ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 ฆ่าตัวตาย?
รถตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุในเวลาไม่ช้า รถพยาบาลเองก็เช่นกัน คุณหมอแค่ดูดวงตาของอู่เหมยปราดเดียวก็ส่ายหัว “สายไปแล้ว!”
ทุกคนไม่ได้แปลกใจกับคำพูดของคุณหมอ ตกจากที่สูงร้อยเมตร เกรงว่าชั่ววินาทีที่สัมผัสพื้นก็สิ้นลมหายใจแล้วกระมัง!
คุณหมอถอยออกไปก่อนจะให้ตำรวจเข้ามาดูแทน ทุกอย่างถูกจัดการไปตามขั้นตอน แต่บางทีพวกเขาคงมีข้อสรุปอยู่เบื้องต้นแล้ว กระนั้นก็ต้องดำเนินไปตามขั้นตอนอยู่ดี อู่เหมยก้มมองร่างตัวเองบนพื้นด้วยสายตาเย็นชารวมถึงอู่เยวี่ยที่กำลังซบหน้าร้องไห้หนักหน่วงบนตัวเธอ และเหมยซูหานที่นั่งคุกเข่านิ่งบนพื้น เธออยากบอกตำรวจมากเหลือเกินว่าผู้หญิงจอมเสแสร้งคนนี้แหละคือฆาตกร
แต่ไม่ว่าเธอจะผ่านทะลุร่างตำรวจไปหลายครั้ง ทั้งตะโกนเรียกเสียงดังก็แล้ว กลับไม่มีใครสนใจเธอ และไม่มีใครรู้เรื่องที่ไร้ความยุติธรรมของเธอ ทุกคนต่างคิดว่าเธอฆ่าตัวตาย แม้แต่ตำรวจเองยังสรุปคดีอย่างนี้
“ความผิดฉันเอง สุขภาพน้องสาวฉันไม่ค่อยดี อารมณ์ก็ไม่ปกติ ที่ผ่านมาหลายปีต้องพึ่งยาระงับอารมณ์ตลอด ลูกของเธอคนนี้มากะทันหันเกินไป น้องเขยเลยให้ฉันกล่อมน้องสาวให้เธอไปทำแท้ง แต่น้องสาวฉันไม่ยอม เธอยืนยันจะคลอดลูกให้ได้ ทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายจนในที่สุดก็สงบลงสักที ฉันกับน้องเขยไปปรึกษาเรื่องลูกที่อีกห้อง แต่ใครจะคิดว่า… แค่แป๊บเดียว น้องสาวฉันก็… เป็นความผิดฉันเอง ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ต่อให้เธอคลอดลูกที่อาจจะผิดปกติคนนี้ แล้วยังไงล่ะ!”
อู่เยวี่ยเล่าอย่างเศร้าโศก หลายครั้งเธอออกอาการเสียใจเกินไปทำให้ไม่สามารถเล่าต่อได้ คนรอบข้างต่างปลอบใจเธอบอกว่านี่เป็นเพราะอู่เหมยคิดสั้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
แต่ไม่มีใครทันสังเกตเห็นสีหน้าผิดแปลกของเหมยซูหาน สายตาที่เขามองมาที่อู่เยวี่ยเองก็แปลกนัก คล้ายอยากพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หลับตาลงอย่างเจ็บปวดและกล่าวเสียงแผ่ว “ขอโทษ เหมยเหมย!”
“ไม่เอา ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากคุณ คุณตำรวจ อู่เยวี่ยกำลังโกหกอยู่ ฉันไม่ได้เป็นโรคประสาท สุขภาพฉันเองก็ดีมาก ลูกของฉันไม่มีปัญหาอะไร ฉันไม่ได้ทานยาพวกนั้นตั้งนานแล้ว อู่เยวี่ยต่างหากที่ทำร้ายฉัน เธอเป็นคนผลักฉันลงมา เฮ้! พวกคุณได้ยินที่ฉันพูดบ้างหรือเปล่า?
เหมยซูหาน คุณลุกขึ้นพูดสักคำสิ คุณรีบบอกตำรวจไปสิว่าอู่เยวี่ยเป็นคนฆ่าฉัน เหมยซูหาน ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้?”
อู่เหมยพุ่งตัวมาตรงหน้าเหมยซูหานอย่างโกรธเกรี้ยว ทั้งที่รู้ผลลัพธ์ของมันดีแต่เธอก็กระโจนเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่ากระทั่งหมดสิ้นเรี่ยวแรง เรือนร่างค่อยๆ จางลง
ไม่นานตำรวจได้นำศพของอู่เหมยไปที่ห้องเย็น รอปิดคดีทุกอย่างได้เมื่อไร ญาติจึงจะสามารถนำร่างของเธอกลับบ้านได้ ต่อมาบุพการีตระกูลอู่ก็ถูกเรียกมาที่สถานีตำรวจ
อู่เหมยโถมเข้าหาพวกเขาอย่างตื่นเต้น เธอไม่ได้เจอพ่อแม่มานานเหลือเกิน แต่พ่อแม่กลับมองไม่เห็นเธอสักนิด พวกท่านกำลังตอบคำถามตำรวจอยู่
“ใช่แล้ว ลูกสาวคนเล็กฉันสติไม่ค่อยดีตั้งแต่เด็ก ชอบอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างไร้เหตุผล ลูกสาวคนโตฉันยอมน้องสาวเสมอ ดูแลเธออย่างดี แต่นิสัยของลูกสาวคนเล็กฉันแปลกจริงๆ กับพ่อแม่แท้ๆ อย่างเราเองก็ไม่สนิทสนมด้วย เฮ้อ ใครจะรู้…”
คุณแม่อู่ เหอปี้อวิ๋นดึงกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตาเรียกให้อู่เยวี่ยโผเข้ากอดกับเธอตัวกลม สองแม่ลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย คุณพ่ออู่ทำหน้าเศร้าหมองเช่นเดียวกันอยู่ข้างๆ เพียงแต่ไม่เอ่ยอะไรสักคำ พอตำรวจถามเขาก็แค่พยักหน้าหรือส่ายหน้าเท่านั้น
อู่เหมยมองพ่อแม่ของตนอย่างเหลือเชื่อ ตอนเด็กสติเธอเคยผิดปกติตั้งแต่เมื่อไรกันและไม่เคยฉุนเฉียวอย่างไร้เหตุผลมาก่อน อู่เยวี่ยเป็นลูกรักของพ่อแม่ แล้วตัวเธอจะกล้าอารมณ์เสียต่อหน้าอู่เยวี่ยได้อย่างไร?
เหตุใดคุณพ่อคุณแม่ต้องโกหก?
หรือว่าในใจพวกท่านมีลูกสาวแค่อู่เยวี่ยคนเดียว?
หรือว่าต่อให้เธอตายก็ตาม จะไม่ได้รับความสงสารจากคุณพ่อคุณแม่สักนิดเลยหรือ?