ตอนที่ 14
ตอนที่ 14 คนไร้ความสามารถ ไม่มีทางประสบความสำเร็จ
เป็นอย่างที่อู่เหมยคิด เมื่อเหอปี้อวิ๋นเมื่อยมือจึงเปลี่ยนไปหยิบไม้ขนไก่มาฟาดหลายที ทั้งที่ตัวเองก็หอบจนแทบไม่ไหว เห็นอู่เหมยขุดคู้ตัวสั่นอยู่มุมกำแพง แค่นเสียงใส่อย่างนึกรังเกียจ อยากจะฟาดอีกหลายทีประตูกลับถูกผลักเข้ามา เหอปี้อวิ๋นรีบโยนไม้ขนไก่ใส่หลังตู้ทันที่
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงน่าเกรงขามของอู่เจิ้งซือดังขึ้น รูปร่างของเขาสูงโปร่ง หน้าตาสะอาดสะอ้าน สวมแว่นตากรอบทองและใต้คางสะอาดหมดจดไร้ตอหนวด ดูท่าทางอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงๆ เสียอีก ดูอ่อนเยาว์กว่าเหอปี้อวิ๋นด้วยซ้ำไปทั้งที่เขาอายุมากกว่าเหอปี้อวิ๋นหลายปี
อู่เหมยที่เจ็บจนสมองพร่ามัวได้ยินเสียงอู่เจิ้งซือ ตัวสั่นระริก หากเป็นชาติก่อนทุกครั้งที่เธอถูกเหอปี้อวิ๋นตีมักจะวิ่งไปร้องคร่ำครวญกับอู่เจิ้งซือ เทียบกับเหอปี้อวิ๋นแล้วแม้อู่เจิ้งซือจะชื่นชอบอู่เยวี่ยมากกว่าแต่ก็มีความเที่ยงตรงมากกว่า
หากรู้ว่าเหอปี้อวิ๋นตีอู่เหมย เขาจำต้องตำหนิเหอปี้อวิ๋นให้เธอใช้เหตุผลในการคุยกับลูก แม้การตำหนิด้วยวิธีนี้จะไม่เป็นผลต่อเหอปี้อวิ๋นมากเท่าไร แต่ก็ทำให้อู่เหมยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
หากแต่ตอนนี้อู่เหมยกลับไม่อยากเร่เข้าไปเรียกร้องความเห็นใจหรือคำปลอบโยนที่น้อยนิดจนน่าสงสารจากอู่เจิ้งซือ ความคิดของอู่เจิ้งซือกับเหอปี้อวิ๋นเหมือนกัน เธอเป็นดั่งโคลนชั้นต่ำ อู่เยวี่ยเป็นดั่งเมฆที่อยู่สูง ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบได้เลยสักนิด
เหอปี้อวิ๋นฟ้องด้วยความโกรธ “เจ้าลูกไม่เอาไหน สอบวัดผลวิชาคณิตศาสตร์รอบนี้ได้แปดคะแนน ภาษาอังกฤษสิบแปดคะแนน ภาษาสี่สิบคะแนน ทุกอย่างได้ที่โหล่หมด ทำเราสองคนต้องอับอายขายหน้าหมดแล้ว”
อู่เจิ้งซือมุ่นคิ้วตวัดมองลูกสาวคนเล็กที่ขุดคู้ตัวเป็นก้อนกลมด้วยความไม่พอใจ แม้จะไม่คาดหวังอะไรกับผลการเรียนของลูกสาวคนเล็กแต่พอได้ยินผลคะแนนนี้ เขาก็ไม่พอใจมากอยู่ดี
ฉับพลันเขาเข้าใจทันทีว่าเหตุใดภรรยาถึงต้องลงมือทำโทษ คะแนนนี้ไม่ได้ช่วยสร้างหน้าสร้างตาแก่สองสามีภรรยาเลย!
อู่เยวี่ยเดินเข้ามาหลังจากเห็นอู่เจิ้งซือเข้ามา เก็บรอยยิ้มสะใจเมื่อครู่ก่อนจะเผยยิ้มหวานน่ารักที่เป็นอาวุธประจำกาย กล่าวเสียงอ่อนโยน “คุณพ่อคุณแม่อย่าโกรธไปเลย เหมยเหมยน่าจะลืมความรู้ของเทอมก่อนไปหมดเพราะปิดเทอมไปนาน หนูจะหาเวลาว่างสอนเธอเอง ต้องมีพัฒนาการแน่ๆ”
อู่เจิ้งซือคลายหัวคิ้วที่ชนกันพลางยิ้มให้ลูกสาวคนโตอย่างรักใคร่ ก่อนหน้านี้คุณครูประจำชั้นของอู่เยวี่ยได้โทรหาเขาว่าครั้งนี้อู่เยวี่ยสอบวัดผลได้อันดับหนึ่งของโรงเรียนและนำอันดับสองอยู่สิบกว่าคะแนน
โชคดี โชคดี เขายังมีลูกสาวคนโตแสนรู้และช่างเอาใจใส่ พอจะให้เขายืดอกต่อหน้าผู้คน ส่วนลูกสาวคนเล็กไม่เอาไหนนั่น ช่างเถอะ ถือว่าเลี้ยงคนที่ไม่เอาการเอางานคนหนึ่ง พอโตแล้วก็หาผู้ชายธรรมดามาแต่งงานด้วยซะ!
“สอนทำไม โคลนเน่าๆ จะอุดรูกำแพงได้ยังไง เยวี่ยเยวี่ยลูกเรียนของลูกไป ไม่ต้องสนน้องสาวของลูก จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนของลูก พ่อแม่ยังต้องหวังพึ่งให้หนูมาสร้างหน้าสร้างตาให้อยู่นะ!”
เหอปี้อวิ๋นหันมาตวาดด่าอู่เหมยอย่างโกรธเคืองก่อนถึงหันไปยิ้มกล่าวเสียงอ่อนด้วยความเมตตาต่ออู่เยวี่ย เปลี่ยนสีหน้าเร็วจนน่าตกใจ
อู่เหมยพอจะมีแรงบ้างแล้ว ได้ยินถ้อยคำของอู่เยวี่ยก็แค่นยิ้มในใจ เป็นคนทำยังกล้าออกมาพูด หากไม่ใช่เพราะเธอฟ้องเหอปี้อวิ๋นแล้วจะมีทางรู้คะแนนสอบของเธอได้อย่างไร?
พออู่เจิ้งซือกลับมาอู่เยวี่ยกลับเสแสร้งว่าจะสอนการบ้านให้ตัวเองเพื่อรักษาภาพลักษณ์พี่สาวแสนดีในใจของอู่เจิ้งซือ ช่างเล่นละครได้เฉียบคม หน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ มิน่าถึงได้ดิบได้ดีในตระกูลเหยียน เพราะหลอกปั่นหัวเหยียนหมิงต๋าจนอยู่หมัดได้