สมาชิก

วิหคหลงลม

ตอนที่ 4

ค่ำนั้นภุมวารีกลับเข้าบ้านเช่าพร้อมของกินของใช้ถุงใหญ่ ภาสกรเห็นแล้วบ่นตามเคยว่าสิ้นเปลือง แต่เธอก็เถียงว่าข้าวของจำเป็นทั้งนั้น ไม่ซื้อตอนนี้แต่เดี๋ยวก็ต้องซื้ออยู่ดี

“แต่ผมไม่อยากให้คุณผึ้งเอาข้าวของส่วนตัวไปขายเรื่อยๆ ผมเสียดายแทนนะครับ”

“ของนอกกาย ผึ้งไม่เสียดายหรอกค่ะ ถ้ามันจะทำให้เราสองคนอยู่รอด...ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผึ้งยังมีสมบัติอีกเยอะ ต่อให้ที่เอามาด้วยหมดไป ผึ้งก็จะกลับไปเอาใหม่”

“คุณผึ้งหมายความว่ายังไง”

“ผึ้งมีวิธีกลับไปที่บ้านโดยที่ใครไม่สงสัยแล้วล่ะค่ะ แต่คุณภาสอย่าเพิ่งรู้เลย เอาเป็นว่าสบายใจเถอะว่าเราจะมีเงินใช้ไม่จบไม่สิ้นแน่นอน” ภุมวารียิ้มกริ่มสบายใจหลังจากรู้ว่านวลยังมีชีวิตอยู่...

เช้าวันรุ่งขึ้น หญิงเล็กกับดาริกาเริงร่าเตรียมตัวไปพักผ่อนที่ไร่ แต่แล้วภัทรยศโผล่มาทำให้ดาริกาหน้ามุ่ยไม่ชอบใจ แต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะเป็นความประสงค์ของชายใหญ่ที่ต้องการมีเพื่อนสนิทไปด้วย

 แต่เมื่อไปถึงไร่ได้ไม่ทันข้ามวัน ทุกคนกลับพบทนายของเกรียงไกรและลูกน้องจำนวนหนึ่งมาสำรวจไร่ โดยบอกว่าเกรียงไกรกำลังเจรจาซื้อไร่นี้จากท่านชายภานุดิษฐ์

 เกรียงไกรหาทางบีบท่านชายเพื่อให้ลูกสาวได้แต่งงานกับชายใหญ่ ด้วยการมาพูดกดดันเรื่องหนี้สินจำนวนมากแต่ชายใหญ่เพิ่งใช้หนี้มาแค่หนึ่งล้านบาท ท่านชายทรงกลุ้มพระทัยมากถึงกับประชวร ลูกๆจึงต้องรีบเดินทางกลับวังทั้งที่ยังไม่ได้เที่ยว

 ทันทีที่กลับถึงวังรู้ว่าท่านพ่อไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่กระนั้นหญิงเล็กก็โกรธเกลียดเกรียงไกรจนทนอยู่เฉยไม่ไหว เธอแจ้นไปถึงบ้านเขาพร้อมดาริกา หาเรื่องตบตีนวลที่เข้าใจว่าเป็นภุมวารีและด่ากราดอย่างกับแม่ค้าปากตลาด

“แกนี่มันหน้าไม่อายจริงๆเลยนะ ผัวคนเก่าก็ยังคาราคาซัง แล้วยังดิ้นรนอยากมีผัวใหม่”

“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่รู้จักพวกคุณเลยนะ”

“ไม่รู้จักเหรอ แหม...ยังจะกล้าเล่นละครเป็นคนความจำเสื่อม ทำไมคนในบ้านนี้ยังจับไม่ได้อีกเหรอว่าเธอตีบทแตก”

“ตอนนี้มีแค่พวกฉันกับแก แกไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหรอกนังผึ้ง”

“พวกคุณพูดอะไรกัน ฉันไม่รู้เรื่อง กลับไปเถอะค่ะ”

“ฉันไม่กลับ จนกว่าจะตบแกให้หายแค้น” หญิงเล็ก เงื้อมือตบนวลดังฉาด

“คุณตบฉันทำไม”

“เพราะแกไม่เลิกคิดจะจับพี่ชายฉัน แล้วตบนี่ก็สำหรับความชั่วช้าของพ่อแกที่พยายามจะยึดสมบัติฉัน”

หญิงเล็กตบอีกฉาด นวลล้มคว่ำและพยายามจะหนี แต่โดนดาริกากระชากแขนไว้จนเสื้อขาด

“จะไปไหน หญิงเล็กยังคิดบัญชีเธอไม่เสร็จ”

เสียงนวลกรีดร้องขอความช่วยเหลือทำให้เอื้อยวิ่งพรวดออกมาหน้าบ้านพยายามห้ามสองสาว แต่ไม่มีใครฟัง เอื้อยจึงต้องปกป้องนายตัวเองด้วยการตบสวนดาริกา เท่านั้นเองเรื่องทำท่าจะลุกลามบานปลายถ้าชายใหญ่กับภัทรยศไม่ตามมา

ชายใหญ่ตำหนิหญิงเล็กกับดาริกาและกล่าวขอโทษภุมวารี แต่หญิงเล็กแว้ดว่าไปขอโทษมันทำไม โดนแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ

“เงียบเถอะหญิงเล็ก อยากจะต้องขึ้นโรงพักอีกหรือไง”

“ฉันไม่เข้าใจพวกคุณต้องการอะไรจากฉันอีก ในเมื่อเราไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเกี่ยวข้องกันแล้ว”

“ยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ ก็พ่อของเธอบุกไปทวงหนี้ท่านลุง จะยึดบริษัทยึดไร่ของเทวฉัตร เพราะพี่ชายใหญ่ไม่ยอมแต่งงานกับเธอ”

“อะไรนะ คุณพ่อน่ะเหรอ”

“ทำเป็นตีหน้าซื่อ ฉันว่าเธอก็รู้เห็นเป็นใจด้วยนั่นแหละ คงอยากจะลากพี่ชายใหญ่มาเข้าหอล้างคาวให้ตัวเอง”

“ไม่จริง ฉันไม่เคยรู้ว่าคุณพ่อจะทำแบบนั้น”

“งั้นแกก็ไปบอกพ่อแกว่าไม่อยากแต่งงานกับพี่ชายฉัน”

“คุณผึ้งเธอบอกคุณเกรียงไกรแล้วค่ะ แต่นี่มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่” เอื้อยออกรับแทนเจ้านาย หญิงเล็กเดือดปุด พูดปาวๆว่าถ้าไม่อยากแต่งก็หนีไป เหมือนที่เคยหนีตามภาสกร

“ฉันรู้ว่าแกก็แค่จะแต่งงานบังหน้า แล้วตัวเองจะได้หนีไปอยู่กับชู้สบายใจ ปล่อยให้พี่ชายฉันเป็นไอ้งั่งใช่ไหมล่ะ”

เอื้อยสุดทนกับความร้ายกาจของหญิงเล็ก บอกให้หยุดพูด แต่ถ้าไม่หยุดจะตบปากเดี๋ยวนี้ หญิงเล็กเต้นเร่าๆจะเอาเรื่องเอื้อยให้ได้ แต่ชายใหญ่กระชากแขนน้องลากออกไป

“พี่ชายใหญ่ลากหญิงออกมาทำไม หญิงจะสั่งสอนนังขี้ข้านั่น”

“พอได้แล้ว พี่ไม่อยากจะต้องไปประกันตัวหญิงในโรงพัก...ยศ ฉันฝากสองคนนี้กลับบ้านไปกับนายด้วยนะ”

“อ้าว แล้วคุณชายยังไม่กลับเหรอ”

“ฉันมีธุระ” ชายใหญ่ตอบตัดบทแล้วทั้งหมดก็แยกย้าย

 ooooooo

หลังจากแขกที่ไม่ได้เชิญพากันกลับไปหมดแล้ว นวลบ่นกับเอื้อยที่เข้ามาปลอบโยนถามไถ่ว่าเจ็บตรงไหนบ้าง

“กายน่ะไม่เจ็บเท่าไรแล้วล่ะจ้ะ แต่เจ็บที่โดนดูถูกมากกว่า คุณหญิงเล็กคนนั้นพูดเหมือนกับว่าฉันเป็นผู้หญิงสกปรกเหลือเกิน”

“อย่าไปถือสากับคนพรรค์นั้นเลยค่ะ คุณหญิงเล็กเธอก็ปากคอเราะรายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ต้องไปสนใจนะคะ”

“ทำไมคุณพ่อถึงดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็นคนไม่ดี ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกแล้ว”

“ก็เพราะท่านชายภานุดิษฐ์กับคุณชายใหญ่ไม่มีอะไรน่ะสิคะ ที่ผ่าเหล่าผ่ากอมีแค่คุณหญิงเล็กคนเดียว คุณผู้ชายถึงยังอยากจะให้คุณผึ้งดองกับคนวังนั้นอยู่”

“แต่ฉันไม่อยากเกี่ยวดองกับพวกเขาแล้วจริงๆจ้ะพี่เอื้อย ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเคยคิดจะหนีไปจากบ้านนี้”

“อย่านะคะคุณผึ้ง อย่าคิดทำแบบนั้นอีกเป็นอันขาด คุณผู้ชายจะเสียใจมากนะคะ”

“แล้วที่ฉันต้องเสียใจที่ถูกคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคุณหญิงคุณชายมารุมด่าประณาม ทำไมไม่มีใครเห็นใจฉันบ้าง” นวลน้ำตาคลอ เอื้อยดึงเธอมากอดด้วยความสงสาร

“เอื้อยไงคะ เอื้อยเห็นใจคุณผึ้ง แต่ตอนนี้คุณผึ้ง อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลเลยนะคะ ปล่อยให้คุณเกรียงไกรจัดการเรื่องนี้เองเถอะนะคะ”

แน่นอนว่าเกรียงไกรกำลังจัดการเรื่องนี้อยู่ เขาเผชิญหน้ากับชายใหญ่อีกครั้งที่บริษัท ซึ่งชายใหญ่เป็นฝ่ายมาขอพบและตกลงแต่งงานกับภุมวารี...

ทางด้านภุมวารีตัวจริงที่หนีไปอยู่กับภาสกร วันนี้เธอปรนเปรอเขาด้วยการซื้อนาฬิกาเรือนใหม่มาให้ พอตกค่ำมีทินกรพ่อของภาสกรมาเยือนที่บ้าน ภุมวารีที่ใช้ชื่อนวลต้องตอบคำถามหลายอย่างของพ่อผัวจน

น่ารำคาญ ยิ่งพอรู้ว่าทินกรขอมาอยู่ด้วย หญิงสาวรู้สึกไม่ดีที่มีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นมาอีกคน

หลังอาหารค่ำ เธอถามภาสกรขณะอยู่ในห้องนอนด้วยกันว่าคุณชายทินกรตามมาเจอพวกเราได้ยังไง

“ผมจดหมายไปบอกญาติที่คุณพ่อชอบแวะไปพักด้วย ตั้งใจจะแจ้งให้ทราบว่าเราไม่ได้อยู่บ้านเก่าแล้ว”

“แล้วท่านจะมาอยู่อีกกี่วัน”

“คงไม่นานมั้งครับ ปกติคุณพ่อก็ไปๆมาๆที่โน่นที่นี่ ท่านอยู่ไม่ค่อยติดที่หรอก แต่ถ้าคุณผึ้งไม่สบายใจ ผมจะบอกให้ท่านไป”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ผึ้งไม่ว่าอะไรหรอก ดีเหมือนกัน ครอบครัวคุณจะได้พร้อมหน้าพร้อมตาเสียที พ่อของคุณภาสก็เหมือนพ่อของผึ้ง”

“คงไม่มีใครเข้าใจผมเท่าคุณผึ้งอีกแล้ว ผมรักคุณผึ้งก็ตรงนี้แหละ” ภาสกรปากหวาน ดึงเธอมากอดจูบ ภุมวารีโอนอ่อนตามด้วยสีหน้ามีความสุข...

คืนเดียวกัน ชายใหญ่ย้อนกลับมาที่บ้านพรรณภิรมย์ อีกครั้งพร้อมเกรียงไกร...นวลตกใจที่จู่ๆชายใหญ่มาบอกว่าตกลงแต่งงานกับเธอ

“ผมตกลงกับคุณเกรียงไกรแล้วว่าเราจะแต่งงานกัน ดอกไม้นี่ถือว่าเป็นการแสดงความขอโทษจากผม สำหรับพฤติกรรมแย่ๆของหญิงเล็กเมื่อบ่ายวันนี้ และพฤติกรรมแย่ๆที่เคยพูดจาล่วงเกินคุณเมื่อวันก่อนด้วย”

“ฉันไม่ได้ติดใจอะไรแล้วล่ะค่ะ แต่ที่ฉันสงสัยก็คือทำไมคุณชายถึงเปลี่ยนใจจะแต่งงาน”

“ถ้าพูดตรงๆ ผมไม่อยากสูญเสียไร่ของผมไป ท่านพ่อเองก็ทรงไม่เต็มพระทัยถึงได้ประชวรเพราะความเครียด”

“เราจะแต่งงานกันด้วยเงื่อนไขเพียงเท่านี้จริงๆหรือคะ”

“ใช่ ผมยินดีที่จะดูแลคุณตามที่คุณพ่อของคุณต้องการ เพื่อปกป้องคุณจากคนที่จะมาเอาเปรียบชีวิตคุณในภายหลัง ถ้าคุณตอบตกลง ผมก็ขอให้สัญญาด้วยแหวนประจำตัววงนี้ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่คุณว่ายังเต็มใจจะร่วมชีวิตกับผมหรือเปล่า”

นวลตอบไม่ถูก ชายใหญ่คุกเข่าลงถอดแหวนที่นิ้วออกมา

“ผมจะดูแลคุณให้มีความสุขเท่าที่ความสามารถของผมจะทำได้ เราจะค่อยๆเรียนรู้กัน หลังแต่งงานผมต้องกลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศให้จบ ผมจะพาคุณไปด้วย ถ้าคุณอยากจะเรียนต่อผมก็ยินดีสนับสนุน เมื่อเรียนจบ เราก็จะกลับมาประเทศไทยด้วยกัน”

“แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ”

“คุณพ่อของคุณก็คงจะยึดบริษัทกับไร่ของผมไปตีราคา ถ้ายังไม่พอชำระหนี้ ก็อาจจะต้องเอาวังเทวฉัตรไปด้วย”

นวลหน้าเสีย ใจหายแทนชายใหญ่ที่อาจจะต้องสูญเสียทุกอย่าง...ถามว่าไม่มีทางออกทางอื่นเลยหรือ

“คงจะเป็นวิธีที่ปรานีที่สุดแล้วล่ะครับ อย่างน้อยพวกเราเทวฉัตรก็จะไม่ต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย คุณผึ้งตัดสินใจมาเถอะครับ ไม่ต้องห่วงว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เพราะพ่อของคุณให้คำมั่นกับผมแล้วว่าการตัดสินใจสุดท้ายจะอยู่ที่คุณผึ้งคนเดียวเท่านั้น”

ในที่สุดนวลก็ตามใจเกรียงไกร ตอบรับแต่งงานกับชายใหญ่...เมื่อหญิงเล็กรู้เรื่องนี้จากท่านพ่อที่ชายใหญ่เพิ่งโทร.มาบอก ก็ตีโพยตีพายถามหาเหตุผลว่าอะไรทำให้พี่ชายเปลี่ยนใจ

“คุณเกรียงไกรตกลงจะยกเลิกสัญญากู้ยืมทั้งหมดในวันแต่งงานของชายกับหนูผึ้ง”

“พี่ชายใหญ่เอาตัวเองไปแลกกับหนี้ก้อนนั้นยังไงมันก็ไม่คุ้ม หญิงยอมสูญเสียทุกอย่างดีกว่า”

“แต่ชายไม่ยอม ชายไม่ให้พ่อขายไร่ภักดิ์ภิรมย์ เขาต้องการจะเก็บรักษาสมบัติของแม่กับตาหญิงเอาไว้”

“โธ่เอ๊ย นี่พี่ชายใหญ่อยู่ไหนคะ”

“คงจะคุยเรื่องแต่งงานกับภัทรยศอยู่ หญิงใจเย็นๆเถอะ ในเมื่อพี่เขาตัดสินใจแล้ว พ่อก็ไม่รู้จะทัดทานยังไง”

“แต่ท่านพ่อองค์เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะห้ามนะคะ”

“ถ้าห้ามแล้วยังไง หญิงจะยอมรับได้ไหมถ้าเราต้องสูญเสียทุกอย่างจนไม่มีแม้แต่วังจะอยู่”

 หญิงเล็กนิ่งอึ้ง ไม่กล้าตอบเพราะยังห่วงหน้าตาอยู่เหมือนกัน...ส่วนชายใหญ่ที่แวะไปบอกภัทรยศก็โดนทักท้วงว่า

“แน่ใจแล้วนะว่าจะไม่เสียใจภายหลัง”

“ไม่หรอก ฉันพร้อมมากๆสำหรับการเป็นเจ้าบ่าว ในเมื่อคุณเกรียงไกรอยากได้ฉันเป็นลูกเขย เป็นสามีของลูกสาวเขา ฉันก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ดีจนพวกเขาลืมไม่ลงเลยทีเดียว” ชายใหญ่กล่าวเสียงเรียบแต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

 ooooooo

วิหคหลงลม

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด