ตอนที่ 32
ตอนที่ 32 อดีตที่เราเคยมี (2)
ครั้งแรกที่ซูจือเนี่ยนย้ายเข้ามาอยู่กับครอบครัวซ่ง บิดาเธอก็บอกเธอเช่นนี้ ในตอนนั้นเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แถมยังโทษพ่อด้วยว่าเข้าข้างคนนอก เธอถึงขนาดเคยยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทุกครั้งที่ทะเลาะกับพ่อด้วย แต่หลังจากที่พี่ชายของเธอเสียชีวิตและพ่อล้มป่วยลง เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นอีกแล้ว เธอถึงกับต้องยอมเสียสละตัวเองเพื่อครอบครัวซ่ง
ซ่งชิงชุนพยายามฝืนยิ้มออกไปอย่างดีที่สุด พร้อมพยักหน้าและบอกว่า “หนูเข้าใจค่ะ พ่อ”
อาการป่วยของซ่งเมิ่งหวาอาจดีขึ้นบ้างแล้ว แต่โดยรวมสภาพร่างกายของเขายังคงอ่อนแอ ดังนั้นหลังจากคุยกันเพียงเวลาสั้นๆ เขาก็ผล็อยหลับไปด้วยเหนื่อยล้า
ฟางโหรว พี่สะใภ้ของเธอคอยดูแลพ่อเธอมาโดยตลอด ซ่งชิงชุนจึงบอกให้พี่สะใภ้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ส่วนคืนนี้เธอจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อเอง ก่อนฟางโหรวจะกลับไป ซ่งชิงชุนเดินตามออกไปข้างนอกห้องพักของพ่อ โดยบอกว่าเธออยากเดินไปส่งพี่สะใภ้ จนกระทั่งพวกเธอเดินห่างห้องพักได้สักหน่อย ซ่งชิงชุนจึงพูดกับอีกฝ่าย “พี่คะ ฉันจะย้ายออกจากบ้านเดือนหน้านะคะ”
“ทำไมถึงจะย้ายออกกะทันหันแบบนี้ล่ะ” ฟางโหรวถามอยากตกใจ แต่แล้วเธอก็ดูจะนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงถามขึ้นมาแทนว่า “เธอจะย้ายออกไปอยู่กับซูจือเนี่ยนเหรอ”
“ค่ะ” ซ่งชิงชุนตอบเสียงเบา เธอเงียบไปนิดหนึ่งแล้วเสริมขึ้น “อย่าบอกพ่อนะคะ”
ฟางโหรวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบ “ชิงชุน ฉันขอโทษ”
...
ซ่งชิงชุนอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก่อนสลับหน้าที่กับพี่สะใภ้ ตอนเธอกลับมาถึงบ้าน เพิ่งเป็นเวลาเพียงหนึ่งทุ่ม แต่ซ่งชิงชุนกลับรู้สึกเหนื่อยแสนเหนื่อย เธอจึงคลานขึ้นเตียงโดยไม่กินข้าวเย็น
ตั้งแต่ที่ซ่งเฉิงฆ่าตัวตาย ซ่งชิงชุนก็ไม่เคยนอนหลับสนิทเลยสักคืน ตอนนี้วิกฤตของซ่งเอ็มไพร์กำลังจะได้รับการแก้ไข เธอจึงผ่อนคลายได้เสียที เธอหลับสนิทมากจนแม่บ้านต้องพยายามปลุกเธอหลายครั้งกว่าจะตื่น
อาจเป็นเพราะได้รับโทรศัพท์จากฉินอี่หนาน ซ่งชิงชุนจึงฝันถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก
...
ตอนที่ซ่งชิงชุนยังเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่ง กิจการของซ่งเมิ่งหวายังไม่เจริญรุ่งเรืองนัก และซ่งเอ็มไพร์ก็ยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้น ในเวลานั้นสมาชิกครอบครัวทั้งสี่อาศัยกันอยู่ในบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ ไม่ใหญ่โตนักทางตะวันตกของปักกิ่ง
และหนึ่งในสี่ของครอบครัวที่อยู่ร่วมบ้านเล็กหลังนั้น คือครอบครัวของฉินอี่หนาน
ฉินอี่หนานกับซ่งเฉิงเกิดเดือนเดียวกันและปีเดียวกัน แม่ของเธอกับแม่ของฉินอี่หนานตั้งครรภ์และอุ้มท้องลูกคนแรกเมื่ออยู่ในบ้านเล็กหลังนั้น ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ทั้งสองจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
การที่พวกแม่ๆ สนิทกันมาก เมื่อซ่งชิงชุนโตขึ้นมาหน่อย แม่ของฉินอี่หนานจึงมาเล่าให้เธอฟังว่า ตอนตั้งท้อง พวกท่านได้ทำข้อตกลงลับๆ กันสองคน ว่าถ้าแต่ละคนคลอดลูกชายและลูกสาว โตขึ้นพวกท่านจะให้เด็กสองคนนี้แต่งงานกัน แต่น่าเสียดายที่พวกท่านให้กำเนิดเด็กชายสุขภาพแข็งแรงทั้งคู่ เหล่าแม่ๆ จึงผิดหวังมาก ถึงขนาดร้องไห้ออกมาด้วยว่าไม่ได้เกี่ยวดองกัน
ตอนที่ซ่งชิงชุนได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิด แต่กลับดีใจและรู้สึกขอบคุณที่ซ่งเฉิงเป็นเด็กผู้ชาย
ในตอนนั้น ซ่งเมิ่งหวาถือว่าเป็นคนที่มีการศึกษาสูงที่สุดในบรรดาครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังเล็กนั้น ขณะที่พ่อของฉินอี่หนานเรียนไม่จบการศึกษาชั้นประถมด้วยซ้ำ ดังนั้นพ่อของเธอจึงเป็นคนตั้งชื่อให้ทั้งฉินอี่หนานและซ่งเฉิง
ซ่งเฉิงกับฉินอี่หนานนอนเตียงเด็กหลังเดียวกัน และโตมาเป็นเพื่อนสนิทกัน ที่จริงแล้วพวกเขาเหมือนพี่น้องกันเสียมากกว่า แม้แต่ซ่งชิงชุนก็ยังเคยหลงคิดอยู่หลายปีว่าเธอมีพี่ชายสองคน
และนับตั้งแต่หัดเดินได้ ซ่งชิงชุนก็ชอบติดสอยห้อยตามซ่งเฉิงและฉินอี่หนานไปไหนต่อไหนด้วย