ตอนที่ 46
ตอนที่ 46 เฟ้นหาความสุข
เมื่อคืนอู่เหมยหลับสบายเพราะมีพัดลมคอยพัดเป่าต่อให้เสียงพัดจะดังไปเสียหน่อยหรือลมที่แรงจนเธอมึนหัว พอนึกได้ว่าอู่เยวี่ยต้องทนร้อนมาตลอดคืน อู่เหมยก็อารมณ์ดีอย่างห้ามไม่ได้
ไม่รู้ว่าอู่เยวี่ยเป็นอะไรไปถึงไม่ฟ้องเหอปี้อวิ๋น อย่างที่คิดเลยว่าเมื่อก่อนเธอขี้ขลาดเกินไปถึงโดนรังแกได้ง่าย ตอนนี้เธอแค่ยื่นกรงเล็บออกเล็กน้อยก็พอจะทำให้อู่เยวี่ยหวาดหวั่นได้
อู่เยวี่ยนั่งข้างโต๊ะอาหารอย่างหดหู่พลางหาวหวอดเป็นบางครั้ง อู่เหมยกลับหน้าตาสดชื่นแจ่มใส กระโปรงใหม่เมื่อวานถูกเธอเอาไปซักเลยทำให้ตอนนี้ยังสวมกระโปรงตัวเก่าที่ไม่เหมาะกับขนาดตัวอยู่ แต่เพราะมีโฉมหน้าใหม่ ต่อให้เป็นถุงกระสอบก็ยังเป็นจุดสนใจของผู้คนได้อยู่ดี
อาหารเช้าของครอบครัวอู่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ไข่ต้ม น้ำนม ซาลาเปา ข้าวต้มและเครื่องเคียงอย่างอื่น น้ำนมมีส่วนแค่อู่เยวี่ยเท่านั้น ค่านมทุกเดือนหกเหรียญ เหอปี้อวิ๋นจะทำใจสั่งไว้ให้อู่เหมยได้อย่างไร
อู่เหมยปอกเปลือกไข่เคี้ยวสองสามคำจนหมดลูก ไข่ไก่ของสมัยนี้ล้วนมาจากไก่เลี้ยงต่างจังหวัดจึงให้รสชาติที่ดี ต่อให้เป็นเพียงไข่ต้มน้ำเปล่าธรรมดาอู่เหมยก็ชอบทาน
ทานไข่ไก่ไปสามฟองรวดอู่เหมยถึงยอมหยุดตักข้าวต้มมาถ้วยหนึ่ง นี่เป็นช่วงที่เธอกำลังเจริญเติบโตย่อมต้องทานอาหารมีประโยชน์มาบำรุงร่างกายให้มาก ชาตินี้เธออยากจะสูงขึ้นอีกตั้งหลายเซนติเมตรแหนะ!
“คุณพ่อคะ หนูก็อยากดื่มนม” อู่เหมยร้องขอ
เด็กที่รู้จักส่งเสียงร้องไห้ถึงจะมีนมกิน เมื่อวานหลังเธออาละวาดไปยกใหญ่ถึงได้โคมไฟกับพัดลมมา จากนี้จะค่อยๆ เรียกร้องความสุขใส่ตัวเอง ไม่เป็นที่ชอบใจไม่เป็นไร ขอแค่ได้ในสิ่งที่ควรได้ก็พอ
เหอปี้อวิ๋นก่นด่า “ยังคิดจะดื่มนม? ดื่มแล้วสอบได้คะแนนดีหรือไง?”
“งั้นแม่ก็ไม่ต้องให้หนูกินข้าวหรอก ให้หนูหิวตายไปนั่นแหละ!” อู่เหมยตอกกลับเสียงเย็น
“แก...”
เหอปี้อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เจ้าลูกไม่รักดี ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็น่าจะบีบคอให้ตายไปซะ จะได้ไม่มาทำให้เธอโมโหตอนนี้!
“เหมยเหมย นมนี้ให้เธอ”
อู่เยวี่ยเห็นสถานการณ์ไม่ดีรีบตั้งสติเลื่อนแก้วน้ำนมของตัวเองมาไว้ตรงหน้าอู่เหมย อู่เจิ้งซือสีหน้าย่ำแย่ตั้งแต่เมื่อคืนจนบัดนี้ยังไม่ดีขึ้น จะให้เจ้าโง่นี่อาละวาดไม่ได้อีกเด็ดขาด รอคุณพ่ออารมณ์ดีแล้วค่อยจัดการเจ้าโง่นี่แล้วกัน
อู่เหมยไม่ปรายตามองนมสักนิด พูดประชด “เอาของเหลือตัวเองมาให้ฉัน พี่เห็นฉันเป็นขอทานเหรอ?”
อู่เยวี่ยถูกโต้กลับจนหน้าซีด หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าอู่เจิ้งซือจะโกรธเข้า ถึงจะให้เธอเทใส่ชักโครกก็ไม่มีวันให้เจ้าโง่อย่างอู่เหมย นี่ยังได้ใจอยู่อีกหรือ?
อู่เจิ้งซือรู้สึกปวดขมับตุบๆ ตอนนี้เขาเริ่มคิดถึงอู่เหมยคนเก่าเสียแล้ว คนที่เป็นดั่งอากาศ เพิกเฉยเธอไปเลยก็ได้ พอตอนนี้มาเอะอะเสียงดัง มันน่าปวดหัวเสียจริง
“คราวหลังสั่งนมมาสองที่” อู่เจิ้งซือพูดสั่ง
เหอปี้อวิ๋นปวดใจจนแน่นอกไปหมด วันนี้ต้องไปซื้อโคมไฟดวงเล็กกับพัดลมแล้วยังต้องสั่งจองนมเพิ่มอีก ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ นี่มันลูกหนี้ชัดๆ!
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการอู่เหมยก็เหยียดยิ้มมุมปาก คว้าซาลาเปาลูกกลมกัดคำโต ซาลาเปาทรงกลมล้วนทำจากไส้เนื้อ ส่วนซาลาเปาทรงสามเหลี่ยมทำจากไส้ผักเค็ม เมื่อก่อนเธอโง่ถึงได้ทานแต่ไส้ผักเค็ม ตั้งแต่นี้ไปเธอจะไม่เป็นคนโง่อีกแล้ว
ซาลาเปาไส้เนื้อในจานเหลือเพียงสี่ลูกนอกนั้นเป็นไส้ผักเค็มทั้งหมด อู่เหมยที่เกิดหิวขึ้นมาก็จัดการซาลาเปาไส้เนื้อไปทีเดียวสามลูกก่อนจะตามด้วยข้าวต้มหนึ่งถ้วย หน้าท้องตึงจนเผลอสะอึกหลายที
“หนูไปโรงเรียนแล้วนะคะ”
อู่เหมยไม่รออู่เยวี่ย สะพายกระเป๋ามุ่งไปที่ประตู อู่เยวี่ยเห็นว่าบนจานเหลือซาลาเปาไส้เนื้อเพียงลูกเดียวจำใจต้องหยิบซาลาเปาไส้ผักเค็มมาทานอย่างฝืนใจลูกหนึ่งแล้วค่อยดื่มนมจนหมดแก้ว สะพายกระเป๋าเดินออกมาเช่นกัน