ตอนที่ 81
ตอนที่ 81 เห็นสาวดีกว่าน้อง
“พี่เขาไม่ชอบไปเที่ยว อยากจะอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน พี่หมิงต๋าทำการบ้านเสร็จหรือยังคะ ถ้าอย่างนั้นอยู่ทำการบ้านกับพี่ฉันมั้ยคะ?” อู่เหมยพูดอย่างจริงใจมาก
พอได้ยินคำว่าอ่านหนังสือ เหยียนหมิงต๋าก็ปวดหัว ถึงเขาจะไม่ใช่พวกเรียนแย่เหมือนอู่เหมย แต่ก็เก่งกว่าเธอไม่เท่าไร ต่อให้ชอบอู่เยวี่ยสักแค่ไหน เขาก็ไม่อยากอยู่ทำการบ้านเป็นเพื่อนอู่เยวี่ย จึงรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที
อู่เหมยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอรู้อยู่แล้วว่าเหยียนหมิงต๋าไม่อยากแน่นอน สามสี่วันนี้เธอได้ครุ่นคิดอย่างจริงจัง ถึงแม้เหยียนหมิงซุ่นไม่ชอบอู่เยวี่ย แต่ขอเพียงอู่เยวี่ยแต่งงานกับเหยียนหมิงต๋า เธอก็จะกลายเป็นน้องสะใภ้ของเหยียนหมิงซุ่น แล้วด้วยความสัมพันธ์พี่น้องของเหยียนหมิงซุ่นกับเหยียนหมิงต๋า เขาไม่มีทางที่จะไม่ดูแลเหยียนหมิงต๋า แบบนี้อู่เยวี่ยก็จะได้เปรียบทางอ้อม
เธอไม่อยากให้อู่เยวี่ยได้เป็นคุณหญิงคุณนายที่ใครๆ ต่างก็อิจฉาเหมือนกับชาติที่แล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือขัดขวางไม่ให้อู่เยวี่ยได้แต่งงานกับเหยียนหมิงต๋า แล้วอู่เหมยก็มั่นใจอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนถานซูฟางคุณแม่ของเหยียนหมิงต๋าคัดค้านเรื่องการแต่งงานของอู่เยวี่ยกับเหยียนหมิงต๋าแบบหัวชนฝาทีเดียว
ถานซูฟางไม่ชอบที่อู่เยวี่ยฐานะทางบ้านยากจน ไม่สามารถเกื้อหนุนส่งเสริมเหยียนหมิงต๋าได้ แต่ว่าเหยียนหมิงต๋ายืนยันหนักแน่น อีกทั้งกำลังจะมีลูกด้วยกันกับอู่เยวี่ย และแล้วด้วยการสนับสนุนของเหยียนโฮ่วเต๋อ อู่เยวี่ยก็ได้แต่งเข้าตระกูลเหยียนอย่างราบรื่น นอกจากนี้เพียงไม่นานเธอก็ได้ให้กำเนิดหลานชายคนโตของตระกูลเหยียน ทำให้เธอค่อยๆ มีที่ยืนอย่างมั่นคงในตระกูลเหยียน ใช้ชีวิตเหมือนกับปลาได้น้ำ
อู่เหมยแอบมองพิจารณาเหยียนหมิงต๋าที่หมดอาลัยตายอยากอยู่แวบหนึ่ง นี่ฉันกำลังช่วยนายหนีจากทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มอยู่นะ ถ้าแต่งงานกับอู่เยวี่ยผู้หญิงสารเลวคนนี้จริงๆ ต่อให้นายมีศีรษะนับร้อยก็ไม่พอให้สวมเขาหรอก!
ภูเขาเฟิ่งหวงซานอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณสิบถึงสิบห้ากิโลเมตร ถนนหนทางในเมืองยังนับว่าราบเรียบ แต่พอออกจากตัวเมือง ถนนก็กลายเป็นขรุขระ อู่เหมยต้องนั่งโคลงเคลงจนเจ็บก้นไปหมด แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา
สิ่งที่อู่เจิ้งซือเกลียดที่สุดก็คือความดัดจริตมารยา ถ้าเธอบอกว่านั่งโคลงเคลงจนเจ็บก้น อู่เจิ้งซือต้องพูดแน่ว่าเธอเป็นพวกอ่อนแอทนลำบากไม่ได้ อู่เหมยมองดูเบาะผ้าฝ้ายใต้ก้นของเหยียนหมิงต๋าด้วยความอิจฉา เธออยากนั่งจักรยานของเหยียนหมิงซุ่นจังเลย!
เหยียนหมิงซุ่นสังเกตเห็นท่าทางไม่สบายเนื้อสบายตัวของอู่เหมยตั้งนานแล้ว พูดตามตรงว่าฝีมือการขี่จักรยานของอู่เจิ้งซือไม่ได้เรื่องจริงๆ เลือกขี่แต่ตรงที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ตัวเขาเองอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่นั่งซ้อนท้ายน่ะสิแย่ มิน่าล่ะเจ้าเด็กซื่อบื้อคนนี้ถึงได้หน้าตาบิดเบี้ยว ตาก็แดงเรื่อไปหมด
ท่าทางน่าสงสารของอู่เหมยทำให้เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกใจอ่อนอีกแล้ว เขาเองก็แปลกใจเหมือนกัน ทำไมเขาถึงใจอ่อนให้กับเด็กซื่อบื้อคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่านะ
ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย!
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจ สองเท้าแตะพื้นหยุดจอด แล้วบอกอู่เจิ้งซือว่า “อาจารย์อู่ครับ หมิงต๋าน้องผมตัวหนักมากเลย ผมขอเปลี่ยนกับอาจารย์ได้มั้ยครับ”
อู่เจิ้งซือเหลือบมองเหยียนหมิงต๋าที่ตัวสูงใหญ่และอวบอ้วนแวบหนึ่ง แล้วมองเหยียนหมิงซุ่นที่ตัวผอมบาง เขาอนุญาตด้วยความยินดี “ได้สิ หมิงต๋ามานั่งกับครู เหมยเหมย ลูกไปนั่งกับพี่หมิงซุ่น”
เหยียนหมิงต๋าลงจากจักรยานด้วยสีหน้ามึนงง เขาเพิ่งจะชั่งน้ำหนักเมื่อไม่นานมานี้ น้ำหนักเขาลดไปตั้งหนึ่งกิโลกรัม ทำไมต้องบอกว่าเขาตัวหนักด้วย
เหยียนหมิงซุ่นถลึงตาใส่น้องชายที่งุนงง เหยียนหมิงต๋าถึงกับตัวสั่น แล้วรีบลงจากจักรยานและไปนั่งกับอู่เจิ้งซือ ส่วนอู่เหมยย้ายมานั่งกับเหยียนหมิงซุ่น ก้นที่ต้องทนทรมานได้ย้ายมานั่งบนเบาะนุ่มๆ อู่เหมยก็รู้สึกสบายจนถอนหายใจออกมา
นอกจากเบาะผ้าฝ้ายแล้ว เหยียนหมิงซุ่นยังขี่จักรยานนิ่งมาก เขาขี่หลบพวกหลุมบ่อด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง แล้วถึงแม้หลบไม่ได้ เขาก็จะชะลอความเร็วลง พยายามลดแรงสะเทือนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เมื่อเทียบกับอู่เจิ้งซือแล้ว อู่เหมยนั่งสบายจนจวนจะหลับแล้ว
เหยียนหมิงต๋าแยกเขี้ยวยิงฟันตลอดทางและร้องเสียงประหลาดไม่หยุด ในใจรู้สึกเย็นเยียบเหมือนดอกเดย์ลิลลี่ พี่ใหญ่ไปสนิทสนมกับอู่เหมยตั้งแต่เมื่อไรกัน
เพื่ออู่เหมยแล้ว แม้แต่น้องชายแท้ๆ อย่างเขาก็ทิ้งได้ลงคอ โอ๊ย! เจ็บปวดสุดๆ!