ตอนที่ 4
ดาริกาตื่นเต้นดีใจเมื่อหญิงเล็กนำข่าวดีมาบอกว่าชายใหญ่ยกเลิกการแต่งงานกับภุมวารีเพราะรู้เช่นเห็นชาติมันแล้ว
“โชคดีจริงๆที่เรากระชากหน้ากากมันได้ พี่ชายใหญ่ถึงได้ตาสว่าง”
“ฉันว่าพี่ชายใหญ่คงจะซาบซึ้งน้ำใจเธอไม่น้อย งานนี้เธอมีแต่ได้กับได้”
“แล้วฉันควรจะทำยังไงต่อ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ดูแลตัวเองให้สวยผุดผ่องสำหรับการเป็นเจ้าสาวของหม่อมราชวงศ์ภักดีนพดลในอนาคตอันใกล้นี้ก็พอ รับรองว่าตำแหน่งนี้ไม่มีทางหลุดมือเธอไปได้อีกแล้ว”
ดาริกาฝันหวานยิ้มหน้าบานในทันที...แต่คนที่กำลังโมโหโกรธาหลังจากรู้เรื่องนี้คือเกรียงไกร เขาโวยวายไม่ยอมให้มีการยกเลิกการแต่งงานอย่างเด็ดขาด สวาทเองก็แค้นใจ บอกว่าต้องโทษลูกของเขาที่ไม่รักดีแล่นไปหาคู่รักจนโดนจับได้คาหนังคาเขา
“แต่เอื้อยกับแม่ยืนยันได้นะคะว่าวันนี้คุณผึ้งไม่ได้ออกไปไหนเลย”
“แกเป็นนายบ่าวกันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้วนี่”
“แหมคุณสวาทคะ คุณเองออกไปข้างนอกไม่กี่ชั่วโมงก็ยังกลับมาเจอคุณผึ้ง ถ้าเธอแอบหนีไปพระนครจริง ก็คงต้องบินกลับมาละมังคะ”
“นี่แกย้อนฉันเหรอยายเฟื้อ” สวาทแว้ด
“ก็จริงของยายเฟื้อ...ผึ้งจะไปพระนครได้ยังไง ในเมื่อไอ้จวนก็อยู่ที่สำนักงานของฉันทั้งวัน ถ้าเรียกรถรับจ้างไป กว่าจะกลับมาก็คงเย็น”
“แต่คุณชายใหญ่เธอก็เอาสร้อยคุณผึ้งมายืนยันนะคะว่ามีคนเอาไปขายที่เยาวราชจริงๆ”
“ก็คงคุณภาสกรนั่นแหละค่ะขโมยไป แต่คุณหญิงเล็กไปเจอเข้าก็เลยเอาเรื่องนี้มาใส่ไฟคุณผึ้ง เธอไม่อยากให้คุณชายใหญ่แต่งงานกับคุณผึ้งนี่คะ” เอื้อยพูดอย่างมั่นใจ
“คุณหญิงเล็กไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของฉันกับคุณชายใหญ่”
“แล้วผึ้งล่ะคะคุณพ่อ มีสิทธิ์เลือกอนาคตของตัวเองหรือเปล่า” นวลก้าวเข้ามาถามด้วยสีหน้าเศร้าหมองก่อนอ้อนวอนเสียงสั่นเครือ “เพราะถ้าลูกมีสิทธิ์เลือก
ลูกก็จะไม่แต่งงานกับคุณชายเหมือนกัน ลูกรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้วค่ะ ลูกกับคุณชายใหญ่ไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก แต่งงานกันไปก็คงไม่มีความสุข ยิ่งตอนนี้ลูกก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับคุณชายใหญ่เลย แถมคุณชายใหญ่ยังพูดจาดูถูกลูก ลูกคงทนอยู่กับเขาไม่ได้”
เกรียงไกรเดินมาจับมือลูกสาวและปลอบโยน “ผึ้ง...อย่าเพิ่งคิดไปไกลสิลูก คนเราต่อให้ไม่มีใจให้กัน แต่พอใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปนานๆเข้าก็รักกันเอง อย่างพ่อกับแม่ของผึ้ง”
“จะรักกันได้ยังไงคะ ในเมื่อคุณชายปักอกปักใจว่าลูกเป็นผู้หญิงไม่ดี”
“คุณชายกำลังโกรธ ก็พูดอะไรได้ร้อยแปด พ่อยิ่งเห็นว่าคุณชายแสดงออกแบบนี้ ก็เพราะเขาพอใจในตัวผึ้งอยู่นะ พ่อจะไปคุยกับเขาเอง”
“แต่ลูกไม่อยากแต่งงานนะคะคุณพ่อ”
“ผู้ชายที่ดีพร้อมทุกด้านอย่างคุณชายใหญ่หาไม่ได้ง่ายๆนะลูก พ่อเลือกคนที่ดีที่สุดมาดูแลผึ้ง เพราะพ่อเชื่อว่าเขาจะทำให้ชีวิตของผึ้งมีความสุข พ่อจะได้หมดห่วง ผึ้งให้โอกาสคุณชายอีกสักครั้งนะ”
นวลนิ่งไปอย่างลำบากใจ เพราะลึกๆยังรู้สึกกลัวชายใหญ่อยู่
ooooooo
อากาศเย็นสบายยามเช้าตรู่ ภุมวารีจะกอดภาสกรแต่เขากลับขยับตัวลุกขึ้นบอกว่าต้องไปเตรียมข้าวเช้าให้ภานุโรจน์ พอสายๆต้องพาไปทำประวัติใหม่ที่โรงพยาบาล หญิงสาวเบื่อหน่าย แต่จำใจตื่นเพื่อเอาใจเขา
“ผมวานคุณผึ้งเข้าไปดูนายโรจน์หน่อยสิ ให้กินยาก่อนอาหารซะ เดี๋ยวข้าวต้มเสร็จผมจะยกไปให้”
ภาสกรสั่งยิ้มๆแล้วลุกออกไป ทิ้งให้ภุมวารีหน้างอหงิก นอนไม่เต็มอิ่มแล้วยังต้องลุกมาพยาบาลคนป่วยอีก เมื่อเข้าไปในห้องภานุโรจน์เห็นเขายังนอนหลับ ก็บ่นอุบอิบ
“แทนที่ฉันจะได้มาใช้ชีวิตอยู่กับคุณภาสสงบๆ ก็ต้องมารับภาระคนป่วยกระเสาะกระแสะอย่างคุณ ทำไมไม่ตายๆไปให้พ้น จริงสิ ถ้าไม่มีคุณซักคนโลกนี้ก็จะมีแต่ฉันกับคุณภาส”
ภุมวารีคิดร้ายคว้าหมอนจะอุดจมูกภานุโรจน์ แต่ชายหนุ่มลืมตาทักเธอขึ้นมา จึงหยุดความคิดนั้น
“คุณภาสให้นวลมาปลุกคุณโรจน์ทานยาน่ะค่ะ” ภุมวารีเรียกตัวเองว่านวลเต็มปากเต็มคำพร้อมกับวางหมอนก่อนเข้าไปประคองเขาลุกขึ้นเพื่อให้กินยา พอดีภาสกรถือถาดข้าวต้มเข้ามา
“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณช่วยเอากระโถนใต้เตียงไปทำความสะอาดหน่อยนะครับ”
“อะไรนะคะ” ภุมวารีทำหน้ารังเกียจ แต่พอเห็นสายตาภานุโรจน์ก็เกรงใจและไม่อยากเสียคะแนนเลยฝืนยิ้มหยิบกระโถนออกจากห้อง ภาสกรประคองภานุโรจน์กินยา ไม่ได้สังเกตเห็นอาการรังเกียจนั้น
ภุมวารีออกมาหลังบ้าน ปากระโถนลงพื้นด้วยความหงุดหงิดจนอยากจะกรี๊ด
“คุณภาสนะคุณภาส ทำไมฉันต้องมาทำงานต่ำๆ อย่างนี้ด้วย”
ooooooo
เช้าวันเดียวกัน เฟื้อกับเอื้อยและคนรับใช้อื่นช่วยกันทำอาหารเช้าให้สวาทมือเป็นระวิง สวาทต้องการกินอาหารฝรั่งแต่พวกบ่าวไม่ถนัด นวลจึงเข้ามาช่วยโดยดูตำราไปด้วย แถมยังบอกทุกคนว่าไม่ต้องทำอาหารอย่างอื่นให้ตน ตนกินเหมือนสวาทก็ได้
พวกเฟื้อมองกันตาปริบๆ ที่ภุมวารีกลายเป็นคนว่าง่าย มีน้ำจิตน้ำใจ แต่สำหรับสวาทนั้นยังอคติกับลูกเลี้ยงเสมอ เมื่อรู้จากบ่าวว่าภุมวารีทำอาหารฝรั่ง เธอตั้งแง่จะไม่กิน
“ถ้าเกิดนายแกเอายาพิษใส่มาฉันก็ตายเท่านั้นเอง”
“คุณผึ้งจะทำไปทำไมคะ ถ้าคุณเป็นอะไรไปพวกเราก็เดือดร้อนกันหมด”
“จะไปรู้เหรอ ยิ่งบ้าๆบอๆอยู่ด้วย ไม่เอาล่ะ ฉันไม่ไว้ใจ ไปทำมาใหม่”
เอื้อยอ้าปากจะโวย แต่นวลเดินเข้ามาขัดเสียก่อน “คุณสวาท ฉันเข้าใจค่ะว่าเมื่อก่อนเราสองคนอาจจะไม่ลงรอยกันนัก”
สวาทชะงักมองหน้าลูกเลี้ยงอย่างหยั่งเชิง แต่นวลนั่งลงตรงข้างๆ ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ เพราะยังไงคุณก็คือภรรยาของคุณพ่อ ฉันจะถือว่าคุณเป็นแม่ของฉันอีกคนนึง ยังไม่สายใช่ไหมคะที่เราจะเริ่มต้นใหม่ ถ้าคุณไม่เชื่อใจ คิดว่าฉันเอาอะไรใส่มาในซุปนี้ ฉันจะทานให้ดูค่ะ”
นวลตักซุปในหม้อใส่ถ้วยของตัวเองแล้วลงมือกินด้วยท่าทางปกติ สวาทเห็นแล้วคลายใจลง บอกให้เอื้อยตักซุปมา แต่พอนวลถามว่าอร่อยไหม แม่เลี้ยงวางปึ่ง พยักหน้าอย่างแกนๆ
ส่วนที่วังเทวฉัตร ชายใหญ่กำลังจะขับรถออกไป แต่ทันใดรถของเกรียงไกรวิ่งเข้ามาตัดหน้า ลงมาถามชายใหญ่ว่าจะไปไหน
“ผมจะไปพบท่านพ่อที่บริษัท ตั้งใจว่าเสร็จแล้วจะไปหาคุณอยู่เหมือนกัน”
“งั้นก็แสดงว่าคุณชายตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไปช่วยงานท่านพ่อ แทนที่จะมาช่วยงานผม”
“ผมเข้าใจว่าคุณภุมวารีคงเรียนให้คุณทราบแล้วว่าผมปฏิเสธ แต่ในเมื่อคุณอุตส่าห์มาถึงวังก็ดีเหมือนกัน เราจะได้คุยเรื่องนี้กันให้จบ แล้วผมก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปพบคุณอีก เชิญครับ”
ชายใหญ่กลับเข้าวัง เกรียงไกรพยายามข่มอารมณ์ไม่พอใจ แต่เมื่อเข้ามาข้างในความไม่พอใจระอุขึ้นมาอีก เพราะชายใหญ่นำกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยเงินสดมาวางตรงหน้า
“นี่มันอะไรกันครับคุณชาย”
“เงินสดหนึ่งล้านบาท ผมมอบให้คุณเกรียงไกรไว้ก่อน ส่วนหนี้สินที่เหลือผมขอเวลาอีกไม่เกินหนึ่งเดือน จะนำไปชำระให้ครบ”
“คุณชายไปเอาเงินมาจากไหน”
“ไม่ใช่ธุระที่คุณต้องทราบ แต่นี่จะเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีการแต่งงานระหว่างผมกับคุณภุมวารีอีกต่อไป”
“นี่คุณชายปักใจเชื่อจริงๆเหรอว่ายายผึ้งแกล้งความจำเสื่อม แล้วก็ออกไปเที่ยวหาไอ้หม่อมภาสกรนั่น เหลวไหลทั้งเพ ถ้าคุณชายรู้เรื่องนี้มาจากคุณหญิงเล็ก ก็น่าจะทราบว่าน้องสาวคุณชายเกลียดยายผึ้งอย่างกับอะไรดี”
หญิงเล็กเดินเข้ามาได้ยินเต็มสองหู อารมณ์โกรธพุ่งปี๊ดถามเสียงแข็งว่า “นี่คุณว่าฉันโกหกพกลมเหรอคุณเกรียงไกร ใครกันแน่ที่ชอบปั้นน้ำเป็นตัว หลอกว่านังผึ้งโดนโจรปล้นหมดเนื้อหมดตัว แต่ที่แท้มันก็
วิ่งแร่หนีตามผู้ชายไปเองจนเป็นเรื่อง ฉันไม่ให้พี่ชายใหญ่ออกข่าวประจานความเลวของมันก็ดีเท่าไรแล้ว”
“อ๋อ คุณนี่เองที่เอาข่าวไปบอกพวกหนังสือพิมพ์ คุณทำอย่างนี้ได้ไม่ยังไงคุณหญิงเล็ก”
“เรื่องงามหน้าแบบนี้ก็ต้องให้รู้ทั่วๆกันสิ ผู้ชายคนอื่นจะได้ไม่หลวมตัวเอาของเน่าของเสียอย่างลูกสาวคุณไปทำเมีย”
เกรียงไกรโกรธจนทนไม่ไหวลุกพรวดเข้าหาหญิงเล็ก แต่ชายใหญ่รีบยกมือห้าม
“คุณเกรียงไกร...กรุณารับเงินจำนวนนี้แล้วก็กลับไปซะเถอะครับ แล้วผมจะติดต่อไปให้เร็วที่สุด”
“แล้วถ้าผมไม่รับล่ะ”
“นี่ใจคอจะยกหนี้ให้เพื่อให้ลูกสาวมีผัวให้ได้ใช่ไหม...นังขิม” หญิงเล็กร้องเรียกสาวใช้ ขิมถลาเข้ามาทันใจเพราะเกาะประตูแอบฟังอยู่นานแล้ว “ไปตามไอ้บังคนเฝ้าประตูมาให้คุณเกรียงไกรดูน้ำหน้าซิว่า มืดๆดำๆอย่างนั้นพอจะเป็นลูกเขยบ้านพรรณภิรมย์ได้ไหม”
เกรียงไกรกัดฟันกรอด แต่หญิงเล็กไม่สนใจ ยังคงถากถางต่อไป
“ถ้าอยากได้คนในวังนี้ไปเป็นผัวนังผึ้งนัก ก็มีแต่ไอ้บังนี่แหละที่เหมาะสมที่สุด จะเอาหรือไม่เอา”
เกรียงไกรโกรธจนพูดไม่ออก จ้องหน้าหญิงเล็กอย่างเจ็บใจที่โดนดูถูก
ooooooo
หลังจากได้เพียงธารดูแลทำแผลให้อย่างดี วันนี้จักรรู้สึกตัว แต่พอลืมตาได้ก็นึกถึงแต่นวล ลุกพรวดร่ำร้องจะไปตามหาเธอ
เพียงธารตกใจร้องเรียกมิ่งกับชาติมาช่วยห้าม แต่จักรก็ยืนยันว่าตนไม่เป็นอะไรแล้ว ตนเป็นห่วงนวลมากกว่า ต้องรีบไปตามหา
มิ่งกับชาติไม่ยอมเพราะเป็นห่วง สองคนช่วยกันจับจักรที่ดิ้นรนขัดขืนอย่างเอาจริงเอาจัง ที่สุดมิ่งก็ทนไม่ไหวพูดโพล่งขึ้นมา
“เมียเอ็งมันเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ เชื่อพวกข้าสิวะ ข้าบอกแล้วว่าเห็นนังนวลมันนั่งรถออกไปกับผู้ชาย ตั้งกะเอ็งยังอยู่โรงพยาบาล ป่านนี้มันก็หนีไปด้วยกันแล้ว”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ”
“อย่าหน้ามืดตามัวนักเลยไอ้จักร นังนวลมันไม่ใช่คนดีอย่างที่เอ็งคิดหรอกโว้ย”
“อย่าพูดอย่างนั้นนะพี่มิ่ง อย่าพูด” จักรลืมตัวชกมิ่งแล้วกระชากคอเสื้อตะคอก “พี่ใส่ความนวล”
ลูกน้องเสือเมฆเห็นมิ่งโดนชกก็ทิ้งงานในมือปรี่เข้ามาหาถีบจักรกระเด็นแล้วรุมเล่นงาน ชาติกับเพียงธารพยายามห้ามแต่ไม่มีใครฟัง ฉับพลันเสียงปืนดังเปรี้ยง ทุกคนหยุดชะงักมองเสือเมฆยืนถมึงทึงถือปืนอยู่ที่ชานบ้าน
“กินข้าวหม้อเดียวกันแต่ก็กัดกัน พวกมึงเป็นคนหรือหมา” เสือเมฆด่ากราดทุกคน
หลังจากนั้นลูกน้องทุกคนมานั่งต่อหน้าเสือเมฆ จักรไหว้เสือเมฆอย่างนอบน้อมเมื่อชาติแนะนำให้รู้จัก
“ไอ้สองตัวนี่มันเล่าเรื่องของเอ็งให้ข้าฟังหมดแล้ว สภาพเอ็งตอนนี้ยังสะบักสะบอมจะรีบร้อนเดินทางไปทำไมวะ”
“ฉันเป็นห่วงเมียจ้ะ”
เสือเมฆพอจะรู้เรื่องเมียของจักรจากมิ่งบ้างแล้ว กอปรกับเห็นว่าจักรยังไม่หายดีจึงหว่านล้อมให้ตั้งสติก่อน แข็งแรงเมื่อไหร่ค่อยไป
“แต่ฉันกลัวว่าถ้านวลกำลังตามหาฉันอยู่ แล้วไม่ได้พบกันอาจจะมีอันตราย”
“ไอ้ชาติมันบอกว่าตำรวจเขาก็ช่วยตามหาอยู่ไม่ใช่หรือ ข้าว่าเอ็งพักฟื้นอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ ส่วนเรื่องข่าวคราวของเมียเอ็ง เดี๋ยวข้าจะให้คนรู้จักแถวตลาดองค์พระช่วยสืบให้ ถือซะว่าตอบแทนบุญคุณที่เอ็งเคยช่วยไอ้ชาติไอ้มิ่ง”
จักรคลายใจลง ยอมให้ชาติประคองพาไปพักผ่อน ส่วนเสือเมฆหันมาหามิ่งบอกให้เล่ามาอีกทีเรื่องที่เมียจักรหนีตามผู้ชายไป...เพียงธารยืนหลบมุมใกล้ๆ เงี่ยหูฟังด้วยความสนใจ
ooooooo
วันก่อนโทร.มาที่บ้านแล้วรู้สึกค้างคาใจสาวใช้เรียกใครว่าคุณผึ้ง...วันนี้ภุมวารีตัดสินใจกลับมาดูให้เห็นกับตา ปรากฏว่าเป็นนวลจริงๆ เธอยังไม่ตายและเข้ามาอยู่ในบ้านพรรณภิรมย์ของตนอย่างไม่น่าเชื่อ
ภุมวารีใส่แว่นและมีผ้าผืนใหญ่โพกหัวก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับนวลตรงสนามโดยปราศจากคนอื่น นวลเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่เหมือนตัวเองก็ตกใจถอยกรูดเหมือนเห็นผี
“เธอกลับมาอยู่ที่นี่แทนฉันเหรอนวล”
“คุณ...คุณเป็นใคร”
ภุมวารีงุนงงที่นวลถามขึ้นมาดื้อๆแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะตอบ นวลก็ปวดหัวจี๊ดร้องกรี๊ดเหมือนจำภาพวันที่ตัวเองโดนผลักตกบันไดได้...ภุมวารีตกใจรีบวิ่งไปซ่อนตัวเมื่อเห็นเอื้อยกับเฟื้อวิ่งออกจากบ้านมา
สองแม่ลูกรีบพานายสาวเข้าบ้านเพื่อปฐมพยาบาล ส่วนภุมวารีกลับออกไปอย่างงงๆ แต่พอคิดอะไรได้ก็แย้มยิ้มพอใจ
นวลเล่าให้คนในบ้านฟังว่าเจอผู้หญิงหน้าตาเหมือนตนราวคนเดียวกัน เกรียงไกรไม่เชื่อเพราะ
ภุมวารีไม่มีพี่น้อง แต่นวลก็ยืนยันว่าเห็นจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นเรียกตนว่านวล
ไม่มีใครรู้จักผู้หญิงชื่อนวล เอื้อยดึงเฟื้อไปกระซิบ กระซาบกันมุมหนึ่งว่า
“นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะแม่ที่คุณผึ้งเห็นคนหน้าเหมือนตัวเอง ครั้งก่อนเธอจะเจ็บ คุณผึ้งก็มาถามฉันว่าเธอมีฝาแฝดหรือเปล่า ตอนนั้นฉันก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่นี่ก็ดันมาเห็นฝาแฝดตัวเองอีก มันยังไงกันน่ะแม่
หรือว่าเธอเคยมีพี่น้องแฝดซุกซ่อนอยู่”
“เอ็งจะบ้าหรือไง ถ้ามีข้าก็ต้องรู้สิ ข้าว่าเอ็งไปบอกคุณผู้ชายเถอะ”
“โอ๊ย ไม่เอา พูดไปถึงหูคุณสวาทเดี๋ยวก็คงหาว่าคุณผึ้งเป็นบ้าเป็นบอ เผลอๆจะได้โอกาสจับคุณผึ้งส่งโรงพยาบาลบ้าปะไร ฉันสงสารเธอ” เอื้อยปฏิเสธด้วยความเป็นห่วงนายสาว เฟื้อนิ่งไปอย่างเห็นด้วย
ฝ่ายสวาทที่ยังคุยอยู่กับเกรียงไกร เธอคิดว่าภุมวารีเห็นภาพหลอนประสาคนป่วยสมองกระทบกระเทือนที่เห็นอะไรก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ
“ขนาดนี้คุณชายใหญ่ก็ยังเชื่อหัวปักหัวปําว่ายายผึ้งเล่นละคร”
“คงจะลังเลไม่อยากรับเศษรับเดนมั้งคะ”
เกรียงไกรหันขวับทำตาดุใส่ สวาทรีบปิดปากตัวเองแล้วนั่งลงเกาะแขนเอาใจ
“แล้วจะทำยังไงกันล่ะคะ ถ้าคุณชายไม่ยอมแต่งงานกับคุณผึ้ง แล้ววันนึงอีตาภาสกรนั่นกลับมา คุณผึ้งจะไม่เพริดกลับไปหามันเหรอคะ ในเมื่อตอนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่ามันทำอะไรไว้กับตัวเองบ้าง”
“ฉันไม่ยอมหรอก ยังไงคุณชายก็ต้องแต่งงานกับยายผึ้ง”
เกรียงไกรดึงดันเพราะอยากได้ชายใหญ่เป็นลูกเขย...เวลาเดียวกันนั้นเองหญิงเล็กกำลังยัดเยียด
เพื่อนรักของตนให้แต่งงานกับชายใหญ่ แต่พี่ชายไม่เล่นด้วยเหมือนเดิมเพราะไม่ได้รักดาริกา เขาจะหาทางใช้หนี้ด้วยตัวเอง
“แต่พ่อว่ายังไงคุณเกรียงไกรก็คงไม่รามือ คงจะหาทางอื่นมากดดันชายอีก”
“งั้นเราก็หนีไปเที่ยวเมืองนอกกันดีไหมคะ ให้เขามาแล้วไม่เจอใคร ลองดูซิว่าหายไปซักเดือนยังจะตื๊ออยู่ไหม เผลอๆป่านนั้นนังผึ้งมันอาจจะหนีตามหม่อมหลวงภาสกรไปอีกรอบแล้วก็ได้”
“พูดเหมือนกับว่าเงินทองเหลือใช้นักนี่หญิง หนี้เก่ายังใช้ไม่หมด จะหาเรื่องไปนอกให้สิ้นเปลืองอีกทำไม”
“งั้นก็หนีไปอยู่ไร่กันซักพักดีไหมคะ ถือว่าไปพักผ่อนตากอากาศ เผื่อว่าสมองโล่งๆอาจจะคิดก็ได้ว่าเราจะหาทางออกเรื่องนี้กันยังไง”
“ก็ดีเหมือนกันนะ”
“งั้นตกลงตามนี้นะคะ เดี๋ยวหญิงจะชวนยายดาวไปด้วย” หญิงเล็กมัดมือชกแล้วรีบลุกออกไป ชายใหญ่จะร้องห้ามก็ไม่ทัน ได้แต่ถอนใจ
ooooooo










