ตอนที่ 114
ตอนที่ 114 ความคิดของเหอปี้อวิ๋น
“มู่มู่เข้าใจล้อเล่นเสียจริงๆ ป้าแค่กลัวว่าจะทำให้เธอเสียเวลาน่ะ ป้าได้ยินมาว่านอกจากเรียนหนังสือแล้ว เธอยังต้องเรียนเปียโน เรียนเต้นรำอะไรพวกนี้อีก ไหนเลยจะมีเวลามาช่วยติวให้เหมยเหมยเรา”
เหอปี้อวิ๋นสีหน้าเหยเกเล็กน้อยเมื่อถูกสยงมู่มู่พูดฉีกหน้า ส่วนอู่เจิ้งซือตีหน้าขรึมยิ่งขึ้น แล้วมองเธอเป็นเชิงตักเตือนอีกครั้ง สยงมู่มู่ยิ้ม “ผมสะดวกครับ ส่วนเรื่องเวลาผมมีอยู่แล้ว คุณป้าเหอไม่เต็มใจหรือเปล่าครับ?”
อู่เจิ้งซือรีบพูดว่า “จะไม่เต็มใจได้ยังไงกัน ป้าเหอเขากังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเธอน่ะ แต่ในเมื่อเธอมีเวลา งั้นก็ฝากเหมยเหมยด้วยนะ”
“คุณลุงอู่ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมกับเหมยเหมยต่างก็เรียนไปด้วยกัน” สยงมู่มู่ตกปากรับคำ แล้วยิ้มตาหยี
เหอปี้อวิ๋นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย เธอกับอู่เยวี่ยมองหน้ากันด้วยสายตางุนงง แต่ไหนแต่ไรครอบครัวสยงไม่คบค้าสมาคมกับคนอื่นที่โรงเรียนเลย แม้แต่สยงมู่มู่ก็ไม่เล่นกับเด็กวัยเดียวกัน เมื่อก่อนอู่เยวี่ยเคยเอ่ยชวนสยงมู่มู่มาเล่นด้วยกัน แต่กลับถูกเมินเฉยและตอกกลับหน้าหงาย ไม่รู้เหมือนกันว่าอู่เหมยเจ้าเด็กบ้านี่มีอะไรถึงทำให้สยงมู่มู่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“เรียนด้วยกันเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว ถ้างั้นก็ให้เยวี่ยเยวี่ยของเราไปทำการบ้านด้วยกันกับพวกเธอด้วยสิ พวกเธอมีอะไรไม่เข้าใจ ก็ให้เยวี่ยเยวี่ยสอนก็ได้” เหอปี้อวิ๋นยิ้มพลางพูด เธอตั้งใจอยากจะให้อู่เยวี่ยผูกสัมพันธ์กับตระกูลสยงเอาไว้ ไม่แน่ว่าอาจมีประโยชน์ในวันใดวันหนึ่ง!
อู่เยวี่ยยิ้มขวยเขินและก้มหน้าเล็กน้อย สยงมู่มู่อมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เขาอารมณ์ดีทีเดียว “บ้านผมเล็ก ถ้ามาเพิ่มอีกคนจะแออัดเกินไป ผมไม่รบกวนอู่เยวี่ยดีกว่าครับ”
ให้อู่เยวี่ยติวหนังสือแทนเขา?
นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในปลายศตวรรษเลย!
ครอบครัวนี้ถ้าไม่ใช่พวกหัวโบราณก็เป็นพวกโง่แต่อวดฉลาด มีแค่อู่เหมยที่เห็นแล้วไม่ค่อยขัดหูขัดตา เธอปีนคลานออกมาจากโคลนเลนจริงๆ ดูน่าสนใจมาก
“งั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ เหมยเหมยพรุ่งนี้เธอรอฉันอยู่ที่หน้าโรงเรียนนะ แล้วไปทำการบ้านที่บ้านฉันด้วยกัน คุณลุง คุณอู่ป้าเหอสวัสดีครับ”
สยงมู่มู่โบกไม้โบกมือแล้วเดินออกไป จากนั้นเขาก็กลับมาเป็นเด็กหนุ่มที่เย็นชาและรักสันโดษเหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตามเขายังคงพยักหน้าเล็กน้อยให้กับอาจารย์หญิงจางที่ทำกับข้าวอยู่ที่ระเบียงทางเดิน แล้วก็เดินจ้ำขึ้นชั้นสามไป
อาจารย์หญิงจางรู้สึกตื่นตะลึงเล็กน้อย เมื่อก่อนเวลาเจอเธอ สยงมู่มู่ไม่เคยทักทายเธอเลย เธองุนงงไปหมด สยงมู่มู่เด็กประหลาดคนนี้มาที่บ้านอู่ทำไมนะ
แต่แล้วเธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว สยงมู่มู่กับอู่เยวี่ยเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน อีกทั้งเป็นนักเรียนหัวกะทิที่เรียนเก่งความประพฤติดีทั้งคู่ การที่พวกเขาค่อนข้างจะสนิทกันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว!
อู่เหมยมีความสุขมาก ปัญหายุ่งยากที่เธอคิดหัวแทบแตก แต่สยงมู่มู่แก้ไขได้อย่างง่ายดาย ต่อไปเธอจะได้เรียนวาดรูปแล้ว!
“พ่อคะ หนูไปเก็บกระเป๋านะคะ”
อู่เหมยพูดจานอบน้อม แล้วอู่เจิ้งซือก็พยักหน้าอนุญาต อู่เหมยสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง พอเข้ามาในห้อง เธอก็เปิดกระเป๋าเป้ออก หัวที่มีขนปุกปุยสีขาวโผล่ออกมา ดวงตาที่เหมือนเมล็ดถั่วดำทั้งสองข้างกลอกไปมา มองสำรวจสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
“ฉิวฉิว ต่อไปนี้ที่นี่คือบ้านของเรานะ แกต้องเป็นเด็กดีนะ อย่าให้อู่เยวี่ยมาเจอแกเข้าล่ะ ไม่อย่างงั้นเธอจะเอาไปฟ้องพ่อ ทีนี้เราก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
อู่เหมยลูบขนเจ้าฉิวฉิวเบาๆ ทั้งนุ่มทั้งลื่น เจ้าฉิวฉิวแอบอิงอยู่ในอ้อมแขนเธอเงียบๆ มันน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมาก อู่เหมยอดที่จะจุ๊บมันไม่ได้ ใจเธอแทบจะละลายอยู่แล้ว
“ฉิวฉิวกินถั่วลิสงอยู่ที่นี่นะ ฉันจะออกไปกินข้าวละ เดี๋ยวค่อยกลับมาอยู่เป็นเพื่อน!”
อู่เหมยไม่กล้าอยู่นาน เธอค้นกล่องไม้ใบเล็กออกมาจากใต้เตียง แล้วเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ของเธอมาปูรอง เธอวางเจ้าฉิวฉิวลงไปในกล่อง แถมยังใส่ถั่วลิสงไปสามสี่เม็ด และยัดกล่องกลับเข้าไปใต้เตียงอีกครั้ง จากนั้นเธอถึงค่อยออกจากห้องไปอย่างอาลัยอาวรณ์