ตอนที่ 84
ตอนที่ 84 กรรมตามสนอง (4)
เช้าวันต่อมา ซ่งชิงชุนตื่นนอนก่อนฟ้าสาง หลังจากตระเตรียมอาหารเช้าให้ซูจือเนี่ยนเป็นที่เรียบร้อย เธอก็เขียนโน้ตแจ้งเขา ก่อนรีบรุดออกจากบ้าน ขณะขึ้นแท็กซี่ที่เธอเรียกมา โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเธอก็ดังขึ้น
ซ่งชิงชุนก้มมองดูมือถือ เธอถึงกับอึ้งไป เมื่อเห็นหมายเลขบนหน้าจอ เธอปล่อยให้มือถือดังอยู่สักพัก ก่อนจะกดรับในที่สุด
“พี่อี่หนาน”
ฉินอี่หนานโทรมาหาเธอ และเขาคงจะรับประทานอาหารเช้าอยู่ เพราะเธอได้ยินเสียงเขาพูดอู้อี้ไม่เต็มเสียง มีอาหารยังเต็มปากอยู่ว่า “ซ่ง” จากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ได้ยินเสียงกลืนอาหาร แล้วเขาพูดใหม่อีกครั้ง “ซ่งซ่ง พี่ขอโทษนะ”
ซ่งชิงชุนรู้ดีว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องที่เขาปล่อยให้เธอรอเก้อในวันเกิดของเธอเอง ถึงแม้เรื่องจะเกิดขึ้นไปแล้วเมื่อวานซืน แต่พอถูกย้ำเตือนให้นึกถึงอีก เธอก็อดช้ำใจไม่ได้
“ซ่งซ่ง พี่สาบานนะว่า พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก็อย่างที่บอกไป พอดีเกิดเรื่องขึ้นน่ะ พี่บังเอิญไปเจอเพื่อนเก่าเข้า เลยไปไม่ทันนัด อันที่จริง พี่อยากจะโทรไปบอกเธอนะ แต่พี่ทำมือถือหาย นี่พี่เพิ่งได้โทรศัพท์เครื่องใหม่มาเมื่อกี้เอง และกว่าจะใส่ซิมเสร็จ...” ฉินอี่หนานหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษอีก “ซ่งซ่ง พี่ขอโทษด้วยนะ”
หากคนเรารักใครสักคนหนึ่งอย่างแท้จริง จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า คำว่า “ขอโทษ” นั้นสร้างความเจ็บปวดให้สักเพียงใด เพราะคำขอโทษนี้มักตามติดมาด้วยความเศร้าเคล้าน้ำตาของใครคนหนึ่งเสมอ
ซ่งชิงชุนไม่ชอบเลยที่ได้ยินคำคำนี้จากปากฉินอี่หนาน ทว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เกือบครึ่งหนึ่งของถ้อยคำทั้งหมดที่เขาเอ่ยกับเธอนั้น กลับเป็นคำคำนี้
ซ่งชิงชุนหลุบตาลง และฝืนตอบด้วยเสียงน้ำเสียงที่ราบเรียบที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ “ไม่เป็นไรค่ะ พี่อี่หนาน...”
“จริงๆ เหรอ ไม่เป็นไรจริงๆ นะ อย่าโกหกพี่นะ...”
“ไม่ได้โกหกค่ะ...”
แน่นอน จะไม่เป็นไรได้อย่างไร เอาจริงๆ ถ้าเธอไม่ตอบไปเช่นนี้ แล้วจะให้เธอตอบเขาว่าอย่างไร
ด้วยเกรงว่าฉินอี่หนานจะจับความเศร้าในน้ำเสียงของเธอได้ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง และแสร้งทำเป็นบ่นเหมือนเด็กขี้งอน “นี่ พี่อี่หนาน พี่ยังติดค้างของขวัญวันเกิดฉันอยู่นะ”
“แน่นอน พี่ไม่ลืมหรอก เอาไว้พี่จะเลี้ยงข้าวเธอแทนแล้วกัน”
“งั้นพี่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ ฉันจะกินล้างกินผลาญจนพี่หมดตัวไปเลย” ซ่งชิงชุนพูดติดตลก ทว่าประกายในดวงตาเธอกลับอ่อนแสงลง ระหว่างพวกเขาทั้งคู่มักเป็นเช่นนี้ตลอด เธอต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่เขาทำให้เธอปวดใจ ในขณะที่เธอต้องคอยเอ่ยปากยกโทษให้เขาไปทุกครั้งทุกครา หลายต่อหลายครั้งแล้วที่เป็นเช่นนี้ จนเธอบอกไม่ได้ว่า เธอเสแสร้งเก่งหรือเขาไม่สนใจความรู้สึกของผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง และก็นะ บางทีเขาอาจเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงดี แต่เข้าใจแค่ความรู้สึกของผู้หญิงที่ชื่อถังหน่วนเพียงคนเดียวเท่านั้น
มือของซ่งชิงชุนที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้น เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย และหลังจากลังเลครู่หนึ่ง ซ่งชิงชุนก็เอ่ยปากถาม “พี่อี่หนาน ในวันเกิดของฉัน พี่บอกว่าบังเอิญเจอเพื่อนเก่า... เพื่อนเก่าคนนั้นใช่ถังหน่วนหรือเปล่าคะ”
“เธอรู้ได้ยังไง” ฉินอี่หนานตกใจ จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ถังหน่วนกับซ่งชิงชุนเคยเป็นเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน
ก่อนซ่งชิงชุนจะตอบ เขาก็กล่าวต่อ “ถังหน่วนบอกเธออย่างนั้นหรือ วันนั้นถังหน่วนเกิดข้อเท้าเคล็ด พี่เลยพาเขาไปโรงพยาบาล... คิวที่โรงพยาบาลยาวมาก กว่าเราจะหาหมอเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบห้าโมงเย็นแล้ว...”
ซ่งชิงชุนรู้สึกเสียใจที่ถามคำถามนั้นออกไป เพราะเธอไม่อยากรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาในวันเกิดของเธอ ดังนั้นเธอจึงตัดบทพูดแทรกฉินอี่หนาน “พี่อี่หนานคะ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ” ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซ่งชิงชุนได้ยินเสียงฉินอี่หนานหยิบเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม