ตอนที่ 109
ตอนที่ 109 ชื่อเสี่ยวไป๋แล้วกัน
กระรอกน้อยมุดเข้าไปในอ้อมแขนของอู่เหมย ดูท่าทางน่าสงสาร เจ้าแมวตัวอ้วนใหญ่ส่งเสียงร้องหนึ่งทีและจ้องมองเจ้าตัวน้อยตาไม่กะพริบ อู่เหมยรีบกอดเจ้าตัวน้อยไว้แน่นและมองดูเจ้าแมวอย่างระแวดระวัง เธอนึกเสียใจเล็กน้อยที่ฝากเจ้าตัวน้อยไว้ที่บ้านตระกูลเหยียน
กระรอกก็จัดเป็นสัตว์ตระกูลหนูเช่นกัน อีกอย่างเจ้ากระรอกน้อยตัวนี้ก็ตัวเล็กนิดเดียว ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของอาฮวาได้!
เจ้าแมวตัวอ้วนใหญ่ตัวนี้ก็คืออาฮวาที่บ้านเหยียนเลี้ยงไว้ มันใจกล้ามาก บรรดาคุณครูและนักเรียนทั้งโรงเรียนต่างก็ชอบแมวตัวนี้มาก ไม่ว่าใครเจอมันก็จะให้อาหารมันกิน พอนานวันเข้ามันก็กลายเป็นแมวอ้วนตุ้ยนุ้ย อ้วนกลมจนเหมือนลูกบอลไปแล้ว
“อาฮวา ลงไป!”
เหยียนหมิงซุ่นตวาดเสียงเบา เจ้าแมวตัวอ้วนใหญ่ส่งเสียงร้องไม่พอใจ เจ้าตัวน้อยนี่น่าสนใจมาก หน้าตาเหมือนหนูแต่ก็ไม่เหมือนหนู จับมาเล่นต้องสนุกทีเดียว อย่างไรก็ตามมันก็ต้องเชื่อฟังคำของเจ้านาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายน้อย
“เมี้ยว”
เจ้าแมวตัวอ้วนใหญ่มองเจ้ากระรอกน้อยอีกที แล้ววิ่งขึ้นไปที่ขอบหน้าต่างอย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นไม่นานมันก็จากไป
อู่เหมยถอนหายใจโล่งอก แล้วตบเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเบาๆ เธอยิ้มพลางพูดว่า “ไม่ต้องกลัวนะ อาฮวาไปแล้วล่ะ”
กระรอกน้อยมุดออกมาจากอ้อมแขนของอู่เหมย ดวงตาที่เหมือนกับเมล็ดถั่วดำกลอกไปมา แล้วยื่นขาหน้ามาทำท่าไหว้อู่เหมย เหมือนกับอวยพรวันขึ้นปีใหม่ ดูท่าทางใสซื่อน่ารัก
“โอ้โห! เจ้าตัวน้อยนี่แสนรู้จัง รู้จักขอบคุณคนด้วย เหมยเหมยเธอได้มันมาจากไหนเหรอ?” สยงมู่มู่สนอกสนใจมาก แล้วยื่นมือจะไปลูบเจ้าตัวน้อย
“จือจือ”
กระรอกน้อยแยกเขี้ยวแหลมคม กรงเล็บแหลมๆ ข่วนไปที่สยงมู่มู่ หากไม่ใช่เพราะเหยียนหมิงซุ่นจับไว้ได้ไว มือของเจ้าหมอนี่คงได้แผลไปแล้ว
“เจ้าตัวน้อยดุร้ายจริงๆ!”
สยงมู่มู่ตกใจจนหน้าถอดสี แต่ดวงตากลับเป็นประกายวิบวับ เขามองดูเจ้ากระรอกน้อยที่ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนอู่เหมยอย่างเชื่อฟังด้วยความสนใจ แต่กลับไม่กล้ายื่นมือออกไปอีกแม้แต่นิดเดียว
อู่เหมยหัวเราะชอบใจพลางลูบขนที่ลื่นเป็นมันขลับของกระรอกน้อย ตัวเล็กนุ่มนิ่ม ใจก็พลอยอ่อนยวบไปด้วย เธอต่อว่าสยงมู่มู่ “ใครใช้ให้นายลูบส่งเดชล่ะ สมน้ำหน้า!”
“กูกู”
กระรอกน้อยร้องเสียงเบา เสียงร้องแตกต่างจากตอนที่ฉุนโกรธก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน แถมยังผงกหัวหงึกๆ เหมือนกับว่ากำลังตอบอู่เหมยอยู่ น่าสนใจจัง
“น่าสนใจแฮะ ดูเหมือนมันจะฟังเราเข้าใจด้วย นี่ เจ้าชื่ออะไร เป็นตัวผู้หรือตัวเมีย แล้วพ่อแม่เจ้าล่ะ” สยงมู่มู่คุยกับกระรอกน้อยด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“กูกู”
กระรอกน้อยเหลือบมองสยงมู่มู่อย่างดูถูก มันหันขวับ หางขนาดใหญ่ส่ายไปมาจนเกือบจะฟาดโดนหน้าของสยงมู่มู่ เหยียนหมิงต๋าหัวเราะพรืด “สยงมู่มู่ มันกำลังดูถูกนาย!”
“เหลวไหล นายสายตาไม่ดีแล้ว มันกำลังเขินอายต่างหาก” สยงมู่มู่ถลึงตาโต
เหยียนหมิงต๋ายิ้มเยาะ “ฉันสายตายาว 250 ทั้งสองข้าง มันดูถูกนายชัดๆ ไม่เห็นเหรอว่ามันหันก้นให้นายแล้ว”
สยงมู่มู่เยาะหยัน “สายตายาว 250? ฉันว่านายปัญญาอ่อนมากกว่า ไม่ใช่แค่สายตาไม่ดี สมองก็มีปัญหาด้วย”
เหยียนหมิงต๋าโกรธจัดกระทืบเท้าปึงปัง บังอาจมาพูดว่าเขาปัญญาอ่อนอย่างนั้นหรือ
แถมยังพูดอยู่ในบ้านของเขาด้วย สุดจะทานทนแล้ว เขาจะต้องสั่งสอนเจ้าหมอนี่สักยกให้ได้ แต่แล้ว...
“หมิงต๋าทำการบ้านเสร็จหรือยัง ใกล้จะสอบประจำเดือนแล้ว นายมั่นใจหรือเปล่า” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงแผ่วเบา ทำให้ความโมโหของเหยียนหมิงต๋ามลายหายไปทันที แล้วกลายเป็นเซื่องซึมแทน
สยงมู่มู่มองดูแผ่นหลังที่ดูไม่พอใจของเหยียนหมิงต๋าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วเขาก็กลับมาสนใจเจ้ากระรอกน้อยอีกครั้ง “เจ้าตัวน้อยมีชื่อหรือเปล่า งั้นฉันตั้งชื่อให้มันก็แล้วกัน ชื่อเสี่ยวไป๋เป็นยังไง มันขนสีขาวไปทั้งตัวแบบนี้ ชื่อเสี่ยวไป๋เป็นชื่อสำหรับมันโดยเฉพาะเลย”