพราะผมชอบนอนนะ เป็นคนที่รู้สึกว่าถ้านอนน้อย นอนไม่พอแล้วร่างกายมันเหมือนยังไม่เต็ม แล้วผมก็ไม่ชอบตัวเองเวลาที่ประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ผมก็เลยจะต้องนอนให้เพียงพอ ส่วนเรื่องการไปเที่ยว ผมก็ชอบไปแบบไปแล้วได้พักผ่อนจริงๆ อย่างเวลาไปต่างจังหวัด ผมก็จะเลือกไปแบบที่ไปแล้วได้พัก ไม่ใช่แบบที่ไปถึงปุ๊บมีกิจกรรมรออยู่ต้องไปปีนเขา ไปแอดแวนเจอร์ คือชอบไปแบบถอดจิต (หัวเราะ) คือไปแบบไม่คิดอะไรมาก ผมชอบเที่ยวแบบ งงๆ มึนๆไปมากกว่า (หัวเราะ)”
หัวใจโก้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“(หัวเราะ) เรื่อยๆครับ ก็มีคนที่คุยอยู่แหละ ความรักวันนี้ของผมโอเคไหม โอเคนะ คือผมไม่ได้ไปกำหนด ไม่ได้ไปขีดเส้นว่า อายุเท่านี้ต้องทำอย่างไร เรามาถึงจุดนี้ต้องไปอย่างไรต่อ คือเรามองว่าเรื่องความสัมพันธ์ให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เรื่องไปกำหนด ไปเร่ง ไปขีดเส้นอะไรมากๆไม่ได้”
ถ้าให้นิยามความรัก โก้ คิดว่าเป็นแบบไหน
“รักคือปาฏิหาริย์ที่มีอยู่จริง เข้าละครเฉย (หัวเราะ) ส่วนความรักเราวันนี้ก็ดีครับ อยู่กันด้วยความเข้าใจ แฮปปี้ ไม่มีปัญหาอะไรต้องห่วง สำหรับผมความสัมพันธ์ที่ดี คือความสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรต้องห่วง เป็นความรู้สึกที่เป็นกำลังใจให้ตัวเรา”
วัยเกี่ยวไหมคะ บางคนบอกว่าพอวัยเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน
“แน่นอนครับ คือพอเราโตขึ้นมุมมองในชีวิตของเราก็จะโตขึ้น ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป ผมว่าไม่ใช่แค่เรื่องความรักนะ แต่เป็นทุกๆเรื่องเลย เหมือนกับพอเราได้รู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างนะครับ อย่างอาม่าของผม เขาจะมีความสามารถพิเศษมากๆ เกี่ยวกับความต้องการของตนเอง คือเขาจะชัดเจนมาก ว่าเขาต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร พอเขารู้ความต้องการเขาก็แสดงออกชัดเจน แต่ถ้ามองย้อนกลับมาที่ตัวเรา ตอนที่เราเป็นเด็ก เราจะไม่กล้าแสดงออกความรู้สึกตรงนี้ คือเรากลัวไปหมด กลัวคนจะมองเราแบบนั้นแบบนี้ อย่างตัวผมเองเทียบระหว่างปีนี้กับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ความรู้สึกของเราวันนี้ก็ไม่เหมือนกัน เวลานั้นเรากังวลไปหมด แต่พอเราผ่านเวลา ผ่านประสบการณ์ มุมมองมันก็เปลี่ยน พอถามว่ามุมมองเรื่องวัยเกี่ยวข้องกับความรักไหม ผมถึงตอบว่าแน่นอน เรามีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น เรารู้จักโลกมากขึ้น สำคัญที่สุดคือเรารู้จักตัวเองมากขึ้น ดังนั้นมันก็มีผลทั้งเรื่องชีวิต ความรัก เพราะเรารู้ว่าวันนี้เราต้องการอะไร และเราก็เรียนรู้ว่าถ้าเราทำแบบไหน ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร”

เหมือนวันนี้ทุกอย่างในชีวิตโก้ลงตัว ทั้งงาน และความรัก
“โดยรวมคือถ้าคนอื่นมองอาจจะมองว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว แต่กับตัวผมเอง ผมยังไม่คิดอย่างนั้นนะคือตัวผมไม่ได้ลำบากแต่ก็ยังคิดว่า ถ้าเราคิดว่าเราแฮปปี้ทุกอย่าง ชีวิตดีแล้ว เราจะหยุด เราจะขี้เกียจทำงานไหมอะ เลยบอกตัวเองเสมอว่ายังยังไม่ประสบความสำเร็จ แล้วผมก็มักจะเอาคนที่เขาประสบความสำเร็จมากๆ มาเป็นตนแบบให้เรามุ่งมั่นมากขึ้นด้วย เว้นแต่เวลาที่เราท้อจริงๆ แบบไม่ไหวแล้ว ก็อาจจะมองย้อนกลับไปถึงคนที่เขาลำบากกว่าเรามากๆ เพื่อสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง เรียกว่าชีวิตของผมเป็นขั้นๆไป ถึงจุดหนึ่งเพื่อไปต่ออีกจุดหนึ่ง อาจจะอิ่มเอมกับความสุขในจุดนี้ แต่พอรู้สึกว่าเราเต็มที่แล้ว เราก็ต้องไปต่อ”
ถามถึงแฟนๆกันบ้างดีกว่า ตอนนี้แฟนคลับโก้น่ารักมากๆ อย่างวันเกิดที่ผ่านมาก็มีจัดเซอร์ไพรส์ให้
“ใช่ครับ จริงๆเราก็ดูแลกันมาทุกปี ดูแลกันมาตลอด ปีนี้วันเกิดโก้ (15 มิ.ย.) เขาก็เซอร์ไพรส์ล่วงหน้าด้วยการจัดรถฟู้ดทรัคมาซัพพอร์ตเครื่องดื่มและขนมถึงที่ช่อง 7HD ผมต้องขอบคุณมากๆ ครับ เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า และเป็นของขวัญชิ้นแรกในปีนี้เลย ประทับใจจริง ๆ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ต เป็นพลังที่อบอุ่นและน่ารัก ขอบคุณที่ทุกคนอยู่ตรงนี้ ผมเองก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับ
ทุกคนด้วยเหมือนกัน คือผมก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตของเราเกิดมาแล้ววันหนึ่งจะมีคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เขามีความรู้สึกดีๆให้กับเรามาโดยตลอด โดยไม่ได้หวังอะไรเลย ผมก็ได้เรียนรู้ด้วยว่า ยิ่งเราได้อยู่ใกล้ชิดกับพวกเขาไปนาน ๆ เราเริ่มมีความสนิทใจขึ้น ยอมรับนะครับว่าสมัยก่อน แรกๆเวลาเจอแฟนคลับบางทีเราก็มีความรู้สึกว่า จะต้องเท่ ต้องเก๊กๆอะไรแบบนั้น แต่จริงๆมันไม่ใช่ คือพอเวลาผ่านไปทำให้รู้ว่าเขาชื่นชมเราที่ผลงานนะ เราเป็นธรรมชาติของเรานั่นแหละเขาโอเคแล้ว”.
(เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน)
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ