ตอนที่ 31
ตอนที่ 31 อดีตที่เราเคยมี (1)
ซ่งชิงชุนอยากบอกลาซูจือเนี่ยนให้เหมาะสมก่อนออกจากบ้านพักของเขา แต่ว่าประตูห้องนอนของเขาล็อกอยู่ และแม้เธอจะเพียรเคาะมาสักพัก ก็ไม่มีใครขานตอบเลย เธอจึงเอ่ยคำลาเบาๆ ผ่านบานประตูนั้น
กว่าเธอจะกลับไปถึงบ้านครอบครัวซ่งก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว พี่สะใภ้เธออยู่ดูแลบิดาเธอที่โรงพยาบาล ส่วนแม่บ้านก็กำลังจัดเตรียมอาหารเที่ยง เมื่อซ่งชิงชุนออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ อาหารก็พร้อมพอดี แม่บ้านพูดกับเธอว่า “คุณหนูคะ มื้อเที่ยงอยู่บนโต๊ะนะคะ ฉันจะไปส่งอาหารให้กับนายท่านและคุณหนูที่โรงพยาบาลก่อนนะ”
ซ่งชิงชุนชะงักมือที่กำลังเช็ดผม แล้วตะโกนบอกกับแม่บ้านที่กำลังจะออกไปว่า “อีกเดี๋ยวฉันก็จะไปที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว ฉันเอาอาหารไปให้เองดีกว่า”
“ค่ะ คุณหนู”
ซ่งชิงชุนคิดก่อนเสริมขึ้นว่า “งั้นฉันไม่กินข้าวที่บ้านแล้ว ช่วยฉันห่อหน่อยสิ ฉันจะไปกินกับพ่อที่โรงพยาบาล”
...
วันนั้นซ่งเมิ่งหวาอารมณ์ดี และยิ่งดีขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นหน้าซ่งชิงชุน หญิงสาวป้อนข้าวบิดาด้วยตนเอง และหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ เธอก็ช่วยเขาบ้วนปากกลั้วคอ ก่อนที่พ่อของเธอจะถามไถ่เรื่องหนึ่งขึ้นมา ซ่งชิงชุนจึงหยิบสัญญาออกมาจากกระเป๋าแล้วเอ่ยว่า “พ่อคะ ซูจือเนี่ยนตกลงรับช่วงต่อบริหารซ่งเอ็มไพร์แล้วค่ะ” ประกายความประหลาดใจปนยินดีวาบขึ้นในดวงตาของซ่งเมิ่งหวา พร้อมกับที่อุทานขึ้นว่า “จริงหรือ” เขารับสัญญาไปอ่านทวนอยู่หลายหน ก่อนถามขึ้น “ลูกให้หุ้นหรือโบนัสกับเขาเท่าไรล่ะ เขาถึงยอมตกลง”
“เขาไม่ต้องการทั้งสองอย่างเลยค่ะ” ซ่งชิงชุนตอบ
“เขาไม่รับอย่างนั้นเหรอ” ซ่งเมิ่งหวาขมวดคิ้ว “แล้วเขาต้องการอะไรล่ะ”
“เขาไม่ต้องการอะไรเลยค่ะ” เธอโกหกหน้าตาย ถ้าพ่อของเธอรู้ว่าเธอเซ็นสัญญาแบบนั้นกับซูจือเนี่ยน เขาคงยอมตายมากกว่าจะยอมให้ซูจือเนี่ยนมาบริหารซ่งเอ็มไพร์เป็นแน่
“เขาไม่ต้องการอะไรเลยเหรอ” ร่องรอยแห่งความเสียใจปรากฏอยู่ในดวงตาของซ่งเมิ่งหวา “ชิงชุน บอกพ่อมาตามตรงนะ ลูกไม่ได้โกหกพ่ออยู่ใช่ไหม ทำไมเขาถึงจะช่วยซ่งเอ็มไพร์โดยไม่ต้องการอะไรเลยล่ะ ลูกต้องไม่ทำอะไรโง่ๆ นะ...”
“แหม พูดอะไรกันคะพ่อ” ซ่งชินชุนขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นร่าเริง “ซูจือเนี่ยนเคยมาขออาศัยบ้านเราอยู่นะคะ เขาก็เลยรู้สึกติดหนี้บุญคุณพ่อมากเลย อีกอย่าง หนูไปเจอป้าซูมาด้วย ป้าเลยช่วยเกลี้ยกล่อมให้ซูจือเนี่ยนช่วยพวกเราอีกแรง...”
“เป็นแบบนั้นเองสินะ...” ซ่งเมิ่งหวาเชื่อคำพูดโกหกของลูกสาวทันทีที่เอ่ยถึงมารดาซูจือเนี่ยน เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก แล้วหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขขณะพูดว่า “วิเศษ วิเศษเลย”
จากนั้นเขาหันไปที่หาซ่งชิงชุนราวกับนึกบางอย่างได้แล้วกล่าวว่า “คืนนั้น ตอนที่จู่ๆ ซูจือเนี่ยนก็ย้ายออกจากบ้านเราโดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุน่ะ พอพ่อถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่ยอมบอก พ่อเลยคิดว่าเป็นเพราะพวกลูกทะเลาะกัน พ่อเลยอดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ตอนลูกต้องมารับหน้าที่เป็นคนไปขอให้เขาช่วย แต่ตอนนี้พ่อรู้แล้วว่าพ่อคิดมากไปเอง เจ้าเด็กคนนั้น จือเนี่ยนน่ะ ดูผิวเผินแล้วอาจเป็นคนเย็นชา แต่เขาเป็นเด็กดีมากคนหนึ่งเลยนะ...”
พ่อของเธอพูดถูก หลังจากที่เธอกับซูจือเนี่ยนทะเลาะกันครั้งใหญ่ เขาก็เก็บข้าวของแล้วย้ายออกไปจากบ้านของครอบครัวซ่งทันที จนพ่อของเธอไม่มีโอกาสขอให้เขาอยู่ต่อด้วยซ้ำ และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของเธอกับซูจือเนี่ยนก็สิ้นสุดลงเช่นกัน
ซ่งเมิ่งหวายังคงพูดต่อเมื่อนึกย้อนถึงอดีต จากนั้นก็ลูบมือซ่งชิงชุนพร้อมกับเอ่ยเตือน “ชิงชุน ตอนนี้พวกเรากำลังลำบาก จือเนี่ยนมาที่นี่เพื่อช่วยเรา ลูกจะดื้อกับเขาเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ ลูกต้องนุ่มนวลและเคารพเขามากกว่าเดิม...”