ตอนที่ 73
ตอนที่ 73 ความอิจฉาของอู่เยวี่ย
เหอปี้อวิ๋นยอมอ่อนข้อให้เป็นครั้งแรก ในใจอู่เหมยรู้สึกแช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอคิดอะไรง่ายเกินไป ทำอะไรด้วยความบุ่มบ่าม ตอนนี้เธอต้องหัดฉลาดขึ้นบ้าง แข็งปะทะแข็งนั้นไม่ได้การแน่นอน ต้องใช้ไม้อ่อน
อู่เยวี่ยอารมณ์ไม่ดีขึ้นเลยสักนิด ตอนนี้เจ้าน้องโง่ได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกันกับเธอแล้ว อู่เยวี่ยรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายอย่างชัดเจน อู่เหมยกำลังค่อยๆ หนีห่างจากการควบคุมของเธอไปทีละนิดแล้ว
ถ้าอู่เหมยเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่แน่ว่าอาจเปลี่ยนเป็นผีเสื้อที่สวยงามน่าหลงใหล ไม่ใช่คนที่น่าสงสารอย่างในตอนนี้อีกต่อไป
อู่เยวี่ยเจ็บปวดใจ แล้วกัดริมฝีปากอย่างแรง อู่เหมยจะมาบดบังจุดสนใจไปจากเธอไม่ได้เด็ดขาด เจ้าน้องโง่คนนี้จะต้องได้แต่ใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยต่อหน้าเธอไปตลอดกาล เจ้าหญิงของตระกูลอู่ต้องเป็นเธออู่เยวี่ยเท่านั้น
ใบหน้าสวยงามของอู่เหมยปรากฏขึ้นตรงหน้า อู่เยวี่ยอิจฉาจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว สักวันร่างกายย่อมโรยราเอย ความสามารถต่างหากที่ยั่งยืนเอย เหลวไหลทั้งเพ บรรดาคนที่พูดคำพูดพวกนี้ล้วนงี่เง่าทั้งนั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงคืออะไร
หน้าตาที่สวยงามไม่ใช่หรือ!
ผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มแต่ไม่รู้หนังสือกับผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความสามารถแต่หน้าตาธรรมดา จักรพรรดิจะเลือกใครเป็นพระสนม
แน่นอนว่าคือผู้หญิงแบบแรก!
พวกผู้ชายล้วนเป็นสัตว์ที่มองแต่รูปลักษณ์ภายนอก ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน บรรดาผู้หญิงที่มีชื่อจารึกอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ มีคนไหนบ้างที่ไม่ได้สวยหยาดฟ้ามาดิน
บูเช็กเทียน เสี้ยวจวงไทเฮา...
หากพวกเธอไม่ได้สวยงามจนโลกตะลึง แล้วจะดึงดูดใจจักรพรรดิได้อย่างไร หากไม่สามารถเข้าวังของจักรพรรดิได้ ต่อให้พวกเธอมีความสามารถ มีความมุ่งมั่นขนาดไหน ก็ไม่มีโอกาสที่จะแสดงให้เห็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องมีชื่อเสียงเลื่องลือไปเป็นร้อยๆ ปีเลย
อู่เยวี่ยหยิบกระจกบานเล็กขึ้นมาส่องดูใบหน้าตัวเอง เป็นใบหน้าที่ดูดี หลังจากบรรจงเสริมแต่งแล้ว ก็พูดว่าสวยงามได้ แต่ไม่ได้สวยจนชวนตกตะลึง เธอรู้ตัวดี
คางกว้างไป ดั้งแบนไป ริมฝีปากบางไปนิด ตาก็ไม่ค่อยกลมโต คิ้วค่อนข้างบาง สิ่งเดียวที่ทำให้เธอพออกพอใจก็คือรูปร่างที่สูงเพรียวกับผิวที่ขาวผุดผ่อง หากเธอไม่ได้แต่งตัวทันสมัย อีกทั้งสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียน ตำแหน่งดาวโรงเรียนคงไม่ตกอยู่ในมือเธอ
ถ้าให้เธอยืนอยู่กับอู่เหมย เธอต้องถูกเหมารวมว่าเป็นเด็กเรียนแย่ทันที ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอเกลียดอู่เหมย คนโง่มีสิทธิ์อะไรมาหน้าตาสวยกว่าเธอ
ไฝที่หว่างคิ้ว ลักยิ้ม ใบหน้ารูปไข่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของคนสวย แต่เธอไม่มีเลยสักอย่าง ทุกอย่างอยู่ที่เจ้าน้องโง่หมด!
อู่เยวี่ยคว่ำกระจกลงบนโต๊ะด้วยความโกรธแค้น ใบหน้าเธอบูดบึ้งเล็กน้อย ไม่ได้การ เธอต้องคิดหาวิธีทำให้เจ้าน้องโง่ดูน่าเกลียดให้ได้ ขอเพียงเจ้าน้องโง่ไม่ได้มีหน้าตาสะสวย ทีนี้ก็จะได้แต่หมอบอยู่แทบเท้าเธอไปตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสได้เงยหน้าอ้าปากอีกต่อไป
อู่เหมยผลักประตูเดินเข้ามาในห้อง ส่วนเหอปี้อวิ๋นเดินตามมาข้างหลัง พอเห็นอู่เยวี่ยตั้งอกตั้งใจทำการบ้าน เหอปี้อวิ๋นก็ยิ้มปลื้มปริ่ม “เยวี่ยเยวี่ยรีบมาดื่มนมรสมอลต์เร็ว ดื่มเสร็จแล้วค่อยทำการบ้านนะ”
“ขอบคุณค่ะแม่ แม่ดีกับหนูจริงๆ”
อู่เยวี่ยเงยหน้ายิ้มหวานให้เหอปี้อวิ๋น แถมยังพูดออดอ้อน แล้วมองไปทางอู่เหมยที่นิ่งเงียบด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง ชอบอวดความเป็นลูกสุดที่รักของเหอปี้อวิ๋นอยู่ตลอดเวลา เมื่อก่อนอู่เหมยรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว อู่เหมยมองอู่เยวี่ยอย่างไม่สนใจและยิ้มเยาะที่มุมปาก
เด็กจริงๆ!
เธอไม่สนใจการยั่วยุของอู่เยวี่ย แล้วเดินตรงเข้าไปด้านใน เธอเปิดโคมไฟตั้งโต๊ะที่เหอปี้อวิ๋นซื้อมาใหม่ ห้องที่มืดสลัวก็พลันสว่างไสวขึ้นมาก ดูแล้วอบอุ่นมาก นอกจากนี้ยังมีพัดลมเครื่องใหม่เอี่ยมวางตั้งอยู่ด้านข้าง เหอปี้อวิ๋นเพิ่งซื้อมาเช่นกัน มิน่าล่ะเธอถึงได้โมโหกระฟัดกระเฟียดขนาดนั้น
อู่เหมยมองดูห้องที่พลิกโฉมใหม่แล้วยิ้มมีความสุข ต่อไปจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เธอมั่นใจ!