ตอนที่ 80
ตอนที่ 80 เลี่ยงการทำความสะอาดครั้งใหญ่
วันรุ่งขึ้นอู่เหมยตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ อู่เจิ้งซือกับพวกนักเรียนจะออกเดินทางกันตอนแปดโมงเช้า ใครมีจักรยานก็ขี่จักรยานไป ใครที่ไม่มีจักรยานก็นั่งรถบัสไป แล้วไปรวมตัวกันที่ตีนเขาเฟิ่งหวงซาน เมื่อคืนเธอไม่กล้าบอกอู่เจิ้งซือเรื่องที่อยากจะตามไปเที่ยวด้วย ไม่ใช่ว่าเธอกังวลว่าอู่เจิ้งซือจะไม่เห็นด้วย แต่กลัวว่าเหอปี้อวิ๋นจะทำพัง
เหอปี้อวิ๋นเป็นคนรักสะอาด ทุกสุดสัปดาห์จะต้องทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ซึ่งอู่เหมยก็คือแรงงานที่ถูกบีบบังคับ ถ้าเมื่อคืนเธอพูดออกไป เหอปี้อวิ๋นจะต้องพูดยุแยงที่ข้างหูอู่เจิ้งซือแน่นอน ไม่แน่ว่าเธออาจไม่ได้ไปก็ได้
“พ่อคะ หนูไปเที่ยวกับพ่อด้วยได้มั้ยคะ”
อู่เหมยฉวยโอกาสตอนที่เหอปี้อวิ๋นทำอาหารเช้าอยู่ข้างนอกเดินไปพูดเกลี้ยกล่อมอู่เจิ้งซือที่ห้องน้ำ
อู่เจิ้งซือกำลังโกนหนวดอยู่ เขาถามแบบสบายๆ ว่า “ทำการบ้านเสร็จหรือยัง”
“ทำเสร็จแล้วค่ะ ขาดแค่เขียนเรียงความ คุณครูให้เขียนบันทึกการท่องเที่ยว หนูอยากเขียนเกี่ยวกับเฟิ่งหวงซาน” อู่เหมยมองอู่เจิ้งซืออย่างมีความหวัง
พออู่เจิ้งซือได้ยินว่าจะเขียนเรียงความ เขาก็ตกลงทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด “โอเค ลูกไปเตรียมข้าวของ เรียงความเขียนเสร็จแล้วต้องเอามาให้พ่อดูด้วย”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ”
อู่เหมยดีใจยิ้มหน้าบาน ขอเพียงออกไปเที่ยวข้างนอกได้ จะตรวจดูเรียงความก็ตรวจไปเถอะ ในบรรดาวิชาทั้งหมด วิชาที่เธอไม่กังวลเลยก็คือเรียงความ ชาติก่อนเวลาที่ว่างไม่มีอะไรทำ เธอก็จะขีดๆ เขียนๆ อยู่ที่บ้าน ฝีมือคงจะพอถูไถไปได้ละมั้ง!
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เหอปี้อวิ๋นก็มาเตรียมน้ำกับเสบียงให้อู่เจิ้งซือ อู่เจิ้งซือบอกเธอว่า “เตรียมไปเยอะหน่อยนะ เหมยเหมยก็จะไปกับผมด้วย”
มือของเหอปี้อวิ๋นหยุดชะงัก แววตาดุร้ายมองไปที่อู่เหมย เธอพูดอย่างไม่พอใจ “เหมยเหมยไปด้วยทำไม วันนี้ฉันต้องทำความสะอาด ให้เหมยเหมยอยู่ช่วยฉันที่นี่แหละ”
อู่เหมยพูดว่า “พี่เค้าอยู่บ้านไม่ใช่เหรอคะ เมื่อก่อนหนูช่วยทำงานบ้านตลอด พี่ไม่เคยทำเลยสักครั้ง”
“ทำไมแกไม่ลองเทียบคะแนนกับพี่แกดูล่ะ พี่แกสอบได้หนึ่งร้อยคะแนน ส่วนแกสอบได้แปดคะแนน แล้วยังจะมีหน้ามาเถียงอีกเหรอ?” เหอปี้อวิ๋นเหยียดตัวจะไปหยิกแขนของอู่เหมย
อู่เหมยห่อตัวลีบอยู่ข้างๆ อู่เจิ้งซือ แล้วจงใจพูดพึมพำว่า “หนูไม่ได้เถียงสักหน่อย เมื่อก่อนเสื้อผ้าของอู่เยวี่ยหนูต้องเป็นคนซักให้ หนูไม่ใช่คนใช้ของที่บ้านสักหน่อย ทำไมต้องให้หนูทำงานอยู่คนเดียวด้วย อู่เยวี่ยผลการเรียนดีแล้วไม่ต้องทำงานก็ได้งั้นเหรอ กฎหมายไม่ได้เขียนระบุแบบนี้สักหน่อย”
ถึงแม้อู่เหมยจะพูดพึมพำ แต่เสียงเธอไม่เบาเลย ทุกคนในบ้านล้วนได้ยินกันหมด อู่เยวี่ยหน้าถอดสีเล็กน้อย แม้แต่โจ๊กก็กินไม่ลงแล้ว ถ้าขืนปล่อยให้อู่เหมยพูดต่อไป พ่อต้องไม่พอใจอีกเป็นแน่
แม่เองก็อารมณ์ร้อนเสียเหลือเกิน สามสี่วันมานี้อู่เหมยเอะอะโวยวายหนักมาก ซึ่งทำให้พ่อไม่ค่อยพอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม่ก็ไม่รู้จักสะกดกลั้นบ้างเลย
“แม่คะ เดี๋ยวหนูช่วยทำความสะอาดค่ะ ให้เหมยเหมยไปเที่ยวเถอะ” อู่เยวี่ยยิ้มพลางพูด
“เยวี่ยเยวี่ย ลูกยังต้องอ่านหนังสือ...”
“ไม่ต้องอ่านวันนึงก็ได้ค่ะ แม่บอกหนูตลอดไม่ใช่เหรอคะว่าเรียนกับพักผ่อนต้องให้สมดุลกัน ถือเสียว่าผ่อนคลายแล้วกันค่ะ”
อู่เยวี่ยพูดตัดบทเหอปี้อวิ๋น แล้วแอบขยิบตาให้เธอ แม้เหอปี้อวิ๋นจะไม่ยอม แต่เธอเชื่อฟังคำพูดของลูกสาวคนโตที่สุดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอถลึงตาใส่อู่เหมยทันทีและหุบปาก จากนั้นเตรียมเสบียงให้อย่างเงียบๆ โดยหยิบขนมปังใส่ไปเพิ่มอีกสองสามชิ้นกับน้ำเปล่าหนึ่งกา
อู่เจิ้งซือรู้สึกพอใจมากที่อู่เยวี่ยพูดจารู้เรื่อง คนในครอบครัวเดียวกันจะต้องรักใคร่ปรองดองกัน แบบนี้ถึงจะทำให้มีความสุขทั้งกายและใจ เมื่อเทียบกันแล้ว ภรรยาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเอาเสียเลย ทำเอาบรรยากาศภายในบ้านอึมครึม หลังจากกลับมาจากไปเที่ยว เขาจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคิดของเธอใหม่เสียแล้ว
อู่เหมยออกจากบ้านไปภายใต้สายตาโกรธแค้นของเหอปี้อวิ๋น อู่เหมยดีใจกระโดดโลดเต้นราวกับนกตัวน้อย อู่เจิ้งซือที่เดินนำหน้าเห็นแล้วก็สบายตาขึ้นไม่น้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอู่เจิ้งซือก็ยังดีกว่าเหอปี้อวิ๋นเล็กน้อย แม้ว่ามันจะจอมปลอมก็ตามที
แล้วอย่างไรล่ะ?
สิ่งที่เธอใช้ประโยชน์อยู่ตอนนี้ก็คือความจอมปลอมของอู่เจิ้งซือไม่ใช่หรือ?
“สวัสดีครับอาจารย์อู่” เหยียนหมิงซุ่นเข็นจักรยาน ส่วนเหยียนหมิงต๋าเดินตามหลัง
เมื่อไม่เจอยอดดวงใจ เหยียนหมิงต๋าก็รู้สึกผิดหวังอย่างแรง แล้วถามว่า “อาจารย์อู่ครับ ทำไมเยวี่ยเยวี่ยไม่มาด้วยล่ะครับ?”