ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 ร่วมชายคาเดียวกัน (9)
ทุกคนดื่มกันไปบ้างแล้วก่อนการเล่นไพ่นกกระจอกจะเริ่มขึ้น บรรยากาศตอนนี้จึงคึกคักพูดคุยกันอย่างออกรส
ซูจือเนี่ยนดื่มไปแล้วสองสามแก้ว แต่เขายังคงมีสีหน้าเย็นชาและสงวนท่าทีเช่นเคย มีขยับตัวบ้างระหว่างการเล่น นอกนั้นก็นั่งเฉยเป็นหินอย่างไรอย่างนั้น คืนนี้เขาค่อนข้างมีโชค ชนะมาแล้วสองสามตา
ขณะที่พวกเขากำลังจะเริ่มเล่นตาใหม่ ก็มีคนเคาะประตูห้อง ประธานเหลียงผู้ซึ่งนั่งตรงข้ามซูจือเนี่ยนกำลังคิดว่าจะหยุดพักไปห้องน้ำก่อนเริ่มเล่นตาใหม่พอดี จึงลุกขึ้นไปเปิดประตู
ที่หน้าประตูห้อง มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักยืนอยู่ ผมยาวสีดำเข้มล้อมกรอบใบหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม รูปลักษณ์ที่ดูนุ่มนวลเกลี้ยงเกลาของเธอช่วยขับเน้นประกายในดวงตาเธอให้โดดเด่น ความสดใสน่ารักเช่นนี้หาได้ยากนักในโลกธุรกิจ จึงทำให้ประธานเหลียงชะงักงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “โทษทีครับ คุณมาหาใครครับ”
ประธานเหลียงคิดคำตอบไว้ในใจอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าเธอคนนี้คงมาหาถังนั่ว สมาชิกในวงไพ่อีกคนอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มากที่สุด เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น แถมคนใหม่ก็มักจะสวยกว่าคนเก่าเสมอ คิดดังนี้ประธานเหลียงจึงหันกลับเข้าไปในห้อง ตะโกนว่า “ถังนั่ว... มีสาวน้อยหน้าตาน่ารักมา...” ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หญิงสาวตรงหน้าพลันกล่าวแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบว่า “สวัสดีค่ะ ดิฉันมาพบคุณซูจือเนี่ยนค่ะ เขาอยู่ไหมคะ”
เมื่อได้ยินชื่อ “ซูจือเนี่ยน” ประธานเหลียงถึงกับอึ้งคิดว่าฟังผิด เขาหันขวับมาหาหญิงสาวพร้อมกับย้ำกับอีกครั้ง “ซูจือเนี่ยนงั้นรึ ท่านประธานซูน่ะนะ”
ประธานเหลียงกะพริบตาปริบๆ หลังหญิงสาวพยักหน้ารับ เขาหันไปตะโกนว่า “ถังนั่ว เธอไม่ได้มาหาคุณ ผมเข้าใจผิดไปเอง แต่มาหาท่านประธานซู”
ตอนที่ผู้เล่นคนอื่นด้านในได้ยินว่ามีสาวหน้าตาน่ารักมาหาถังนั่ว พวกเขาก็หันเหความสนใจไปที่ประตูกันหมด มีเพียงซูจือเนี่ยนเท่านั้นที่ยังวางตัวเฉย เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไม่สนใจใคร
ครั้นพอได้ยินชื่อตัวเอง เขาก็ขมวดคิ้วแล้วหันขวับไปที่ประตูโดยอัตโนมัติ เห็นซ่งชิงชุนสวมเสื้อคลุมสีแดงยืนอยู่ตรงประตู ในตอนนั้นเครื่องสับไพ่อัตโนมัติสับไพ่เสร็จพอดี เมื่อเสียงสับไพ่หยุดลง ทั่วทั้งห้องพลันเงียบผิดปกติ
ซูจือเนี่ยนมองจ้องซ่งชิงชุนอย่างไม่ยินดียินร้ายอยู่ครึ่งนาที ทุกคนในห้องล้วนคิดว่าเขาคงเมินหน้าไม่สนใจหญิงสาว ทว่า จู่ๆ เขาก็เก็บโทรศัพท์แล้วลุกจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า หันมาบอกถังนั่วที่ดูการเล่นไพ่อยู่ว่า “ถังนั่วนายเล่นแทนฉันไปก่อนนะ” จากนั้นเขาเดินตรงไปที่ประตู
หลังจากซูจือเนี่ยนคล้อยหลังออกไปกับซ่งชิงชุนแล้ว บทสนทนาในห้องเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
“ตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย มีผู้หญิงมาหาท่านประธานซู แถมน่ารักซะด้วย”
“รู้จักท่านประธานซูมาตั้งหลายปี ไม่เคยเห็นเขาพูดจาดี ๆ กับผู้หญิงสักครั้ง ยิ่งเรื่องมีเพื่อนผู้หญิงแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
“เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าประธานซูเป็นเกย์ซะอีก เพราะเขาเอาแต่หลบเลี่ยง... ไม่หือ... ไม่อือ... กับผู้หญิงเลยสักคน ใครจะไปนึกว่าจะมีเพื่อนผู้หญิงหน้าตาน่ารักอย่างนั้น”
“แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน ทั้งคู่เขาเป็นอะไรกันน่ะ คนรักหรือแฟนเก่ากันแน่”
“แต่ก็นะ ถ้ามาลองนึกดู หญิงสาวคนนั้นหน้าตาดูคุ้นๆ อยู่ ผมว่าเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน...”
ถ้อยคำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ นี้ ทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ จากนั้นครู่หนึ่ง ใครคนใดคนหนึ่งก็โพล่งว่า “พอพูดมาแบบนี้ แม่สาวคนนั้นก็ดูคุ้นหน้าจริงๆ…”