ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 เด็กเรียนแย่ท่ามกลางลูกหลานของตระกูล
อู่เหมยถอนหายใจ ไม่คิดว่าเธอจะมาเกิดใหม่ในวันนี้ เพิ่งกลับมาก็ไม่คิดจะให้เธอได้มีชีวิตสงบสุขเสียแล้ว นับดูตอนนี้เธอน่าจะอายุสิบสองปี ส่วนอู่เยวี่ยสิบสี่ปี
อู่เยวี่ยเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นปีหนึ่งแต่เธอกลับเรียนอยู่ชั้นประถมปลายปีสองโรงเรียนเดียวกันกับอู่เยวี่ย อู่เยวี่ยเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน หน้าตาสวยงาม ร้องเพลงได้เต้นรำเก่ง ความสามารถพิเศษเหลือล้น แถมการเรียนก็ดี เป็นนักเรียนที่คุณครูทั้งโรงเรียนชื่นชอบ
แต่อู่เหมยกลับตรงกันข้าม หากเทียบกับอู่เยวี่ยแบบชัดๆ แล้ว นิสัยไม่ได้เป็นที่รักของใคร คุณครูและนักเรียนไม่เกลียดเธอแต่ก็ไม่ชอบเธอ เป็นบุคคลไร้ตัวตนของที่บ้าน เช่นเดียวกับตอนอยู่โรงเรียนเอง แม้แต่ดอกหญ้าข้างทางยังดูเตะตามากกว่าเธอด้วยซ้ำ
สาเหตุที่จดจำวันนี้ได้ดีเป็นเพราะว่าวันนี้คือวันพิเศษ สำหรับคนตระกูลอู่แล้ววันนี้เป็นวันครู ครอบครัวอู่เป็นครอบครัวที่ทำอาชีพครูอันสูงส่งน่าเคารพสืบต่อกันมาถึงสามรุ่น
คุณปู่อู่เป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย คุณย่าอู่เป็นคุณครูโรงเรียนมัธยมปลาย คุณลุงอู่เองก็เป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเช่นกัน คุณป้าเป็นศาตราจารย์มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับคุณลุง คุณอาหญิงอู่เป็นคุณครูชั้นมัธยมปลาย คุณอาเขยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
ส่วนอู่เจิ้งซือเป็นคุณครูประจำวิชาภาษาระดับสูงของโรงเรียนประจำจังหวัดของเมืองจิน เหอปี้อวิ๋นเป็นคุณครูคณิตศาสตร์ชั้นประถม คุณตาคุณยายของอู่เหมยเองล้วนเป็นคุณครูเช่นเดียวกัน แต่ว่าตระกูลเหอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลอู่ คนตระกูลเหอมีเพียงคุณครูชั้นประถมหรือมัธยม ไม่มีอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย
ในวันนี้ของทุกปีตระกูลอู่จะรวมตัวกันและครื้นเครงยิ่งกว่าวันปีใหม่ แต่สำหรับอู่เหมยแล้ว วันนี้กลับเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดแห่งปีของเธอ
เนื่องด้วยคนของตระกูลอู่ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กต่างเป็นอัจฉริยะด้านการเรียน สำหรับคนตระกูลอู่แล้วการศึกษาง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก คนตระกูลอู่คิดว่าการเรียนควรเป็นความสามารถพื้นฐานที่คนตระกูลอู่ควรมี ขอแค่เป็นเด็กจากตระกูลอู่ยังไงก็ต้องมียีนเด่นในจุดนี้ ไม่มีปัญหาด้านการเรียนอย่างแน่นอน
แต่ยีนเด่นนี้กลับตกมาไม่ถึงอู่เหมย เธอเป็นจุดด่างพร้อยของรุ่นที่สามแห่งตระกูลอู่ การเรียนของเธอแย่จนเป็นที่อับอายขายหน้าสามรุ่นก่อนของตระกูลอู่ จึงไม่แปลกที่เธอจะได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามจากคนในตระกูล
การรวมตัวของญาติในปีนี้ที่อู่เหมยจดจำได้ดีเพราะคืนวันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ที่แทบพลิกบ้านตระกูลอู่ อู่เหมยโชคร้ายนักที่เรื่องนี้จะทำให้เธอต้องถูกคนตระกูลอู่เกลียดชังยิ่งกว่าเดิม
อู่เหมยแค่นหัวเราะเสียงเย็น ชาติก่อนเธอยังรู้สึกผิดต่อคุณอาหญิงเพราะเรื่องนี้ เธอในเมื่อนั้นช่างโง่เขลา คุณอาเขยมีภรรยาน้อยข้างนอกแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ?
ปีนั้นเธอเป็นแค่เด็กอายุสิบสอง จะรู้เรื่องราวซับซ้อนของผู้ใหญ่ได้อย่างไร แค่ผู้ใหญ่ถามมาเธอเลยตอบไปตามความจริงเท่านั้น เธอผิดอะไร?
สุดท้ายคุณอาเขยที่ทำผิดมหันต์กลับได้รับการให้อภัยจากตระกูล ส่วนเธอกลับต้องถูกตระกูลทอดทิ้งอย่างโดดเดี่ยว
อู่เหมยโยนหนังสือพิมพ์ทิ้งรีบสับเท้าเดินตามอู่เยวี่ยให้ทัน กลางคืนจะต้องไปทานข้าวที่บ้านคุณปู่ หากไปช้าไม่วายจะต้องโดนเหอปี้อวิ๋นด่าแน่
ตอนนี้เธอยังอายุเพียงสิบสองปี ปีกยังอ่อนนัก ชีวิตต้องอาศัยพ่อแม่ หากหลบเลี่ยงอะไรได้ก็หลบ ทนอะไรได้ก็ทน จนกว่าเธอจะพึ่งตัวเองได้แล้วค่อยว่ากันอีกที
เดินไปได้ราวสิบนาที ก่อนจะถึงลานกว้างสำหรับครอบครัวของโรงเรียนประจำจังหวัดเมืองจิน อู่เจิ้งซือเป็นคุณครูบุคคลต้นแบบของโรงเรียนประจำจังหวัดเมืองจิน ย่อมได้รับสิทธิพิเศษด้วยอาคารบ้านพักที่เพิ่งสร้างใหม่ได้แบ่งห้องชุดเป็นสองห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น สำหรับอู่เจิ้งซือกับภรรยาหนึ่งห้อง และสองสาวพี่น้องอีกหนึ่งห้อง
เท้าทั้งสองก้าวเดินไปตามเส้นทางที่มีต้นไม้รายทางในความทรงจำ อู่เหมยเกิดความรู้สึกที่พูดไม่ออก อู่เยวี่ยกลับย้อนมาจูงมืออู่เหมยอีกครั้งแต่กลับถูกอู่เหมยขืนจนหลุด แม้อู่เยวี่ยจะไม่พอใจแต่เธอเป็นพี่สาวที่ดีเสมอยามอยู่นอกบ้านจึงไม่พูดอะไร และเดินขนาบข้างกับอู่เหมยต่อไป