ตอนที่ 77
ตอนที่ 77 ลูกเจี๊ยบ
วันเสาร์เรียนแค่ครึ่งวัน ช่วงเช้าหลังจากเรียนจบสี่คาบ พวกนักเรียนต่างก็เหมือนกับนกที่ถูกปล่อยให้โบยบิน เพียงพริบตาเดียวก็หายไปกันหมด แต่อู่เหมยไปไม่ได้ วันนี้เป็นเวรเธอทำความสะอาด ทว่ายังมีเจ้าตุ้ยนุ้ยอู่เชาอยู่เป็นเพื่อนเธอ
“เหมยเหมย พรุ่งนี้เธอก็จะไปเที่ยวที่เฟิ่งหวงซานด้วยเหรอ” อู่เชาหาเรื่องคุยกับเธอ ในใจเขารู้สึกสงสัยมาก เมื่อก่อนแม้แต่บ้านคุณปู่อู่เหมยยังไม่อยากไปเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกิจกรรมของชั้นเรียน คราวนี้นิสัยเธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ!
“อืม!” อู่เหมยก้มหน้าก้มตาพรมน้ำอยู่เงียบๆ
“เมื่อก่อนเธอไม่ชอบออกไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ” อู่เชาอดถามไม่ได้
อู่เหมยวางกะละมังลงบนโต๊ะ แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้ฉันอยากออกไปเที่ยวบ้างไม่ได้เหรอ กฎหมายระบุไว้เหรอว่าฉันออกไปเที่ยวไม่ได้”
อู่เชาตกใจ ไอ้หยา! ไปกินรังแตนมาหรือไง?
“ได้อยู่แล้ว ใครบอกว่าไม่ให้เธอออกไปเที่ยวล่ะ พรุ่งนี้ฉันก็ไปด้วย อารองจะพาเด็กนักเรียนในห้องไปเที่ยว ถึงตอนนั้นเราไปด้วยกันกับอารองนะ” อู่เชาพูดพลางยิ้มตาหยี ถ้าไม่ใช่เพราะอู่เจิ้งซือไปด้วย คุณแม่เขาก็ไม่มีทางตกลงให้เขาไปเที่ยวที่ภูเขาหรอก
อู่เหมยพยักหน้า เดิมเธอตั้งใจจะไปด้วยกันกับอู่เจิ้งซืออยู่แล้ว อู่เชาหัวเราะคิกคัก แล้วก็เหลือบมองอู่เหมยที่ดูสะสวยและร่าเริงสดใสขึ้นแวบหนึ่ง เขาอดพูดไม่ได้ว่า “เหมยเหมย ตอนนี้เธอดูดีมากเลย ดูแล้วน่ารักเหมือนกับลูกเจี๊ยบ ต่อไปอย่าปล่อยผมสยายอีกนะ ดูอย่างกับผีแน่ะ”
“นายต่างหากที่เป็นลูกเจี๊ยบ!”
อู่เหมยโมโหแล้วใช้มือพรมน้ำใส่จำนวนมาก น้ำกระเซ็นโดนตัวอู่เชา แต่เขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด ยิ้มตาหยีอย่างมีความสุขมาก เขาพยักหน้าไม่หยุด “ฉันเป็นพี่เธอ ถ้าเธอเป็นลูกเจี๊ยบ แน่นอนว่าฉันก็ด้วย ตรรกะนี้ถูกต้องเป๊ะ เหมยเหมย เธอฉลาดขึ้นแล้วนะเนี่ย!”
“ขี้เกียจคุยด้วยแล้ว!”
อู่เหมยพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย การที่ชาติก่อนเธอไม่สนิทสนมกับบรรดาลูกพี่ลูกน้อง ปัจจัยหลักอาจเป็นเพราะตัวเธอเมินเฉยไม่สนใจคนอื่นละมั้ง
ขณะที่เดินกลับบ้าน ที่สนามบาสเกตบอลยังคงมีหลายคนเล่นบาสกันอยู่ เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยซูหานต่างก็ไม่อยู่ทั้งคู่ เด็กผู้ชายมัธยมต้นกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่ หนึ่งในนั้นมีเหยียนหมิงต๋าอยู่ด้วย เขาอุ้มลูกบาสดูอย่างกับหมีสีน้ำตาล
อู่เหมยไม่สนใจสักนิด แล้วเดินไปทางอาคารบ้านพักครูด้วยความไม่สบายใจ ในใจเธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอคงไม่ได้ทำให้เหยียนหมิงซุ่นตกใจหรอกมั้ง
รู้อย่างนี้เย็นวันนั้นเธอไม่ถามโจทย์เลขกับเหยียนหมิงซุ่นซะก็ดี เหยียนหมิงซุ่นคงจะไม่เคยเจอใครที่โง่กว่าเธอละมั้ง
อู่เหมยไหล่ตกลู่และเดินหน้าม่อยคอตกไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะมองทาง และแล้วเธอก็เดินชนเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว
“โอ๊ย!”
อู่เหมยถูจมูกไปมา รู้สึกเจ็บจนเบ้าตาแดงเรื่อ เธอไม่แม้แต่จะมองอีกฝ่าย แล้วพูดว่า “ขอโทษค่ะ!”
เหยียนหมิงซุ่นมองเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างขำๆ เธอซื่อบื้อจริงๆ ด้วย เดินไม่ดูทางเลยสักนิด โชคดีที่อยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ไม่มีรถรา ถ้าเดินอยู่บนถนนข้างนอก เธอต้องเดินชนเข้ากับรถเป็นแน่
“เจ็บเหรอ?”
อู่เหมยได้ยินเสียงที่คุ้นหูก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ แต่กลับเห็นรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเหยียนหมิงซุ่น เขาสะพายกระเป๋าเป้ ดูเหมือนว่ากำลังจะออกไปข้างนอก อู่เหมยส่ายหัวแรง “ไม่เจ็บค่ะ ไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว”
เหยียนหมิงซุ่นอดหัวเราะอีกไม่ได้ เธอพูดโกหกทั้งเพ ไม่เจ็บแล้วทำไมร้องไห้
“วันหลังเดินดูทางหน่อยนะ”
“อืม พี่หมิงซุ่นจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?” อู่เหมยรวบรวมความกล้าแล้วถาม
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเบาว่า “ไปห้องสมุดน่ะ เธอรีบกลับบ้านเถอะ!”
อู่เหมยพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย “ค่ะ บ๊ายบายค่ะพี่หมิงซุ่น!”
อู่เหมยโบกไม้โบกมือให้เหยียนหมิงซุ่น เธออารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ดูท่าเหยียนหมิงซุ่นจะไม่ได้รังเกียจที่เธอโง่เง่า ดีจัง เพียงแต่ว่า...
“โจทย์สระว่ายน้ำข้อนั้นเธอทำถูกแล้วใช่มั้ย” จู่ๆ เหยียนหมิงซุ่นก็เอ่ยถามเธอ