ตอนที่ 11
“เชื่อฉันเถอะค่ะคุณชาย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ฉันจริงๆ”
นวลพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาพานจะไหลเพราะเสียใจที่เขาเข้าใจผิด ชายใหญ่เหมือนจะใจอ่อน แต่เกิดทิฐิขึ้นมาอีก
“กี่ครั้งแล้วที่ผมให้โอกาสคุณ ในสายตาคุณ ผมยังโง่ไม่พออีกเหรอ”
นวลสะอื้นไม่รู้จะแก้ตัวยังไง มีแต่ความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ชายใหญ่ปล่อยมือแล้วหันหน้าหนีเพราะกลัวใจอ่อนแล้วจะโดนหลอกอีก
“คุณอยู่ที่นี่ ถ้าจะไปพบไปเจอหม่อมภาสกรเมื่อไรจะได้สะดวก เอารถที่วังไปก็ได้ ผมไม่ห้าม ไหนๆมันก็ฉาวโฉ่ถึงขนาดนี้แล้ว”
ชายใหญ่ผลุนผลันออกจากห้อง นวลทรุดลงนั่งบนเตียงร้องไห้โฮออกมา เอื้อยได้ยินเสียงรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตกใจ
ooooooo
ภุมวารีโทร.หาภาสกรที่บริษัท แต่เขาไม่อยู่โต๊ะจึงมีคนอื่นมารับแทน เธอไม่ฝากข้อความอะไรไว้แต่วางสายอย่างหงุดหงิด ภาสกรเดินกลับมาเห็นเพื่อนพนักงานถือโทรศัพท์ค้างจึงถามด้วยความสงสัย
“มีโทรศัพท์ถึงผมหรือครับ”
“ค่ะ ใครก็ไม่รู้ถามหาว่าคุณมาทำงานหรือเปล่า พอตอบว่ามาก็วางหูโครม”
“เขาบอกหรือเปล่าครับว่าโทร.มาจากไหน”
“ไม่ยอมบอกค่ะ แต่เป็นเสียงผู้หญิง”
ภาสกรสังหรณ์ใจว่าอาจเป็นภุมวารี แต่จนปัญญาไม่รู้จะไปตามหาเธอที่ไหน...เมื่อกลับถึงบ้านโดนภานุโรจน์ซักถาม ก็ยิ่งกลัดกลุ้ม
“เจอคุณนวลไหมครับพี่ภาส”
“พี่ไปตามที่บ้านของเธอ แต่ก็ไม่พบ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องไปตามหาที่ไหนอีก”
“คุณพ่อบอกว่าถ้าคุณนวลตัดสินใจไปจากพวกเรา พี่ภาสก็ไม่จำเป็นต้องไปตามกลับมา เรามีกันแค่นี้ก็พอนี่ครับ มีผม พี่ภาสแล้วก็...คุณขวัญเรือน”
“พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก คุณนวลเป็นภรรยาพี่ แล้วเธอก็มีบุญคุณช่วยเหลือเราสองคนหลายครั้ง”
“พี่ภาสยังรักคุณนวลอยู่ไหมครับ”
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะโรจน์”
“คุณพ่อบอกว่าพี่ภาสกำลังสนใจคุณขวัญเรือน อย่าหาว่าผมเห็นแก่ตัวเลยนะครับ ถ้าพี่ภาสรักคุณขวัญเรือน มากกว่าคุณนวล ผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะ...”
“เหลวไหล” ภาสกรตัดบทก่อนที่น้องชายจะพูดจบ “คุณพ่อก็พูดไปเรื่อย พี่กับคุณขวัญเรือนเป็นแค่นายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้น พี่ไม่มีวันที่จะทิ้งคุณนวล”
ภานุโรจน์รู้สึกผิดรีบขอโทษพี่ชาย...แต่ความจริงภาสกรเริ่มมีใจให้พยาบาลของน้องชายและอยากใกล้ชิดเธอ ขณะที่ขวัญเรือนพยายามออกห่างเพราะกลัวใจตัวเองเหมือนกัน
ooooooo
หญิงเล็กยังคงหาเรื่องพี่สะใภ้ได้ทุกวัน จนเอื้อยทนไม่ไหวชวนนายของตนกลับไปอยู่บ้านที่นครปฐม แต่นวลปฏิเสธเพราะถ้าทำอย่างนั้นเท่ากับตัวเองยอมรับผิด
“แต่อยู่ไปอย่างนี้ก็ใช่ว่าเราจะมีอะไรมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง มีแต่อยู่ให้เขาพูดกระทบกระเทียบเสียดสี”
“ผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไรจากฉัน ทำไมถึงต้องตามทำลายชีวิตฉัน”
“เอื้อยอยากจะเห็นหน้ามันจริงๆ ว่าจะเหมือนคุณผึ้งซักแค่ไหน ทำไมถึงได้ตามจองล้างจองผลาญกันไม่จบไม่สิ้นอย่างนี้”
“จริงของพี่เอื้อย เราต้องตามหาตัวผู้หญิงคนนั้นให้พบ”
นวลทำตามที่พูดทันที เธอชวนเอื้อยนั่งรถไปแถวบ้านเช่าของภาสกรซึ่งวันก่อนเคยตามผู้หญิงหน้าเหมือนตัวเองมา สองคนช่วยกันตามหาเบาะแสแต่โชคไม่ดีเจอนักเลงทวงหนี้เข้าอย่างจัง นวลเกือบโดนพวกมันฉุดกระชากลากตัวไปที่บ้านเช่าเพราะคิดว่าเป็นลูกสะใภ้ของทินกร แต่เอื้อยพาตำรวจเข้ามาช่วย พวกมันเลยวิ่งหนีไป
นวลไม่แจ้งความแถมยังบ่นด้วยความเสียดายให้เอื้อยฟัง “สองคนนั้นไม่ได้ต้องการตัวฉัน เขาต้องการผู้หญิงอีกคนที่หน้าเหมือนฉันต่างหาก พวกมันกำลังจะพาฉันไปที่บ้านผู้หญิงคนนั้น ถ้าพี่เอื้อยมาช้าอีกซักหน่อยฉันก็อาจจะได้รู้ความจริง”
“แล้วกัน คุณผึ้งจะเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้นได้ยังไงคะ”
“ถ้าไม่เสี่ยงฉันก็จะถูกเข้าใจผิดไปตลอด ฉันจะต้องหาตัวเธอคนนั้นให้เจอ”
“ไม่ได้ค่ะ เอื้อยไม่ยอม เราจะไม่มาที่นี่กันอีกแล้ว มันอันตรายเกินไป...ช่างมันเถอะค่ะคุณผึ้ง ใครจะไม่เข้าใจคุณผึ้งก็ปล่อยเขาไป เอื้อยคนนึงล่ะที่เชื่อความบริสุทธิ์ของคุณ ถ้าคนที่วังเขาไม่ต้อนรับ เราก็กลับไปอยู่บ้านเราเถอะค่ะ เอื้อยโทร.ให้พี่จวนมารับเราแล้ว”










