ตอนที่ 18
ตอนที่ 18 หน้าตาที่ไม่ชวนให้ชอบใจ
อู่เจิ้งซือมองอู่เหมยด้วยความตะลึง ลูกสาวคนเล็กที่รวบผมขึ้นสูงชวนให้นึกถึงตอนเด็กๆ จุดที่คุ้นตาที่สุดก็คือไฝเสน่ห์สีแดงกึ่งกลางหน้าผากนั่น รูปหน้าอ้วนกลมผอมซูบลงมากจนกลายเป็นรูปทรงไข่ องค์ประกอบอื่นๆ บนหน้ายิ่งเด่นชัดขึ้น
คิ้วโก่งโค้งสีเข้มเป็นทรง ดวงตาสื่ออารมณ์ที่ชวนให้ชอบใจและไม่ชอบใจ!
ในหัวของอู่เจิ้งซือมีกลอนสองประโยคโผล่ขึ้นมา ภาพลักษณ์ป่วยๆ ของอู่เหมยในตอนนี้ช่างคล้ายคลึงกับน้องสาวหลินที่ถูกบรรยายจากปลายปากกาของคุณถงเชา ต่างแค่ตรงไฝกลางหน้าผากนั่น
จากสายตาของผู้ชายแล้วอู่เหมยเป็นคนสวยอย่างไม่ต้องสงสัย อู่เจิ้งซือกลับมุ่นคิ้วน้อยๆ ตระกูลอู่เป็นตระกูลค่อนข้างเข้มงวดและหัวโบราณ ไม่ว่าจะเรื่องเลี้ยงลูกสาวหรือเกณฑ์ในการเลือกลูกสะใภ้ เงื่อนไขสำคัญที่สุดคือความสง่าและความสามารถภายใน เรื่องรูปลักษณ์กลับเป็นเงื่อนไขรอง
อู่เหมยหน้าตาเย้ายวนขนาดนี้แต่ไม่ได้มีความสง่าเลยสักนิด ที่สำคัญการเรียนย่ำแย่ แค่นึกถึงผลการเรียนที่แย่ยิ่งกว่าสิ่งใดหัวใจที่รู้สึกยินดีในคราแรกของอู่เจิ้งซือก็กลับเย็นยะเยือกลง
สวยแล้วมีประโยชน์อะไร?
อีกอย่างผู้หญิงที่หน้าตางดงามแบบนี้มักชีวิตสั้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้แต่คนในครอบครัวเธออาจจะเดือดร้อนไปด้วย เขาไม่รักใคร่ในเรื่องเงินทอง เขาแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
“เป็นอะไร?” อู่เจิ้งซือถามเสียงเรียบ
อู่เหมยยิ่งเสียใจมากกว่าเดิม หากเป็นอู่เยวี่ยที่ร้องบอกเจ็บ อู่เจิ้งซือจะต้องระส่ำระส่ายยิ่งกว่ามดบนกระทะร้อนซะอีก
“คุณพ่อคะ หนูเจ็บ หนูไม่ไปบ้านคุณปู่ได้มั้ย?” อู่เหมยอ้อนวอน
อู่เจิ้งซือหน้านิ่ง วันนี้สำคัญกว่าวันปีใหม่ด้วยซ้ำไป ท่านผู้เฒ่ากำหนดไว้แล้วหากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายห้ามใครขาดเด็ดขาด อู่เหมยจงใจขัดคำสั่งท่านผู้เฒ่าอย่างนั้นหรือ?
“ปวดท้องเหรอ?” อู่เจิ้งซือถาม
เหอปี้อวิ๋นเดินออกมาจากห้องเห็นอู่เหมยกำลังมองอู่เจิ้งซือน้ำตาคลอพอดี สิ่งที่ทำให้เธอโกรธมากที่สุดคือเจ้าเด็กนี่กลับรวบผมขึ้น เยวี่ยเยวี่ยบอกว่าแค่เธอเห็นหน้ายายนี่ก็หงุดหงิด ส่วนเธอเห็นก็หงุดหงิดโดยเฉพาะไฝเด่นกลางหน้าผากกระตุ้นให้ไฟโทสะที่ดับมอดไปเมื่อสักครู่พลุ่งพล่านอีกครั้ง
“ร้องไห้ทำไม? ที่บ้านไม่ให้กินหรือไม่ให้เสื้อผ้าใส่หรือไง?”
เหอปี้อวิ๋นพุ่งเข้ามาผลักอย่างแรง อู่เหมยตั้งตัวไม่ทันเป็นผลให้ล้มก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้นสะเทือนแผลบนตัวให้เจ็บกว่าเดิม น้ำตาที่กักไว้ไม่ไหวอีกต่อไปได้พรั่งพรูลงมา
“ยังมีหน้ามาร้องไห้? สอบได้คะแนนขายหน้าแบบนั้นยังมีหน้ามาร้องไห้ ฉันจะตีตัวไร้ประโยชน์อย่างแกให้ตายไปเลย!”
ยิ่งเห็นอู่เหมยทำท่าอ่อนแอน่าสงสาร เหอปี้อวิ๋นก็โกรธหนักกว่าเดิมจนตาแทบลุกเป็นไฟ มองอู่เหมยด้วยสายตาเหมือนมองฆาตกรที่ฆ่าพ่อตัวเองก็ไม่ปาน
ต่อให้มีชีวิตมาชาติที่สองอู่เหมยก็ยังไม่เข้าใจ ต่อให้เธอแย่ขนาดไหนแต่อย่างน้อยก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเหอปี้อวิ๋นไม่ใช่หรือ?
เหตุใดเหอปี้อวิ๋นถึงปฏิบัติกับเธอโหดเหี้ยมยิ่งกว่าแม่เลี้ยงเสียอีก?
หน้าตาของเธอในตอนนี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเผ่ากินคน!
“แม่ อย่าตีหนูเลย หนูเจ็บ!”
อู่เหมยร้องไห้อ้อนวอนแต่ดวงตากลับมองไปที่อู่เจิ้งซือ หวังเพียงสักนิดว่าเขาจะยังสงสารตัวเองแล้วปกป้องเธอสักหน่อย
อู่เจิ้งซือขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ กล่าวตำหนิ “เหมยเหมย แม่แค่ผลักลูกทีเดียวทำไมถึงเจ็บขนาดนั้น? เป็นเด็กเป็นเล็กห้ามพูดโกหก”
“ยายเด็กคนนี้เสแสร้งเก่ง อายุแค่นี้ก็มารยายิ่งกว่าผู้ใหญ่ สมองน่ะไม่ใช้ตั้งใจเรียน แต่ใช้มันไปกับสิ่งชั่วร้ายพวกนี้หมดแล้ว” เหอปี้อวิ๋นราดน้ำมันบนกองไฟ
อู่เหมยนึกโกรธในใจ เพราะเธอไม่รู้จักใช้มารยาต่างหากถึงได้ถูกอู่เยวี่ยวางแผนใส่จนตาย ในใจของเหอปี้อวิ๋นไม่ว่าเธอทำอะไรก็ล้วนผิดไปหมด อู่เยวี่ยตดยังว่าหอมเลย
“หนูเจ็บจริงๆ นะคะ”
อู่เหมยกัดฟันดึงชุดกระโปรงตรงลาดไหล่ลง ในเมื่อเธอยังไม่เติบโตเต็มที่อีกอย่างข้างในสวมเสื้อกล้ามตัวเล็กไว้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้น!