ตอนที่ 7
ที่หน้ากระท่อมเรียวกัง...ปฐพีกับนางยังคงนั่งคุยกัน นางเล่าอดีตของตนว่า
“ตอนเด็กๆนางลำบากค่ะ พ่อก็ทิ้งเราไปตั้งแต่นางยังเด็ก จากนั้นแม่ก็ไปเจอพ่อไพรัช เขาเหมือนชุบชีวิตเราสองแม่ลูก ที่นางสบายมาทั้งชีวิตก็เพราะเขา แต่ตอนนี้บ้านนางกำลังแย่...พ่อก็เครียดมาก นางอยากตอบแทนทุกสิ่งที่พ่อเคยให้มา นางไม่อยากให้เขาทุกข์มากไปกว่านี้”
“พ่อพี่เป็นนักดนตรี เท่าที่จำได้ เขาชอบเปิดแผ่นเสียงให้พี่ฟังตอนเด็กๆ” นางถามว่าแล้วทราบข่าวเขาบ้างไหม ปฐพีส่ายหน้า “แม่พี่เขาอาจจะรู้นะ แต่เขาไม่ยอมบอกพี่ว่าพ่ออยู่ไหน...แม่พี่บอกเสมอมาว่าพ่อทิ้งเราไป เพราะพ่อไม่รักเราแล้ว”
ปฐพีทอดสายตาไปไกล นางมองอย่างเห็นใจ...
ถามว่าพี่เลยพยายามตามหาคุณพ่อ?
“ใช่...ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเจอเขาอีกสักครั้งนึง อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม”
“พี่เป็นลูกที่ดีมากเลยนะคะ นางเสียอีกไม่เคยอยากเจอพ่อเลย นางไม่มีความทรงจำดีๆกับพ่อน่ะค่ะ นางอาจจะเล็กมากก็เลย...ลืมไปหมดแล้ว อีกอย่าง...พ่อไพรัชต่างหากที่เติมเต็มชีวิตนาง ดูแลนางเหมือนกับเขาเป็นพ่อนางจริงๆ”
“ชีวิตเราสองคนมีอะไรบางอย่างที่คล้ายๆกันนะ บางที...มันคงดีถ้าเรา...สนิทกันมากกว่านี้”
“ไม่ลองก็ไม่รู้” นางมองลึกเข้าไปในดวงตาเขาอย่างชั่งใจ “พี่ปฐพีคะ ถ้ามัวแต่นึกถึงคนอื่นจนเราไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ชีวิตของเราจะมีความสุขไปได้ยังไงคะ... เราไม่ได้เห็นแก่ตัวนะคะ แต่ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะดูแลชีวิตและหัวใจของตัวเราเอง”
นางพูดช้าๆอย่างหนักแน่นและมั่นใจในความคิดของตัวเองมาก ปฐพีมองอึ้ง...เอ็นดู ชมว่า
“คนเก่ง...อยากรู้จริงว่าจะเก่งแบบนี้ไปได้ตลอดไหม” นางบอกว่าก็ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับว่าจะเจอคนเก่งกว่าหรือเปล่า “พี่ไม่อยากให้มีใครเก่งกว่าใครหรอก เราสองคนไม่ต้องเก่งก็ได้ ขอแต่ฟังกันแล้วก้าวเดินไปพร้อมๆกันก็พอแล้วนะ”
ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุขที่ได้เจอและคุยกับคนที่มีทัศนะเหมือนกัน...
ooooooo
เช้านี้...ที่ล็อบบี้โรงแรม ทีมงานกำลังเตรียมขนสัมภาระกองถ่ายกันอยู่ ผักกาดชะเง้อมองอย่างร้อนใจ พอเห็นพจน์นำทีมเดินเข้ามาก็วิ่งไปรับอย่างดีใจสุดๆ
“อุ๊ย...กลับมากันแล้ว หายไปไหนกันมาคะพี่พจน์ พี่ปฐพี พวกเราทุกคนตื่นเต้นตกใจกันมาก หนูเนี่ยเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยค่ะ เป็นฮ้วงเป็นห่วงนาง แล้วแกเป็นไงบ้างบุบสลายตรงไหนหรือเปล่านาตาลี แล้วแก”...
พจน์รู้แกวว่าผักกาดจะพูดอะไร รีบขัดขึ้นขอบใจผักกาดที่เป็นห่วง พวกเราปลอดภัยดี เร่งทุกคนให้รีบขึ้นห้องเตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อน นี่ก็ใกล้เวลานัดออกกองแล้ว
ผักกาดเซ้าซี้อยากรู้ว่าเมื่อคืนเป็นไงมั่ง นางรู้ว่าผักกาดอยากรู้อะไร แต่แกล้งตอบไปว่าเมื่อคืนติดพายุเลยค้างกันแถวทุ่งโน่น ผักกาดยังเซ้าซี้อยากรู้ให้ได้
เลยถูกนางปรามว่า
“ผัก! แกนี่มันอยากรู้ทุกเรื่องจริงๆเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ”
“เหรอ...แต่ที่นี่สิ ระเบิดพี่ปริยาจะลงรึเปล่าก็ไม่รู้” นางกับผักกาดมองหน้ากันหวั่นๆ
ooooooo
เมื่อผักกาดเจอกับชะเอมที่ห้องอาหารเช้านี้ ผักกาดถามว่าเมื่อคืนหลับสบายไหม ชะเอมบอกไม่เพราะไวน์เอาแต่ผุดลุกผุดนั่งทั้งคืน บ่นว่าไม่รู้จะแข่งแย่งผู้ชายให้ได้อะไรขึ้นมา
ชะเอมปรับทุกข์แบบคนหัวอกเดียวกันว่า เราสองคนไม่ดีตรงไหนหรือ ถึงไม่มีใครแลเลย ผักกาดให้กำลังใจว่าไม่มีคู่ไม่ได้แปลว่าไม่มีค่า เราต้องสตรองในคุณค่าของเรา ไม่มีผู้ชายมาเห็นเราก็อยู่คานทองไปแบบชิลๆ ไม่เห็นเสียหายอะไร
การถ่ายทำวันนี้เป็นโลเกชั่นสวนปราสาทโคคุระ เมื่อไวน์เจอกับนางก็เข้ามาแขวะว่าเมื่อคืนอ่อยปฐพีไปถึงไหนล่ะ พอถูกนางด่าว่าต่ำตม เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่าเพราะตนไม่อยากเสียเวลามาข้องแวะกับเธอ
“โถ...แม่คนดี...ทำเป็นใสไร้เดียงสา มารยาระดับแม่เลยนะเธอ! เก่งและดีให้ตลอดเถอะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเจอ ‘ของจริง’ เข้าแล้วยังจะกล้าพล่ามขนาดนี้ไหม” นางสะดุดใจถามว่าของจริงอะไร? “เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละไอ้ที่ฝันแล้วตะกายไว้สูงน่ะ ตกลงมามันคงเจ็บสะใจเลยเนอะ”
ไวน์มาพูดยั่วแล้วลอยหน้าไป นางนิ่ง พยายามตีความคำพูดของไวน์ว่าคืออะไร?










