ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 ร่วมชายคาเดียวกัน (2)
ซูจือเนี่ยนอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้วป้าซุนก็นำกาแฟไปให้เขาในห้องนอน เขายืนนิ่งจ้องมองผ่านหน้าต่างบานยาวออกไป
รังสีความเย็นชาชวนขับไล่ผู้คนของเขายังคงแผ่กระจายอยู่ แต่สีหน้าเขากับสงบเรียบนิ่ง ราวกับความโหดร้ายป่าเถื่อนเมื่อครู่มิใช่ความจริง
“คุณซูคะ กาแฟค่ะ” ป้าซุนวางกาแฟลงบนโต๊ะกลมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนระเบียง ซูจือเนี่ยนนิ่งเงียบไร้ปฏิกิริยาใดๆ ประหนึ่งไม่ได้ยินเสียงป้าซุน
ป้าซุนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า “คุณซ่งมาถึงเมื่อตอนเย็นค่ะ เธอรอคุณอยู่ราวเจ็ดชั่วโมงแล้วค่ะ”
ซูจือเนี่ยนไม่ตอบอะไร ทั้งห้องเงียบสงัด ป้าซุนกล่าวต่ออีกอย่างลังเลว่า “คุณซูคะ คุณกับคุณซ่งทะเลาะกันหรือ”
ซูจือเนี่ยนยังคงทำราวกับไม่ได้ยินเสียงป้าซุน
“คุณซูคะ คุณก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านคุณซ่งมาก่อน และมีสัมพันธ์อันดีเสมอมา ทำไมวันนี้คุณถึงทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นอย่างนั้นล่ะคะ” ก่อนป้าซุนจะกล่าวอะไรต่อ ซูจือเนี่ยนที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงอาหารเช้าอยู่ หากไม่ได้ยินความแข็งกร้าวที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา “หรือป้าอยากจะออกไปอยู่กลางลมหนาวเหมือนกันครับ”
ป้าซุนสงบปากอย่างหวาดๆ ทันที เธอขออภัยแล้วรีบรุดออกจากห้อง ความเงียบสงัดในห้องหวนคืนมา ซูจือเนี่ยนจ้องมองผ่านหน้าต่างไปยังไฟถนนที่อยู่ไม่ไกล
ซ่งชิงชุนกำลังยืนอยู่ใต้แสงไฟสลัว ขยับไปมาอยู่ไม่สุขเพื่อให้ร่างอุ่นขึ้น เธอยกมือขึ้นเป่าลมใส่ฝ่ามือเพื่อให้อบอุ่นขึ้นเป็นครั้งคราว แต่สุดท้ายเธอก็เรียกรถแท็กซี่ได้ จึงขึ้นรถและจากไป
ถึงรถแท็กซี่จะลับหายไปแล้ว ซูจือเนี่ยนยังคงยืนนิ่งเหม่อมองดวงไฟบนถนน จนกระทั่งกาแฟร้อนๆ กลายเป็นเย็นชืด เขาจึงกะพริบตา ระลึกถึงคำถามของป้าซุน
“คุณซูคะ คุณก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านคุณซ่งมาก่อน และมีสัมพันธ์อันดีเสมอมา ทำไมวันนี้คุณถึงทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นอย่างนั้นล่ะคะ” นั่นสิ..ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นแขกของบ้านเธอ และในระหว่างนั้นได้บังเอิญพรากสิ่งสำคัญที่สุดของลูกผู้หญิงไปจากเธอ แล้วพวกเขากลายเป็นศัตรูไปได้อย่างไรกัน
---
การปรากฏตัวของซ่งชิงชุนนั้นเป็นเสมือนกับฉากละครเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญ ไม่มีผลใดๆ มากนักต่อซูจือเนี่ยน ในวันต่อมา เขาตื่นนอนกินอาหารเช้าและขับรถไปทำงานเช่นปกติ หลังจากสิ้นสุดยามเช้าอันวุ่นวายแล้ว เขากับเหล่าผู้จัดการพากันเดินไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านคาเฟ่ตรงข้ามบริษัท
เมื่อซูจือเนี่ยนก้าวออกจากลิฟต์ส่วนตัว ผู้จัดการฝ่ายการเงินตรงเข้าหาเขาเพื่อขอลายเซ็น ต่อมาผู้จัดการอีกหลายคนก็กรูเข้ามาเช่นกัน เขายืนหน้าลิฟต์ค่อยๆ รับมือกับเอกสารต่างๆ อย่างสงบ เขาลงลายมือทันทีที่เห็นว่าเอกสารไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นเดินตรงไปยังประตูทางออกของบริษัท ยังมีผู้จัดการสองสามคนเดินตามมาด้วย
“สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านประธานซู” เสียงทักทายแสดงความเคารพดังเป็นระยะระหว่างที่เขาเดินผ่าน พอซูจือเนี่ยนเดินถึงประตูทางเข้า ก็สังเกตเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้า
เป็นเธอนั่นเอง ซ่งชิงชุน หญิงที่เขาโยนออกจากบ้านไปเมื่อวานนี้...