ตอนที่ 6
ตอนที่ 6 ร่วมชายคาเดียวกัน (6)
คงจะเป็นการโกหกหากจะกล่าวว่าซ่งชิงชุนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมารดาของซูจือเนี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเมื่อเหตุการณ์คราวนั้น เธอไม่ติดต่อซูจือเนี่ยนอีกเลย แล้วจะนับประสาอะไรกับมารดาเขา
ในความทรงจำของซ่งชิงชุน มารดาของเขาเป็นคนน่ารัก ใจดีมีเมตตา อีกนัยหนึ่งคือต่างกับบุตรชายราวฟ้ากับเหว ซ่งชิงชุนไม่มั่นใจว่ามารดาเขายังจำเธอได้หรือเปล่า และตระหนักดีว่าการมาเยี่ยมโดยไม่บอกกล่าวก่อนเช่นนี้ไม่เหมาะสม แต่เพื่อความอยู่รอดของตระกูล เห็นแก่อาการป่วยของบิดาและพี่ชายผู้ล่วงลับของเธอ ซ่งชิงชุนจึงตัดสินใจไปเยี่ยมมารดาของซูจือเนี่ยนในบ่ายวันเสาร์วันหนึ่ง
บ้านมารดาของเขาตั้งอยู่บนเนินเขาด้านเหนือของกรุงปักกิ่ง อยู่ติดกับเขื่อนมีสภาพแวดล้อมงดงามดีเลิศ ซ่งชิงชุนไปที่นั่นโดยใช้ที่อยู่ซึ่งหามาได้จากอินเทอร์เน็ต
ประตูบ้านเปิดกว้างปราศจากคนเฝ้า ซ่งชิงชุนก้าวไปยังลานหน้าบ้านที่ตกแต่งเป็นอย่างดี แล้วกดกริ่งประตู หลายนาทีต่อมา เธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านใน ประตูเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้างดงามที่คล้ายคลึงกับซูจือเนี่ยน
แม้จะผ่านไปแล้วหลายปี ซ่งชิงชุนมองแวบเดียวก็รู้ว่านี่คือมารดาของซูจือเนี่ยน เธอมอบของกำนัลที่นำมา ด้วยพร้อมแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“คุณป้าซูคะ หนู... ชิงชุนเองค่ะ”
บางทีมารดาซูจือเนี่ยนอาจยังจำเธอได้ เพราะพอได้ยินชื่อซ่งชิงชุน เธอก็ได้รับเชิญเข้าบ้านโดยไม่มีการไถ่ถามอะไรเพิ่มอีก ความกระตือรือร้นกอปรกับความเมตตาของมารดาเขาช่วยปลอบประโลมใจของซ่งชิงชุน ทั้งคู่รู้สึกถูกชะตากัน ครั้นคุยกันไปสักพัก ความเก้อเขินระหว่างกันก็มลายหายไปสิ้น
เมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็น มารดาเขาเริ่มเตรียมอาหารเย็น และเพราะรู้สึกดีกับซ่งชิงชุน เธอจึงชวนซ่งชิงชุนให้อยู่รับประทานอาหารด้วยกัน ซ่งชิงชุนตั้งใจอยู่รอพบซูจือเนี่ยนอยู่แล้วจึงตอบรับ อีกทั้งยังเข้าไปช่วยทำอาหารอีกสองจานด้วย
หลังทำอาหารเสร็จ ซ่งชิงชุนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ขณะเปิดประตูห้องน้ำ เธอได้ยินเสียงประตูหน้าเปิด จึงเหลียวมองไปที่ประตูโดยอัตโนมัติ เห็นซูจือเนี่ยนสวมเสื้อหนาวกันลมสีดำเดินเข้ามา
ซูจือเนี่ยนกำลังถอดเสื้อคลุมออกเมื่อมองเห็นซ่งชิงชุน เขาหยุดกึกแล้วทำหน้านิ่ว จากนั้นถามเสียงขุ่นว่า “คุณมาที่นี่ทำไม”
ก่อนซ่งชิงชุนจะเอ่ยตอบ มารดาของเขาผู้ได้ยินเสียงประตูหน้าเปิด จึงเดินออกจากห้องครัว พลางเอ่ยว่า “จือเนี่ยน ลูกกลับมาแล้ว!”
จากนั้นมารดาเขาก็เดินไปหยิบเสื้อกันลมที่พาดแขนเขาอยู่มาแขวนบนที่แขวนเสื้อ แล้วเสริมต่อว่า “ลูกยังจำชิงชุนได้ใช่ไหม ลูกสาวลุงซ่งไงล่ะ วันนี้แวะมาเยี่ยม แม่เลยชวนให้อยู่กินข้าวเย็นกับพวกเราด้วย”
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากมารดา ซูจือเนี่ยนก็ส่งสายตาเย็นยะเยือกมายังซ่งชิงชุน เธอรู้สึกได้ถึงความขุ่นเคืองที่แฝงอยู่ในคำถามก่อนหน้านี้ของเขาอย่างชัดเจน และยามสบสายตาอันเย็นชาของเขา เธอก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกขึ้นมาทันที ราวจะถูกเขาผลักไสให้ออกไปจากบ้านอีกอย่างไรอย่างนั้น
ซ่งชิงชุนโล่งอกไป ซูจือเนี่ยนเพียงจ้องมองเธอเขม็งราวห้าวินาที ก่อนจะละสายตาไป แล้วพยักหน้ารับรู้กับมารดา พร้อมทำเสียง “อืม”
มารดาเขายิ้ม “เอาละ อย่ามัวมายืนกันตรงนี้เลย ไป... ไปล้างมือ เตรียมกินข้าวเย็นกันเถอะจ้ะ”