icon member

ใต้ชายคารัก

ตอนที่ 97

บทที่ 97 ความห่วงใยของเธอ (7)

การสวมเสื้อกันหนาวนั้นไม่ได้น่าสงสัยสักเท่าไร แต่สิ่งที่ทำให้ซ่งชิงชุนฉงนคือชายหนุ่มรูดซิปเสื้อขึ้นจนมิดชิด เหลือไว้แต่ดวงตาที่ดูลึกล้ำคู่นั้น

ซ่งชิงชุนจ้องมองซูจือเนี่ยนอยู่นาน ก่อนได้สติและรีบทักทาย “คุณซู”

ซูจือเนี่ยนไม่ตอบ แต่กลับสบตาเธออย่างไม่กะพริบตา เมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็หมุนตัวแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป พร้อมกระแทกประตูดังโครม

ซ่งชิงชุนชินเสียแล้วที่ชายหนุ่มปฏิบัติต่อเธอราวกับเป็นอากาศธาตุ จึงยักไหล่และลงไปที่ชั้นล่างโดยไม่ใส่ใจนัก

ซูจือเนี่ยยืนพิงประตู เขายกมือขึ้นช้าๆ ขณะฟังเสียงฝีเท้าของซ่งชิงชุนเดินลงไปข้างล่าง

ปากกาที่เขาถือไว้ในมือถูกบีบจนแหลกละเอียดด้วยพลังมหาศาล ส่วนที่เป็นโลหะแทงเข้าไปในเนื้อ จนเลือดย้อมฝ่ามือเป็นสีแดง

ซูจือเนี่ยนหลบอยู่ในบ้านทั้งวัน เพราะรอยฝ่ามือบนใบหน้าที่เกิดขึ้นจากการที่เขาควบคุมจิตใจของถังหน่วน

ตอนที่ซ่งชิงชุนกลับมาบ้าน เขากำลังออกแบบอยู่ในห้องหนังสือ เธอกลับมาเร็วกว่าปกติ จึงทำให้เขารับรู้ถึงตัวเธอได้ดีเป็นพิเศษ

หญิงสาวเงียบกริบจนผิดปกติ เธอไม่ได้บ่นพึมพำกับตัวเองเหมือนที่เคยทำระหว่างทำงาน ไม่มีแม้แต่เสียงทำความสะอาดหรือทำอาหารด้วยซ้ำ

เขาครุ่นคิดเรื่องของเธออยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับไปสนใจงานออกแบบต่อ แต่พอวาดไปเพียงสองสามเส้น เขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอ

ตอนแรกมันเป็นเพียงเสียงแผ่วเบา เบาเสียจนเขาคิดว่าตัวเองหูฝาดไป เขาจึงหยุดวาด แล้วเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงสะอื้นนั้นดังขึ้น จนเป็นเสียงร่ำไห้คร่ำครวญ ราวกับเธอกำลังเป็นทุกข์ทนแทบใจสลาย

เขารีบออกจากห้อง ปากกายังกำอยู่ในมือ เมื่อเขาหยุดตรงหน้าประตูห้องของเธอ ก็ได้ยินเสียงเธอเอ่ยคำว่า “พี่อี่หนาน” ทั้งน้ำตา เขาจึงหยุดกึกราวกับเดินชนกำแพงอิฐ

ในตอนนั้น เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าเหลือเกิน ใครกันเล่าที่จะสามารถทำให้เธอร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจได้เท่าผู้ชายชื่อว่าฉินอี่หนาน

เขาควรจะโกรธชายคนนั้นหรือเธอดีล่ะ แต่เสียงร้องไห้ของเธอที่ลอยผ่านประตูเข้ามาในหูของเขา ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจ 

เธอไม่ได้ร้องไห้นานนัก แต่สำหรับเขาแล้ว มันยาวนานราวกับศตวรรษเลยทีเดียว

หลายครั้งที่เขาเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ และอยากตรงเข้าไปกอดเธอไว้ ปลอบโยนเธอ แต่ซูจือเนี่ยนเตือนตัวเองถึงบทบาทของตนเอง และการที่เขาไม่มีคุณสมบัติจะทำเช่นนั้น เขาทำได้เพียงยืนฟังเธอร้องไห้เงียบๆ มือทั้งสองของเขากำแน่นด้วยพลังทั้งหมดที่มี

 ซูจือเนี่ยนดึงหัวปากกาออกจากฝ่ามือ ทำให้เลือดไหลออกมามากกว่าเดิม เขาหยิบกระดาษทิชชูที่อยู่ใกล้ๆ มากดบนปากแผลเพื่อห้ามเลือด รับรู้สึกถึงความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปตามเส้นเลือดในร่างกาย แต่นั่นเทียบไม่ได้เลย กับความเจ็บปวดที่รู้สึกที่ส่วนลึกของหัวใจ

เมื่อทำมื้อเย็นเสร็จ ซ่งชิงชุนก็มาเคาะประตูห้องนอนของซูจือเนี่ยนและเอ่ยขึ้นว่า “คุณซูคะ มื้อค่ำพร้อมแล้วค่ะ”

ผ่านไปสักพัก ซูจือเนี่ยนก็ตอบกลับมาจากด้านใน “เอาขึ้นมาบนห้องเลย”

 ซ่งชิงชุนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ “ค่ะ” ก่อนหมุนตัวเดินกลับไปชั้นล่าง เพื่อนำถาดอาหารเย็นขึ้นมา

ห้องของซูจือเนี่ยนไม่ได้เปิดไฟ  เมื่อซ่งชิงชุนก้าวเข้าไป เธอจึงเอื้อมมือไปที่สวิตช์ แต่ก่อนที่เธอจะได้เปิดไฟ ซูจือเนี่ยนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ดูจะดังมาจากมุมห้องมืดๆ “ไม่ต้องเปิดไฟ”

ซ่งชิงชุนดึงแขนกลับ หญิงสาวอาศัยไฟสลัวๆ ที่ส่องมาจากทางเดิน เพื่อมองหาโต๊ะและวางอาหารมื้อเย็นตรงนั้น

ใต้ชายคารัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด