ตอนที่ 72
บทที่ 72 คนเพี้ยนแซ่ซู... คุณชายซูจอมอนามัย (2)
“หยุดนะ อย่าคิดบ้าๆ แบบนั้น ต้องไม่คิดอย่างนั้น บ้านสองชั้นหลังนี้ มีเนื้อที่เกินสามร้อยตารางฟุตเชียวนะ...”
ริมฝีปากของซูจือเนี่ยนขยับยิ้มนิดๆ ขณะฟังซ่งชิงชุนร้องคร่ำครวญ ถึงจะเป็นรอยยิ้มเพียงน้อยนิด แต่นั่นก็ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดูชาเย็นจนเป็นนิสัยของเขาดูผ่อนคลายลง เฉิงชิงชงที่ลอบแอบมองซูจือเนี่ยนผ่านกระจกมองหลังอยู่ ตาเบิกโพลงอย่างตกอกตกใจ นั่นเจ้านายกำลังยิ้มอยู่ใช่ไหม ถ้าเรียกว่านั่นคือรอยยิ้มนะ จะพูดให้ถูก น่าจะเป็นยิ้มนิดๆ ซะมากกว่า...
เฉิงชิงชงเป็นเลขานุการของซูจือเนี่ยนมานานแล้ว เธอไม่เคยเห็นเขายิ้มเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่สักปานใดก็ตาม
อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่หนึ่งในสิบเรื่องของซูจือเนี่ยนที่ชาวเน็ตสงสัยใคร่รู้คือ หน้าตาของเขาจะดูเป็นอย่างไรเวลายิ้ม
เฉิงชิงชงแอบหยิกขาตัวเอง พอรู้สึกเจ็บจึงได้รู้ว่าเธอมิได้ฝันไป จากนั้นเธอก็ครุ่นคิดในใจ เจ้านายก็รู้จักวิธียิ้มกับเขาด้วยเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าเวลายิ้มแล้ว เขาดูดีจริงๆ แต่อะไรล่ะที่ทำให้เขายิ้มออกมา... หรือจะเป็นใครที่เธอไม่รู้จักมักคุ้น ในมือถือเจ้านายมีรูปใครเก็บงำอยู่ด้วยงั้นหรือ
ในระหว่างที่เฉิงชิงชงครุ่นคิดคาดเดาในใจอยู่นั้น เธอพลันได้ยินเสียงเจ้านายสั่ง “ไปออฟฟิศได้”
เมื่อรถเริ่มเคลื่อนออก ซูจือเนี่ยนก็ทอดสายตาออกไปยังทิวทัศน์ที่เคลื่อนผ่านด้านนอกหน้าต่างรถ แต่เสียงของซ่งชิงชุนยังคงแว่วเข้าหูเขา “อีตาเพี้ยนซู... อีตาเพี้ยนซู... อีตาคุณชายซูจอมอนามัย... อีตาคุณชายซูจอมอนามัย...”
ซูจือเนี่ยนจำได้ว่าตอนที่ซ่งชิงชุนไปหาเขาที่ร้านเอลโดราโด้ แล้วถังนั่วได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซ่งชิงชุนให้เพื่อนในห้องฟังว่า อันที่จริง พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันหรอก แต่ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้วละก็ ตั้งแต่ซูจือเนี่ยนเกิดมาจนถึงวันนี้ ซ่งชิงชุนอาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถแทรกตัวเข้าสู่โลกส่วนตัวของเขาได้
ถังนั่วพูดได้ถูกต้อง แต่เขายังขาดข้อมูลสำคัญไปอีกข้อหนึ่งคือ เมื่อซ่งชิงชุนเข้ามาสู่โลกของเขาแล้ว เธอไม่เคยจากไป
แล้วเขากับซ่งชิงชุนเกี่ยวพันกันอย่างไรงั้นหรือ อันที่จริง เราทั้งคู่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่ถ้าจะให้โยงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันแล้วละก็ ซ่งชิงชุนเป็นเพียงหญิงคนหนึ่ง ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในความทรงจำของเขา
...
ซ่งชิงชุนไม่ได้พูดอวดอ้างเกินจริง ตอนซูจือเนี่ยนพักอยู่ที่บ้านเธอ เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนคลั่งไคล้ความสะอาดมากขนาดไหน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา อีตาบ้านั่นคงต้องโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเธอมากแน่ๆ ตอนเธออาเจียนใส่ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ เธอจะทำเป็นโมโหยิ่งกว่าเพื่อกลบเกลื่อนข่มเขาไว้ ถึงแม้โดยส่วนใหญ่แล้วเธอจะไปฝ่ายไปง้อเขาก่อนตลอดเพราะทนเหงาไม่ได้ก็ตาม
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอกำลังต้องการความช่วยเหลืออันยิ่งยวดจากเขา และซ่งเอ็มไพร์หวังพึ่งเขาแต่เพียงผู้เดียว เธอไม่กล้ายั่วโมโหเขาหรอก ถ้าเกิดเขาเอาเรื่องนี้มายกเลิกสัญญาล่ะ
ฉะนั้นเธอต้องหาทางง้อ ทำให้เขาหายโกรธเธอให้ได้
ซ่งชิงชุนไม่รู้ว่าซูจือเนี่ยนจะกลับบ้านหรือไม่เย็นนี้ แต่ตลอดทั้งวัน เธอเฝ้าครุ่นคิดหาวิธีบรรเทาความโกรธของซูจือเนี่ยน
ที่แน่ๆ เขาคงโยนเสื้อผ้าที่เธออาเจียนใส่ทิ้งถังขยะเป็นแน่แท้ ฉะนั้นสิ่งแรกที่เธอต้องทำคือไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เขา จากนั้นก็เข้าไปขอโทษขอโพยเขาอย่างจริงใจ บางทีนั่นอาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของเธอ
ซ่งชิงชุนออกจากที่ทำงานก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง รีบบึ่งไปยังห้างสรรพสินค้า เธอไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่โดยเลือกยี่ห้อที่ซูจือเนี่ยนใช้ประจำ
สำหรับซ่งชิงชุนคนก่อนนั้น ราคาเสื้อผ้าแค่นี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเธอล่วงหรอก แต่สำหรับเธอในปัจจุบันแล้ว... ตอนเธอรูดบัตรเครดิต เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกขูดเลือดขูดเนื้ออย่างไรอย่างนั้น