ตอนที่ 69
บทที่ 69 สุดที่รักของเธอ ศัตรูหัวใจของเขา (9)
ทั้งสองเดินจากไปแล้ว ทว่าเขายังยืนทื่ออยู่ตรงนั้นนานสองนานราวกับคนซื่อบื้อ
วันนี้เป็นวันเกิดของเขา เขาได้ขอนัดกับเธอล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แต่พอฉินอี่หนานมาถึง เธอก็สลัดเขาทิ้งไปจากใจเธอได้อย่างง่ายดาย
คืนนั้นเขาดื่มหนักไปหน่อย ไม่รู้เลยว่ากลับถึงบ้านสกุลซ่งได้อย่างไร หรือขึ้นมาที่ห้องนอนได้อย่างไร
เมื่อเขามองเห็นใบหน้าของเธอผ่านสติอันเลอะเลือนมึนเมา สิ่งแรกที่เขาคิดอยากทำคือจะต้องจูบเธอให้ได้...
ยามเป็นเด็ก เขาเคยชินเสียแล้ว กับสีหน้าตกอกตกใจ และหวาดกลัวของผู้คนที่มองมาทางเขา
ในเวลานั้นเขาไม่ได้รังเกียจรังงอนกับสายตาที่มองมาเลย อันที่จริงค่อนข้างจะชอบเสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งมารดาส่งเขาไปอยู่ที่ศูนย์พักฟื้นดูแลผู้ป่วยโรคจิตนั่นแหละ และโดนหญิงวัยกลางคนโรคจิตคนนั้นลวนลาม นับจากนั้นมา เขาจึงโกรธและรังเกียจบรรดาสายตาทั้งหลายแหล่ที่จับจ้องเขา เขารู้สึกแบบนั้นมาตลอดจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ขณะที่เด็กผู้ชายวัยรุ่นรุ่นราวคราวเดียวกับเขา มักจับกลุ่มคุยกันเรื่องใต้สะดือ หมกมุ่นเรื่องทางเพศ ชอบช่วยตัวเองในห้องน้ำ หรือมีความสัมพันธ์กับแฟนสาว แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกรู้สา ไม่มีความต้องการหรือรู้สึกอยากในเรื่องพวกนี้สักนิด
มีผู้หญิงหลายคนที่โรงเรียนมักชักชวนยวนเย้าเขาอย่างโจ่งแจ้ง แต่ไม่ว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะหน้าดีแค่ไหนก็ตาม เขาไม่เคยคิดจะสนใจพวกเธอเลย จนกระทั่งผู้หญิงบางคนก็เลิกสนใจเขา เพราะท่าทีห่างเหินไม่เล่นด้วยของเขา แต่ก็มีบางคนที่ไม่ยอมเลิกรา บางคนถึงขนาดเปลื้องผ้าเปลือยกายยั่วยวนเขาต่อหน้าต่อตา...
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักนิด ร่างกายของเขาไม่มีปฏิกิริยา ไร้การตอบสนองใดๆ อันที่จริง เวลามีผู้หญิงเข้าหาเขา ความรู้สึกเดียวที่เขามี คือคลื่นไส้อยากจะอาเจียน ในเวลานั้น เขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะมีปัญหาที่อวัยวะส่วนนั้น...
ในคืนนั้น เมื่อเขาจูบเธอด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าของตัวเองแล้ว เขารู้สึกอึ้งปนยินดีที่ได้กระทำเช่นนั้นลงไป ตอนแรกเขาคิดว่าทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงความฝัน เป็นภาพลวงตา... ทว่า แม้กระทั่งในฝัน เธอก็ยังต่อสู้ขัดขืนเขา ทั้งหมดทั้งมวลนี้สืบเนื่องมาจากฉินอี่หนานทั้งสิ้น
ด้วยความหึงหวงโกรธเกรี้ยวที่ปะทุโหมอยู่ภายในตัวเขา กอปรกับความมึนเมาไร้สติ เขาจึงใช้พลังจิตเข้าควบคุมจิตใจเธอและ...
ในตอนนั้นเอง ที่เขารับรู้ว่าอวัยวะส่วนนั้นของเขาเป็นปกติดี ก่อนหน้านี้เขาเพียงแต่ไม่สนใจ ไม่มีอารมณ์กับคนที่เขาไม่ได้รักเท่านั้น เช้าวันต่อมา เธอพูดกับเขาเพียงสองประโยคด้วยใบหน้าซีดขาว นัยน์ตาแดงก่ำ
“ซูจือเนี่ยน ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบ
ทางที่ดีคุณควรลืมเรื่องที่เกิดขึ้นให้หมด และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไปจนวันตาย”
จากนั้นมา เธอก็คอยหลบเลี่ยงเขา จนถึงขนาดไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง เธอบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเขา ปฏิเสธที่จะคุยหรือสื่อสารกับเขาทุกช่องทาง
ในตอนนั้น เขาอยากจะหาโอกาสเข้าไปพูดคุยกับเธอตามลำพังสองคน จะได้ขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา ทว่าก่อนที่จะได้ทำตามความตั้งใจ เขาบังเอิญไปล่วงรู้ความลับที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง ความลับที่ทำให้เขาไม่สามารถเป็นคนรักของเธอได้
นับแต่นั้นมา ความรักของเขาที่มีต่อซ่งชิงชุนก็กลายเป็นเรื่องลับสุดยอดเหมือนกับความลับเรื่องพลังวิเศษของเขา
...
ภายในห้องเงียบผิดปกติ ซ่งชิงชุนนอนหลับสนิท บางทีอาจเพราะนึกถึงเรื่องในอดีต สายตาของซูจือเนี่ยนที่เฝ้ามองดูใบหน้าของเธอจึงเปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
เขายังจำได้อย่างชัดเจนว่า เขาเสียอกเสียใจขนาดไหนเมื่อล่วงรู้ความลับต้องห้าม ความลับอันดำมืดนั้น เขาถึงกับเข้าบาร์ ดื่มสุราจนเมามายไร้สตินานเจ็ดวันเจ็ดคืน
เขาได้แต่คิดว่าตัวเองไม่น่าล่วงรู้ความลับนี้เลย แต่พลังวิเศษของเขาทำให้รับรู้ได้ เขาเอาแต่ตำหนิตัวเองและถึงขั้นคิดจะทำร้ายตัวเองเสียด้วยซ้ำ...
ราวกับไม่อยากจมปลักอยู่กับอดีตอันดำมืดอีกต่อไป ซูจือเนี่ยนเบือนหน้า มองออกไปที่นอกหน้าต่าง ท่ามกลางคืนอันเงียบสงัด