ตอนที่ 9
หลังจากชะเอมได้รับคำแนะนำจากผักกาดว่าให้เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด วันนี้ไปทานข้าวกันที่ร้านอาหาร ชะเอมสั่งทุกอย่างที่ตนชอบ ผักกาดถามว่าสั่งแบบนี้ถามใครบ้างไหมแล้วเธอจะกินหมดหรือ
ชะเอมถามสายฟ้าว่าจะสั่งอะไร เขาสั่งสลัดผลไม้อย่างเดียวแล้วขอไปเข้าห้องน้ำ
“กำจัดของเก่าก่อนเหรอคะ ก็ดีค่ะ เดี๋ยวจะได้ทานได้เยอะๆ” ชะเอมพูดเต็มปากเต็มคำหน้าระรื่น
สายฟ้าทำหน้าไม่ถูก ผักกาดติงว่าไปพูดกับพี่เขาอย่างนี้ได้ยังไง รักษาฟอร์มหน่อยสิ ชะเอมเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ย้อนถามว่า
“แล้วเธอเองก็เป็นคนบอกนี่ว่าผู้หญิงอย่างเราต้องเป็นตัวของตัวเอง”
ผักกาดติงว่าถ้านี่คือตัวตนแท้ๆของเธอก็อย่าเป็นเลย ชะเอมถามว่าตกลงจะให้เป็นอะไรกันแน่
“ไม่รู้โว้ย อยากเป็นอะไรก็เป็นเถอะ ฉันขอถอนตัวจากการเป็นเทรนเนอร์!!”
ผักกาดทนไม่ไหวกับความเป็นตัวเองอย่างหมดเปลือกของชะเอม แต่ชะเอมก็ยังไม่รู้ตัว ได้แต่งง...
ooooooo
พวกปฐพีเข้าไปในบาร์อะโกโก้แล้วทึ่งที่ภายนอกดูเหมือนร้านแบบโบราณแต่พอเห็นการตกแต่งภายในที่ทันสมัย เพลงสนุกๆ มีลูกค้าประปราย แต่งตัวกันค่อนข้างหล่อและสวยเพื่อมาเต้นรำกัน
ข้างในชายสูงวัยเจ้าของร้านกำลังเป่าทรัมเป็ตด้วยท่าทีงดงาม เสียงใสแผดกล้าทำให้ปฐพีนึกถึงอดีต...
เวลานั้นปฐพีเพิ่ง 5 ขวบ พ่อกับแม่ยังหนุ่มยังสาว ปฐพียืนเกาะขอบเวทีดูพ่อเป่าทรัมเป็ตทึ่ง ครู่หนึ่งแม่มาอุ้มไป
วันนี้ปฐพีดูชายเจ้าของร้านเป่าทรัมเป็ตจบเพลงแล้วเชิญแขกพักสักครู่เดี๋ยวเรามาเตรียมสนุกกัน แล้วเดินไปทางหลังร้าน ปฐพีตามไปถามว่าลุงชื่ออะไร ลุงเจ้าของร้านเลิกคิ้วมองปฐพีถามว่า
“ไม่ใช่คนแถวนี้นี่ มาจากไหนล่ะ”
“ผมมาจากกรุงเทพฯครับ พอดีมาตามคนรู้จักน่ะครับ” ลุงถามว่าตามหาใครล่ะ “ชื่อชีพครับ เป็นนักดนตรีเล่นทรัมเป็ตแถวนี้ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว”
ลุงเจ้าของร้านเหมือนนึกอะไรบางอย่างอยู่ บอกว่าไม่เคยได้ยินคนเรียกชื่อนี้มานานแล้ว ปฐพีตื่นเต้นถามว่าลุงรู้จักไหม แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
“ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาหายไปไหน รู้แต่ว่ามีเมีย มีลูกเล็ก แล้วจู่ๆก็หายไป”
“เขาทิ้งครอบครัวไปเหรอครับ”
“ก็ไม่รู้สินะ เขาอาจจะมีเหตุผลของเขามั้ง เราเป็นคนอื่นไปตัดสินเรื่องของเขาได้ยังไง...ขอตัวก่อนนะ”
ปฐพีมองลุงเจ้าของร้านที่เดินไปข้างหลังร้านอย่างครุ่นคิด....
ooooooo
เมื่อพักได้เวลาแล้ว ลุงเจ้าของร้านเดินออกมาจับไมค์พูดกับแขกในร้าน
“เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาสนุกกันแล้ว ใครมีเพลงอะไรแนะนำ ‘วงวันวาน’ ยินดีรับใช้นะครับ แต่ตอนนี้เรามาฟังเพลงนี้กันก่อน” ลุงมองปฐพีที่เดินมานั่งข้างๆนาง เอ่ยชื่อเพลง “ฟลอร์เฟื่องฟ้า”
ปฐพีสะดุดหูเพราะชื่อเพลงพ้องกับเฟื่องฟ้าชื่อแม่ เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง มีนักดนตรีมาเป่าทรัมเป็ตแทนเจ้าของร้าน ลุงเจ้าของร้านเดินมาที่โต๊ะปฐพีแล้วยื่นมือมาให้นาง
“ให้เกียรติผู้อาวุโสซักเพลงได้ไหมครับ”
นางตกใจหันสบตาปฐพี เขายิ้มพยักหน้า นางออกตัวว่า “หนูเต้นไม่ค่อยเป็นนะคะ”
ไวน์เห็นดังนั้นขอให้ปฐพีเต้นกับตนสักเพลง
ดูน่าสนุก บอมเชียร์ลูกพี่เต็มที่ ไวน์ดึงมือปฐพีไปที่ฟลอร์ทันที กลางฟลอร์จึงเต้นกันสองคู่ด้วยลีลาสวยงาม....
ooooooo
ลุงเจ้าของร้านเต้นรำได้อย่างพลิ้วจนนางชมว่าเต้นได้เก่งมาก ลุงก็ชมว่านางเต้นได้ดีและปฐพีก็เต้นได้เก่ง ไวน์กลัวตกกระแสแทรกขึ้นชมว่า ปฐพีเต้นเก่งมากตนตามเกือบไม่ทัน
ลุงเจ้าของร้านสังเกตปฏิกิริยาไวน์กับนางแล้วก็พอเดาออก พูดเป็นนัยกับนางว่า
“หนูตามทันใช่ไหม ใจเย็นๆใช้ไหวพริบเดี๋ยวก็ดีเอง”
จนเมื่อจะกลับกันลุงขอโทษปฐพีที่ช่วยอะไรเขาไม่ค่อยได้เกี่ยวกับเรื่องชีพ ชวนคราวหน้ามาอย่าลืม
แวะมาเยี่ยมลุงอีก แต่พอจะกลับจริงๆลุงเรียกปฐพีไว้ ย้ำว่า
“อย่าลืมที่เราคุยกันไว้ คนทุกคนเขามีเหตุผลของเขาถ้าเราไม่รู้อะไรก็อย่าไปคาดเดา จะได้ไม่ต้องไปแบกรับความรู้สึกที่มันเกินกว่าเหตุ”










