ตอนที่ 107
ตอนที่ 107 สู้กันเงียบๆ
ไม่นานนักก็มาถึงประตูทางเข้าโรงเรียนอี้จง เหยียนหมิงต๋าที่เล่นบาสเกตบอลอยู่ที่สนามสายตาเฉียบไว เขามองเห็นอู่เหมยทันที แล้วตะโกนถามเหยียนหมิงซุ่นว่า “พี่ใหญ่ ทำไมเหมยเหมยถึงอยู่กับสยงมู่มู่ล่ะ เจ้าหมอนี่หยิ่งจะตายไป เขายอมเล่นกับเหมยเหมยด้วยเหรอ?”
สยงมู่มู่เป็นอีกคนที่ยอมก้มหัวศิโรราบให้กับหน้าตาที่สวยงามของอู่เหมยอย่างนั้นเหรอ
เหยียนหมิงต๋าเบ้ปาก มีแต่พวกที่ตัดสินคนที่ภายนอกทั้งนั้น เขาชอบเยวี่ยเยวี่ย แม้เยวี่ยเยวี่ยจะสวยไม่เท่าอู่เหมย แต่เขาก็ชอบเยวี่ยเยวี่ยมากกว่าอยู่ดี เยวี่ยเยวี่ยดีเลิศขนาดนั้น เจ้าขี้แยอู่เหมยไหนเลยจะเทียบได้!
พอได้ยินเช่นนั้น เหยียนหมิงซุ่นก็มองไปทางอู่เหมย แต่กลับเห็นสยงมู่มู่ที่เย็นชาและหยิ่งยโสยิ่งกว่าเขาอยู่ที่ลานกว้าง สยงมู่มู่กำลังหันไปยิ้มพลางพูดคุยกับเด็กหญิงที่อยู่ข้างหลัง ไม่เห็นจะเย็นชาเหมือนเช่นเคย ดูอบอุ่นกว่าสายลมในฤดูใบไม้ผลิด้วยซ้ำ
ว่าแต่อู่เหมยไปสนิทสนมกับสยงมู่มู่ตั้งแต่เมื่อไรกัน
แปลกมากจริงๆ เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกเศร้าอยู่ในใจนิดหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นเพราะฝนใกล้จะตกละมั้ง เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วกลับไปจดจ่อกับการเล่นบาสต่อ เขาตั้งใจจะแย่งลูกบาสจากมือของเหมยซูหาน
“เหมยเหมยได้รับบาดเจ็บเหรอ”
เหมยซูหานพึมพำกับตัวเอง แล้วโยนลูกบาสที่เพิ่งแย่งมาทิ้งไป จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่อัฒจันทร์ กองหน้าวิ่งหายไปแล้ว แล้วจะเล่นกันต่ออย่างไร เหยียนหมิงซุ่นยกมือขึ้นส่งสัญญาณขอเวลานอก แล้วก็วิ่งตามไปเช่นกัน
“เหมยเหมย ขาเธอเป็นอะไร ขอฉันดูหน่อยสิว่าบาดเจ็บร้ายแรงหรือเปล่า!”
เหมยซูหานพุ่งมาอยู่ตรงหน้าอู่เหมยอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเป็นห่วงยากจะบรรยายเป็นคำพูดได้ แล้วเขาก็ก้มตัวลงจะดูบาดแผลที่น่องของอู่เหมย อู่เหมยรีบหดขากลับ รู้สึกอึดอัดอย่างมาก
ไม่รู้ว่าเหมยซูหานในชาตินี้เป็นอะไร เขามักจะเป็นห่วงเธอเป็นพิเศษ สายตาที่มองเธอก็ดูแปลกมาก เหมือนกับว่ามีอะไรหลายอย่างอยากจะพูด แต่เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อชาติที่แล้วเหมยซูหานเย็นชาไม่สนใจเธอเลยจนกระทั่งก่อนที่จะแต่งงานกัน เขาใกล้ชิดสนิทสนมกับอู่เยวี่ยอยู่ตลอดเวลา!
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีเดินไม่ระวังแล้วหกล้ม พี่ซูหานรีบไปเล่นบาสเถอะค่ะ!” อู่เหมยก้มหน้าพลางพูดเสียงเบา เธอไม่กล้าและไม่อยากมองตาของเหมยซูหาน
“หกล้มได้ยังไงเนี่ย ฉันพาเธอไปทายาที่บ้านคุณย่าหยางก็แล้วกัน ถ้าเกิดแผลอักเสบขึ้นมาล่ะก็แย่เลย” เหมยซูหานมองดูบาดแผลน่าสยดสยองที่ขาอันขาวหมดจดของอู่เหมย เขารู้สึกปวดใจเหลือเกิน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับไปทายาแดงเองก็ได้ค่ะ” อู่เหมยถูแขนไปมาด้วยความอึดอัดใจ เธอขอให้เหมยซูหานเมินเฉยกับเธอเหมือนเมื่อก่อนดีกว่าที่จะเอาใจใส่อย่างตอนนี้
เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้ามาดูบาดแผลของอู่เหมย คิ้วคมเข้มของเขาอดขมวดไม่ได้ เจ้าเด็กซื่อบื้อคนนี้ชอบได้แผลตลอดเลยสิน่า!
“ไปล้างแผลที่บ้านฉันเถอะ ต้องล้างเอาเศษดินเศษทรายที่อยู่ในแผลออกมา ไม่อย่างนั้นจะหายช้า” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเรียบ แต่หากตั้งใจฟังจะรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงเจืออยู่ในน้ำเสียงของเขา
อู่เหมยใบหน้ายับยู่ยี่ทันที ล้างแผลเจ็บจะตาย ยาล้างแผลทาลงบนบาดแผลแต่เจ็บไปจนถึงหัวใจได้ พอนึกถึงกลิ่นฉุนแสบจมูกของยาล้างแผล อู่เหมยก็อดตัวสั่นเทาไม่ได้
“ฉันกลับไปแล้วใช้น้ำสะอาดล้างก็พอค่ะ” ภายใต้สายตาที่จ้องมองของเหยียนหมิงซุ่น อู่เหมยยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง แล้วก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่าสยงมู่มู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นมีสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แววตาเขาเป็นประกายระยิบระยับตลอดเวลา
สุดท้ายอู่เหมยก็ต้องไปที่บ้านตระกูลเหยียน เหมยซูหานไม่วางใจก็เลยตามไปด้วย แล้วก็ยังมีสยงมู่มู่ เหยียนหมิงซุ่นและเหยียนหมิงต๋า พวกเขาเดินกันไปเป็นโขยง
เหยียนหมิงซุ่นแอบมองเหมยซูหานทีหนึ่ง แล้วบังเอิญสบตาเขาเข้าพอดี ทั้งสองคนมองหน้ากันเงียบๆ อยู่หลายวินาที จากนั้นพวกเขาก็แสยะยิ้มมุมปากพร้อมกัน อีกทั้งเบือนหน้าไปพร้อมกันด้วย