ตอนที่ 41
ตอนที่ 41 ร้อยวันของการอยู่ด้วยกัน (1)
อาจเพราะเครียดมากเกินไป ซ่งชิงชุนจึงเอาแต่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังอยู่ข้างหู เมื่อลองฝืนลืมตาขึ้นเพื่อดูว่าตัวเองหูแว่วหรือเปล่า เธอก็เห็นรถยนต์สีเหลืองสาดไฟเข้ามาทางหน้าต่าง แสงไฟหน้ารถสว่างจ้าจนทำให้เธอตาพร่าไปหมด
ภาพนั้นทำให้ซ่งชิงชุนกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันที จากหน้าต่าง เธอมองเห็นรถค่อยๆ ชะลอจนจอดสนิท แล้วซูจือเนี่ยนก็ก้าวออกมา เขากระแทกประตูรถให้ปิดก่อนย่างเท้าตรงมาที่บ้าน
ยิ่งเขาใกล้เข้ามาเท่าไร หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นเร็วเท่านั้น หญิงสาวยืนตัวแข็ง กลั้นหายใจ จ้องมองไปที่ประตูหน้าตาไม่กะพริบ เมื่อได้ยินเสียงกดรหัสบนประตู เธอก็ปรี่ไปที่ทางเข้าทันที
ก่อนที่ซ่งชิงชุนจะทันได้เปิดประตูให้เขา ซูจือเนี่ยนก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว เรือนผมของเขายุ่งเหยิงอาจเป็นเพราะทำงานยาวนานมาทั้งวัน ความอ่อนล้าทำให้สันกรามของเขาดูแข็งทื่อ ส่งให้เขาดูไม่เป็นมิตรยิ่งกว่าเดิม
ซ่งชิงชุนเหลือบตามองซูจือเนี่ยนเพียงครั้งเดียว ก่อนนั่งลงไปหยิบรองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านออกมาวางเบื้องหน้าเขา แล้วพูดว่า “คุณกลับมาเสียทีนะคะ”
ซูจือเนี่ยนเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขาไม่แสดงท่าทางรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่พูดตอบรับเธอเลย แล้วชายหนุ่มก็เดินขึ้นบันไดไปราวกันว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย
ซูจือเนี่ยนใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเดินจากประตูหน้าจนกระทั่งเข้าห้องไป แต่ในเวลาเพียงหนึ่งนาทีนั้น แผ่นหลังของเธอกลับชื้นไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ
การกลับมาของซูจือเนี่ยนทำให้ซ่งชิงชุนตื่นเต็มตา ความปรารถนาที่จะนอนหลับโบยบินออกไปทางหน้าต่าง เธอหามือถือที่ทำตกอยู่ในซอกเบาะโซฟา และเมื่อพบ ตัวเลขบนหน้าจอบอกว่าเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว
ในที่สุดหัวใจของซ่งชิงชุนที่เต้นแรงราวกับจะกระโจนออกมาทางปาก ก็เริ่มผ่อนคลายลง
อีกแค่ชั่วโมงเดียวก็จะเจ็ดโมงเช้าแล้ว อีกนัยหนึ่งคือเธอต้องทนอีกแค่หนึ่งชั่วโมง ก็จะหลุดพ้นจากความทรมานนี้เสียที... และชั่วโมงสุดท้ายนี้ เธอจะเตรียมอาหารเช้า และใช้มันเป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับเขา
อาหารค่ำของเมื่อคืนยังสามารถนำออกมาอุ่นไมโครเวฟได้ แต่ซ่งชิงชุนไม่เพียงทำอาหารเช้าจากของเดิมเท่านั้น เธอยังเลือกทำเมนูโจ๊กข้างฟ่างที่ใช้เวลานานที่สุดอีกด้วย เมื่อมื้อเช้าพร้อม ก็เป็นเวลาหกโมงสี่สิบห้าแล้ว เหลือเวลาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น...
ซ่งชิงชุนถ่วงเวลาอีกห้านาทีเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้องครัว ก่อนตัดสินใจขึ้นไปชั้นบนเพื่อเคาะประตูห้องนอนของซูจือเนี่ยน “คุณซูคะ อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ซ่งชิงชุนได้ยินเสียงฝีเท้าผ่านบานประตูกำลังใกล้เข้ามา แล้วประตูก็เหวี่ยงเปิดออกจากภายใน
ซูจือเนี่ยนเปลี่ยนไปใส่ชุดลำลองแล้ว ซ่งชิงชุนคิดว่าเขาน่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่จากตัวเขา เป็นกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกมีภูมิฐาน
เขาเดินผ่านเธอลงไปชั้นล่างโดยไม่พูดอะไรเลย ซ่งชิงชุนเดินตามหลังเขาไปอย่างเชื่อฟัง พร้อมกับรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างกัน
เมื่อซูจือเนี่ยนเดินลงบันไดมาจนเหลืออีกสามขั้นจะถึงพื้น เขาก็ชะงักเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางสีชมพูวางชิดผนังอยู่ รวมถึงรอยยับย่นบนโซฟา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แล้วจู่ๆ ก็หันมามองเธอที่ยืนอยู่ด้านหลัง
หญิงสาวสะดุ้งตกใจกับการเคลื่อนไหวอันปุบปับนั้น เขาชี้มือไปยังประตูบานที่ปิดอยู่ถัดจากห้องนอนของเขา แล้วเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “นั่นห้องของคุณ”